หลังจาก นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้แถลงผลนโยบาย ภายใต้ชื่อ “2568 โอกาสไทย ทำได้จริง” ช่วงต้นเดือนธ.ค.67 ที่ผ่านมา หนึ่งในโครงการที่เริ่มเป็นรูปธรรม คือ “บ้านเพื่อคนไทย” ซึ่งรัฐบาลต้องการให้เด็กจบใหม่ ผู้มีรายได้น้อย มีโอกาสมีที่อยู่อาศัยบ้านในเมือง ที่ทำเลดี ราคาไม่เกิน 2 ล้านบาท โดยในวันที่ 20 ม.ค.นี้ จะมีการเปิดตัวโครงการบ้านเพื่อคนไทย และเปิดจองสิทธิเข้าร่วมโครงการ
รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล ระบุว่า ในวันที่ 17 ม.ค.นี้ นายกรัฐมนตรี จะเปิดตัวโครงการบ้านเพื่อคนไทย ที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ โดยจะเปิดตัวสำนักงานขาย ห้องตัวอย่าง ประชาชนสามารถลงทะเบียนจองสิทธิ์ ผ่าน 2 ช่องทาง ได้แก่ 1.สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ และ 2.เว็บไซต์ www.บ้านเพื่อคนไทย.th
ทั้งนี้ ในระยะแรกจะดำเนินการ 4 ทำเล เบื้องต้นได้ศึกษา ได้แก่
1. พื้นที่บางซื่อ กม.11 มีเนื้อที่กว่า 15 ไร่ อยู่ซอยวิภาวดี11 ติดถนนกำแพงเพชร ห่างสถานีกรุงเทพอภิวัฒน์ 2.5 กม.
2. พื้นที่เชียงใหม่ เนื้อที่กว่า 7 ไร่ ใกล้ถนนเจริญเมือง ถนนทุ่งโฮเต็ล ห่างจาก ม.พายัพ 2.6 กม. ม.เชียงใหม่ 7.5 กม. ถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ 1.3 กม. เป็นอาคารชุด จำนวน 720 ยูนิต ราคา 1.5 ล้านบาท
3. พื้นที่เชียงราก เนื้อที่กว่า 18 ไร่ ห่างจากสถานีรถไฟเชียงราก ม.ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ 4.4 กม. ม.กรุงเทพ 9 กม. เป็นอาคารชุด จำนวน 1,795 ห้อง ราคา 1.34 ล้านบาท
4. พื้นที่ธนบุรี อยู่ตรงข้ามตลาดศาลาน้ำร้อน ห่างรถไฟฟ้าสายสีแดงและสายสีส้ม 800 เมตร เนื้อที่กว่า 23 ไร่ เป็นต้น
นายกมลภพ วีระพละ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) กล่าวว่า กระบวนการเปิดลงทะเบียนเพื่อจองสิทธิเข้าร่วมโครงการบ้านเพื่อคนนั้น บริษัท เอสอาร์ที แอสเสท จำกัด (SRTA) จะเป็นผู้ดำเนินการทั้งหมด ส่วนของธอส. จะเป็นหน่วยงานที่ดำเนินการเหมือนกับโครงการที่ราชพัสดุที่เคยจัดทำมา โดยธอส. จะดูแลเรื่องการยื่นกู้ อย่างไรก็ตาม ในรายละเอียดนั้น ขอให้รอฟังจากทางรัฐบาลอีกครั้ง
“ธอส.พร้อมที่จะสนับสนุนโครงการบ้านเพื่อคนไทย ตามนโยบายของรัฐบาล แต่ SRTA จะเป็นผู้จัดทำรายละเอียดการเปิดรับจองทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ในรายละเอียดสินเชื่อที่ ธอส. จะอำนวยความสะดวกให้กับผู้เข้าร่วมโครงการนั้น ยืนยันว่าจะเป็นอัตราดอกเบี้ยต่ำ และผ่อนงวดละไม่เกิน 4,000 บาทบวกลบ”
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้โครงการบ้านเพื่อคนไทย ยังต้องรอรายละเอียดต่างๆ ซึ่งธอส. จะเป็นหน่วยงานสุดท้ายที่ดำเนินการ เพราะตอนนี้อยู่ในขั้นตอนเตรียมเปิดตัวโครงการ และเปิดลงทะเบียนรับจองสิทธิ โดยลูกค้าจะต้องตรวจสอบสิทธิก่อน ว่าเมื่อมาลงทะเบียนจองสิทธิแล้วจะผ่านเกณฑ์ตามเงื่อนไขที่รัฐบาลกำหนดหรือไม่ ทั้งนี้ รูปแบบการขอสินเชื่อกับธนาคารจะเหมือนกับการยื่นกู้คอนโด ที่อยู่ในอันดับท้ายๆ
นายกมลภพ กล่าวว่า เมื่อ SRTA เปิดลงทะเบียนจองสิทธิเข้าร่วมโครงการ ธอส.ก็พร้อมให้ความไว้ใจให้กับลูกค้าที่เข้ามาลงทะเบียนว่ามี ธอส. ซึ่งเป็นสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐแห่งหนึ่งที่สามารถเข้ามาพิจารณาปล่อยสินเชื่อช่วยได้ ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ SRTA ได้มีการเข้ามาหารือร่วมกับธนาคาร ถึงการปล่อยสินเชื่อด้านสิทธิการเช่า โดย ธอส. ยืนยันว่า สามารถดำเนินการได้ เพราะเคยดำเนินโครงการสินเชื่อบ้านในที่ราชพัสดุมาก่อนแล้ว