รื้อมาตรฐาน "เครื่องหนีบผม-ไมโครเวฟ-เครื่องทอด” ให้ปลอดภัยกว่าเดิม

13 ม.ค. 2568 | 16:41 น.
อัปเดตล่าสุด :13 ม.ค. 2568 | 16:54 น.

มติครม.ล่าสุด เห็นชอบกฎหมาย 3 ฉบับ ปรับมาตรฐานใหม่เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องเป่าผม-เครื่องหนีบผม-ไมโครเวฟ-เครื่องทอด ยกระดับความปลอดภัย-รองรับเทคโนโลยีใหม่ บังคับใช้หลังราชกิจจาฯ 180 วัน

ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)วันนี้ (13 ม.ค.68) มีมติล่าสุด เห็นชอบในหลักการร่างกฎกระทรวง 3 ฉบับที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ เพื่อปรับปรุงมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ให้สอดคล้องกับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี การใช้งานในปัจจุบัน และมาตรฐานระหว่างประเทศ รวมถึงเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้บริโภค

 

รายละเอียด 3 ร่างกฎกระทรวง

ฉบับที่ 1 : ร่างกฎกระทรวงกำหนดมาตรฐานเครื่องใช้ไฟฟ้าสำหรับดูแลผม ขน และผิว

ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการดูแลส่วนบุคคล เช่น เครื่องเป่าผม เครื่องหนีบผม และอุปกรณ์ดูแลผิว จะต้องเป็นไปตามมาตรฐานใหม่ มอก. 60335 เล่ม 2 (23) – 2564 เพื่อแก้ไขและยกเลิกมาตรฐานเดิม มอก. 1985 – 2549 การปรับปรุงนี้มุ่งเน้นความปลอดภัยของผู้บริโภค และสอดรับกับเทคโนโลยีการผลิตที่เปลี่ยนแปลงไป

ฉบับที่ 2 : ร่างกฎกระทรวงกำหนดมาตรฐานเครื่องทอดน้ำมันท่วมและกระทะทอด

ผลิตภัณฑ์ในหมวดนี้ เช่น เครื่องทอดน้ำมันท่วม (ปริมาณน้ำมันสูงสุดไม่เกิน 5 ลิตร) และกระทะทอด จะต้องผ่านการรับรองมาตรฐาน มอก. 60335 เล่ม 2 (13) – 2564 ซึ่งเป็นการปรับปรุงมาตรฐาน มอก. 1509 – 2547 เพื่อให้สอดคล้องกับความก้าวหน้าด้านความปลอดภัยและมาตรฐานระหว่างประเทศ โดยเฉพาะความปลอดภัยในกระบวนการใช้งานที่เกี่ยวข้องกับน้ำมันร้อน

 

ฉบับที่ 3 : ร่างกฎกระทรวงกำหนดมาตรฐานเตาไมโครเวฟและเตาไมโครเวฟร่วม

เตาไมโครเวฟที่ใช้ในที่อยู่อาศัย รวมถึงเตาไมโครเวฟที่มีฟังก์ชันอื่นร่วม เช่น การอบหรือปิ้ง จะต้องเป็นไปตามมาตรฐาน มอก. 60335 เล่ม 2 (25) – 2565 ซึ่งปรับปรุงจากมาตรฐานเดิม มอก. 1773 – 2548 การเปลี่ยนแปลงนี้ช่วยเสริมความปลอดภัย และรองรับการใช้งานที่ซับซ้อนยิ่งขึ้นในผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่

ข้อกำหนดและระยะเวลาบังคับใช้

  • ผู้ผลิตและผู้นำเข้าผลิตภัณฑ์ใน 3 หมวดนี้ต้องขอใบอนุญาตก่อนทำหรือนำเข้าผลิตภัณฑ์
  • เครื่องใช้ไฟฟ้าสำหรับดูแลผม ขน และผิว และ เครื่องทอดน้ำมันท่วม-กระทะทอด จะมีผลบังคับใช้ 180 วันหลังประกาศในราชกิจจานุเบกษา
  • เตาไมโครเวฟและเตาไมโครเวฟร่วม จะมีผลบังคับใช้ 270 วันหลังประกาศในราชกิจจานุเบกษา

 

เหตุผลในการปรับปรุงมาตรฐาน

รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ กล่าวว่า การปรับปรุงมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมในครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อให้สอดคล้องกับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี การผลิต และการใช้งานที่เปลี่ยนแปลงไป อีกทั้งยังช่วยยกระดับความปลอดภัยของผู้บริโภคในประเทศ โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่ใช้งานในครัวเรือนหรือสำหรับดูแลส่วนบุคคล

 

ผลกระทบเชิงบวก

มาตรฐานที่ปรับปรุงใหม่จะช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคเกี่ยวกับความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ในตลาด อีกทั้งยังช่วยส่งเสริมให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมของไทยมีคุณภาพที่สามารถแข่งขันได้ในระดับสากล และรองรับการพัฒนาด้านการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมในอนาคต

ครม. คาดหวังว่าการดำเนินการครั้งนี้จะช่วยเสริมสร้างความปลอดภัยให้กับประชาชน พร้อมทั้งยกระดับมาตรฐานสินค้าอุตสาหกรรมในประเทศให้ทันสมัยและยั่งยืน.