เช็คสิทธิ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2565 ไม่ได้ยืนยันตัวตน 1 ล้านคน ตรวจสอบด่วน

23 พ.ย. 2567 | 06:06 น.

เช็คสิทธิ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2565 ผู้ได้รับสิทธิค้างอยู่ในระบบไม่ได้ยืนยันตัวตนจำนวน 1 ล้านคน ตรวจสอบสถานะและยืนยันตัวตนภายใน 26 ธันวาคม 2567

เช็คสิทธิ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2565 ในโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 กระทรวงการคลัง ได้เปิดให้ลงทะเบียนไปแล้วระหว่างวันที่  5 กันยายน 2565 - 31 ตุลาคม 2565 โดยมีผู้ผ่านคุณสมบัติและได้รับสิทธิไปแล้วก่อนหน้านี้จำนวน 14.55 ล้านราย

แต่ปรากฏว่า กระทรวงการคลัง ได้ตรวจสอบระบบมีประชาชนที่ได้รับสิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ แต่ไม่ได้ไปยืนยันตัวตน ซึ่งค้างอยู่ในระบบไม่ได้รับสวัสดิการแห่งรัฐกว่า 1 ล้านคน กระทรวงการคลัง เปิดให้ไปเช็คสิทธิ ผ่านทางเว็บไซต์ และ ยืนยันตัวตนภายในวันที่ 26 ธันวาคม 2567 หากไม่ยืนยันตัวตนภายในกำหนดต้องลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่ 2568 ซึ่ง กระทรวงการคลัง กำหนดลงทะเบียนภายในเดือนมีนาคม 2568

เช็คสิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2565 กลุ่มตกค้างสามารถตรวจสอบสถานะตามขั้นตอนดังนี้

  • เข้าไปที่เว็บไซต์  https://welfare.mof.go.th/
  • ถัดจากนั้นไปที่ ตรวจสอบสถานะลงทะเบียน (คลิก)
  • กรอกเลขที่บัตรประชาชนจำนวน 13 หลัก
  • กรอก วัน เดือน ปี
  • คลิกตรวจสอบข้อมูล
  • หากตรวจสอบสิทธิแล้วมีชื่อปรากฏ ขั้นตอนต่อไปยืนยันตัวตนที่ ธนาคารกรุงไทย ทุกสาขา

 

เช็คสิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2565

ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐได้รับสิทธิ ดังต่อไปนี้

ทุกวันที่ 1 ของเดือน

  • กรมบัญชีกลาง จะทำการโอนเงินเข้าให้กับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ  (เป็นวงเงินสิทธิไม่สามารถถอนเป็นเงินสดได้ และไม่สะสมในเดือนถัดไป)
  • วงเงินซื้อสินค้า 300 บาทต่อคนต่อเดือน (สำหรับผู้มีสิทธิที่ยืนยันตัวตน 27 ส.ค. - 26 ก.ย. 67 และเริ่มใช้สิทธิได้ 1 ต.ค. 67 จะไม่ได้รับสิทธิย้อนหลัง)
  • วงเงินส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม 80 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน (ต.ค. - ธ.ค. 67)
  • วงเงินค่าเดินทางผ่านระบบขนส่งสาธารณะ 750 บาทต่อคนต่อเดือน (ประกอบด้วย บขส. รถไฟ ขสมก. รถไฟฟ้า และรถโดยสารเอกชนที่เข้าร่วมโครงการ)

ทุกวันที่ 20 ของเดือน

  • เงินเพิ่มเบี้ยความพิการ 200 บาทต่อเดือน  สำหรับผู้มีสิทธิที่เป็นคนพิการ ซึ่งมีบัตรประจำตัวคนพิการและได้รับเบี้ยความพิการ 800 บาทต่อเดือน ที่ยืนยันตัวตน 27 ส.ค. - 26 ก.ย. 67 จะไม่ได้รับสิทธิย้อนหลัง (โอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารที่ผูกพร้อมเพย์ด้วยเลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก ของผู้มีสิทธิหรือบัญชีเงินฝากธนาคารของผู้มีสิทธิหรือผู้รับมอบอำนาจที่ใช้รับเงินเบี้ยความพิการ 800 บาท).

ที่มา:โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565