ครม. อนุมัติวาระลับ FTA ไทย-เอฟตา พร้อมลงนามที่ดาวอส สัปดาห์หน้า

13 ม.ค. 2568 | 16:30 น.
อัปเดตล่าสุด :13 ม.ค. 2568 | 17:08 น.

รมว.พาณิชย์ เผย ครม. อนุมัติ "วาระลับ" ร่างความตกลงการค้าเสรีฯ FTA ไทย-เอฟตา เตรียมลงนามที่ปรุงดาววอส นายกฯแพทองธาร เตรียมเป็นสักขีพยาน คาดส่งเสริมการค้า-การลงทุนมากขึ้น

นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม. วันนี้มีมติเห็นชอบร่างความตกลงการค้าเสรีระหว่างราชอาณาจักรไทยกับสมาคมการค้าเสรีแห่งยุโรป (European Free Trade Association : EFTA หรือ เอฟตา) โดยขั้นตอนต่อจากนี้จะมีการลงนามความตกลงการค้าฯ ที่กรุงดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ สัปดาห์หน้า

สำหรับ EFTA ฉบับนี้ถือว่า มีความสำคัญ เพราะจะช่วยดึงดูดการค้าและการลงทุนเข้ามาในประเทศไทยในอนาคต ซึ่งในการลงนามความตกลงครั้งนี้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะเป็นสักขีพยานในครั้งอีกด้วย

สำหรับร่างความตกลงการค้าเสรีระหว่างราชอาณาจักรไทยกับสมาคมการค้าเสรีแห่งยุโรป (European Free Trade Association : EFTA หรือ เอฟตา) ครั้งนี้ มีรายงานว่า กระทรวงพาณิชย์ ได้เสนอเข้ามาเป็น "วาระลับ" ซึ่งในรายละเอียดของร่างเอกสารไม่สามารถเปิดเผยได้ และไม่มีการแถลงเรื่องนี้ภานหลังครม.ด้วย

สำหรับการเจรจาจัดทำความตกลงการค้าเสรี (Free Trade Agreement : FTA) กับ “เอฟตา” หรือ สมาคมการค้าเสรีแห่งยุโรป (European Free Trade Associations) ประกอบด้วยสมาชิก 4 ประเทศ คือ สวิตเซอร์แลนด์ นอร์เวย์ ไอซ์แลนด์ และ ลิกเตนสไตน์ 

ขณะเดียวกัน กระทรวงพาณิชย์โดยกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศได้สรุปผลการเจรจา FTA กับเอฟตา ได้สำเร็จ โดยได้ข้อสรุปทุกประเด็นภายใต้การเจรจาทั้งหมด 15 เรื่อง ได้แก่ 

  1. การค้าสินค้า 
  2. กฎว่าด้วยถิ่นกำเนิดสินค้า 
  3. การอำนวยความสะดวกทางการค้า 
  4. มาตรการเยียวยาทางการค้า 
  5. มาตรการสุขอนามัยและสุขอนามัยพืช 
  6. มาตรการอุปสรรคเทคนิคต่อการค้า 
  7. การค้าบริการ 
  8. การลงทุน 
  9. ทรัพย์สินทางปัญญา 
  10. การแข่งขัน
  11. การจัดซื้อจัดจ้างโดยรัฐ 
  12. การค้าและการพัฒนาที่ยั่งยืน (ครอบคลุมประเด็นสิ่งแวดล้อมและแรงงาน) 
  13. ความร่วมมือด้านเทคนิคและการเสริมสร้างศักยภาพ 
  14. ประเด็นกฎหมายและการระงับข้อพิพาท และ
  15. วิสาหกิจขนาดเล็ก ขนาดกลาง และขนาดย่อม (SMEs)

นอกจากนี้ เจรจา FTA ไทย-เอฟตา ใช้เวลา 2 ปี ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ หลังจากที่ทั้งสองฝ่ายประกาศเริ่มต้นการเจรจาในปี 2565 ถือเป็นความสำเร็จตามนโยบายสำคัญของรัฐบาลที่ต้องการเร่งขยายโอกาสทางการค้าและการลงทุนกับประเทศคู่ค้าสำคัญ ผ่านการจัดทำ FTA เพื่อลดอุปสรรคทางการค้า อำนวยความสะดวกกับภาคธุรกิจ ยกระดับมาตรฐาน สร้างความเชื่อมั่นและดึงดูดการลงทุน รวมถึงกระชับความสัมพันธ์และสร้างความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ร่วมกัน

สำหรับ ปี 2567 (ม.ค. - ต.ค) ไทยกับเอฟตามีมูลค่าการค้ารวม 10,293.53 ล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นร้อยละ 2.03 ของการค้าทั้งหมดของไทยกับโลกขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ร้อยละ 23.22 โดยไทยส่งออกไปเอฟตา 3,787.97ล้านดอลลาร์ และนำเข้าจากเอฟตา 6,505.56 ล้านดอลลาร์