"พิชัย" เผยเตรียมลงนาม FTAไทย-เอฟตา พร้อมนำเข้าสภาฯ หลังลงนามเสร็จ

นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรณีที่กระทรวงพาณิชย์ เสนอ “วาระลับ” ขอความเห็นชอบต่อร่างความตกลงการค้าเสรีระหว่างราชอาณาจักรไทยกับสมาคมการค้าเสรีแห่งยุโรป (European Free Trade Association : EFTA หรือ เอฟตา) นั้น 

 ถือว่าหลักการที่ต้องดำเนินการตามกระบวนการ

ทั้งนี้ หลังจากมีการลงนามความตกลงการค้าฯ ที่กรุงดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ แล้วเสร็จ จึงจะนำเรื่องเข้าสภาผู้แทนราษฎร เพื่อเผยแพร่ข้อมูลต่าง ๆ ให้ประชาชนได้รับทราบ 

"หลังลงนามเสร็จเราก็จะเร่งนำเรื่องเข้าสภาฯ ส่วนเรื่องสาระสำคัญผลประโยชน์ต่างๆที่ไทยจะได้รับ จะสามารถให้ข้อมูลได้หลังจากลงนามเสร็จก่อน" นายพิชัย กล่าว

สำหรับ EFTA ฉบับนี้มีความสำคัญมาก เพราะจะช่วยดึงดูดการลงทุนเข้ามาในประเทศ โดยมีนายกรัฐมนตรี (นางสาวแพทองธาร ชินวัตร) เป็นสักขีพยานในครั้งอีกด้วย 

ทั้งนี้ ผลการเจรจาจัดทำความตกลงการค้าเสรี (Free Trade Agreement : FTA) กับ “เอฟตา” หรือ สมาคมการค้าเสรีแห่งยุโรป (European Free Trade Associations) ประกอบด้วยสมาชิก 4 ประเทศ คือ สวิตเซอร์แลนด์ นอร์เวย์ ไอซ์แลนด์ และ ลิกเตนสไตน์ 

นอกจากนี้ เจรจา FTA ไทย-เอฟตา ใช้เวลา 2 ปี ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ หลังจากที่ทั้งสองฝ่ายประกาศเริ่มต้นการเจรจาในปี 2565 ถือเป็นความสำเร็จตามนโยบายสำคัญของรัฐบาลที่ต้องการเร่งขยายโอกาสทางการค้าและการลงทุนกับประเทศคู่ค้าสำคัญ ผ่านการจัดทำ FTA เพื่อลดอุปสรรคทางการค้า อำนวยความสะดวกกับภาคธุรกิจ ยกระดับมาตรฐาน สร้างความเชื่อมั่นและดึงดูดการลงทุน รวมถึงกระชับความสัมพันธ์และสร้างความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ร่วมกัน

สำหรับ ปี 2567 (ม.ค. - ต.ค) ไทยกับเอฟตามีมูลค่าการค้ารวม 10,293.53 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นร้อยละ 2.03 ของการค้าทั้งหมดของไทยกับโลกขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ร้อยละ 23.22 โดยไทยส่งออกไปเอฟตา 3,787.97 ล้านดอลลาร์ และนำเข้าจากเอฟตา 6,505.56 ล้านดอลลาร์