จากกรณีที่ประเทศไทยส่งชาวอุยกูร์ 40 คนเดินทางกลับประเทศจีนเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดปฏิกิริยามากมายจากต่างชาติออกคำเตือนไทยตามมาทันที ไม่ว่าจะเป็นองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) สหรัฐฯ และองค์กรสิทธิมนุษยชนทั่วโลก
รวมถึงประเทศญี่ปุ่นและประเทศสหรัฐอเมริกา ออกประกาศเตือนมาไทย ขณะที่รัฐบาลออสเตรเลียออกแถลงแสดงความไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งที่ทางการไทยตัดสินใจส่งตัวชาวอุยกูร์ 40 คนกลับไปยังจีนโดยที่พวกเขาไม่เต็มใจ
ด้านสหภาพยุโรป ออกแถลงการณ์เสียใจอย่างยิ่ง ที่ไทยส่งอุยกูร์ กลับจีน เป็นการละเมิดหลักการไม่ส่งตัวกลับ (non-refoulement) และพันธกรณีของประเทศไทยต่อกฎหมายทั้งในระดับชาติและในระดับระหว่างประเทศในฐานะสมาชิกของคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ
ท่ามกลางการออกมาแถลงข่าวจากรัฐบาลไทยว่าเป็นการส่งตัวกลับโดยสมัครใจ เช่นเดียวกับจีนที่ออกมายืนยันว่าการขอส่งตัวชาวอุยกูร์กลับประเทศเป็นไปตามข้อกฎหมายและความร่วมมือระหว่างไทยและจีน พร้อมเผยแพร่ภาพชาวอุยกูร์ ได้อยู่พร้อมหน้าครอบครัวหลังเดินทางกลับจีน
ต่อเนื่องนี้นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่าการออกคำเตือนมาไทยของบางประเทศในขณะนี้ ประเด็นคือเมื่อ 10 ปีก่อนที่มีปัญหาเรื่องอุยกูร์แล้วเกิดการวางระเบิดศาลพระพรหมเอราวัณ แยกราชประสงค์ และมีนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นบาดเจ็บ จึงเป็นที่มาของการประกาศนี้
อย่างไรก็ตามขณะนี้ผมได้สั่งการ ให้สำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย( ททท.) ทั้ง 3 แห่งมอนิเตอร์และเช็คข่าวกับทางสถานทูตอย่างใกล้ชิด เบื้องต้นทั้ง 3 สำนักงานยืนยันว่ายังไม่ส่งผลกระทบ แต่อย่างไรก็ตามจะได้มีการติดตามอย่างต่อเนื่องทั้งในส่วนวันต้นเดือนและในอาทิตย์ต่อๆไป
ทั้งนี้เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 68 เว็บไซต์กระทรวงการต่างประเทศของญี่ปุ่น ออกประกาศของสถานทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย เตือนพลเรือนเกี่ยวกับภัยคุกคามจากการก่อการร้าย หลังมีการบังคับส่งชาวอุยกูร์กลับประเทศ
โดยระบุว่าตามรายงานระบุว่าเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2568 รัฐบาลไทยได้ส่งตัวชาวอุยกูร์หลายสิบคนที่ถูกกักขังในประเทศไทยกลับประเทศจีน
ที่กรุงเทพมหานครเมื่อปี 2558 หลังจากชาวอุยกูร์ถูกส่งกลับประเทศจีน ได้เกิดระเบิดขึ้นเมื่อวันที่ 17 สิงหาคม ปีเดียวกัน บริเวณสี่แยกราชประสงค์ ใกล้ศาลท้าวมหาพรหม เขตปทุมวัน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 20 ราย และบาดเจ็บ 125 ราย รวมทั้งชาวญี่ปุ่นด้วย
“เราขอให้ชาวญี่ปุ่นทุกคนที่อาศัยอยู่ในญี่ปุ่น และนักท่องเที่ยว พยายามหาข้อมูลล่าสุด และดำเนินมาตรการต่อไปนี้ เพื่อหลีกเลี่ยงการเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันหรือเหตุการณ์อื่น ๆ
โดยเฉพาะบริเวณโดยรอบแหล่งท่องเที่ยว สถานที่จัดงาน ร้านอาหาร โรงแรมศูนย์การค้า ระบบขนส่งสาธารณะ สถานที่ทางศาสนา ฯลฯ สถานที่ที่ผู้คนจำนวนมากรวมตัวกัน จึงอาจตกเป็นเป้าหมายการโจมตีของกลุ่มก่อการร้ายได้ ดังนั้น จึงต้องใช้ความระมัดระวังตลอดเวลา
นอกเหนือจากรายงานของสื่อท้องถิ่นแล้ว โปรดพยายามรับข้อมูลด้านความปลอดภัยล่าสุดจาก Tabi-Reji, เว็บไซต์ความปลอดภัยในต่างประเทศ ฯลฯ และตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้ใช้มาตรการด้านความปลอดภัยที่เหมาะสมและเพียงพอตามสถานการณ์
เช่นเดียวกับสถานทูตสหรัฐอเมริกา เตือนก่อการร้ายทั่วประเทศไทย หลังไทยส่ง ‘อุยกูร์’ ให้จีน
แจ้งเตือนด้านความปลอดภัย – สถานทูตสหรัฐอเมริกา กรุงเทพฯ ประเทศไทย สถานที่: ทั่วประเทศไทย โดยระบุว่าเหตุการณ์: เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2025 รัฐบาลไทยได้ส่งตัวชาวอุยกูร์จำนวน 45 คนกลับประเทศจีน การเนรเทศที่คล้ายคลึงกันนี้เคยกระตุ้นให้เกิดการโจมตีตอบโต้อย่างรุนแรงมาแล้ว
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลังจากการเนรเทศชาวอุยกูร์ออกจากประเทศไทยในปี 2015 เกิดระเบิดแสวงเครื่องที่ศาลพระพรหมเอราวัณในกรุงเทพฯ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 20 รายและบาดเจ็บอีก 125 ราย เนื่องจากศาลแห่งนี้มีนักท่องเที่ยวจากจีนเดินทางมาเยี่ยมชมเป็นจำนวนมาก
สิ่งที่ควรทำ: คณะผู้แทนสหรัฐฯ ประจำประเทศไทย แนะนำให้พลเมืองสหรัฐ
ด้านนายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ และเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Nantiwat Samart
โดยข้อความระบุว่า ไม่แปลกใจ รู้อยู่แล้ว เพื่อนต้องมาไม้นี้. มิตรประเทศผู้น่ารักของไทยแถลงคัดค้านทันทีที่ไทยส่งอุยกูร์กลับบ้าน แล้วก่อนหน้านี้ทำไมเพื่อนไม่เอาไป
ไทยเคยมีประสบการณ์ที่ไม่ดีกับการระเบิดที่ศาลพระพรหม ราชประสงค์โดยคนอุยกูร์
แต่ที่เจ็บแสบ เพื่อนไม่น่าทำกัน ออกคำเตือนคนชาติตัวเองให้ระวังการเดินทางมาไทย ที่อาจจะเกิดเหตุก่อการร้ายในไทยอันเป็นผลจากการส่งอุยกูร์กลับจีน
คำเตือนการเดินทางมาไทยของมิตรประเทศ เป็นการตอกย้ำว่า อุยกูร์มีกลุ่มการก่อการร้ายจริง ใครแอบสนับสนุนเราไม่รู้ แต่มีรายงานของสื่อฝรั่งว่า มีคนอุยกูร์ไปร่วมรบในในสงครามยูเครนและอีกหลายสนามรบฝ่ายความมั่นคงต้องเหนื่อยอีกรอบในการสแกนเข้มทั้งพื้นที่และตัวบุคคล รวมทั้งเฝ้าระมัดระวังการเดินทางเข้าไทยของชาวอุยกูร์ ต้องให้นักท่องเที่ยวมั่นใจว่าไทยปลอดภัย