ในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ “ของขวัญ” ถือเป็นสิ่งที่ทุกคนเฝ้ารอคอย โดยเฉพาะเกษตรกร ซึ่งปีนี้ “กระทรวงเกษตรและสหกรณ์” จัดหนักจัดเต็มเอาใจประชาชน และเกษตรกร ผ่านกิจกรรมต่างๆ มากมาย เพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ 2568 ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 31 มกราคม 2568
นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จัดทำโครงการส่งความสุขปีใหม่ 2568 มอบของขวัญให้เกษตรกร มีกิน มีใช้ มีรายได้พอเพียง เริ่มจากเปิดแหล่งท่องเที่ยวทั่วไทย 22 หน่วยงาน ภายใต้สังกัดกระทรวงเกษตรฯ ให้ประชาชนเข้าชมอีกทั้งยังยกขบวนสินค้าเกษตรมาให้เลือกชม เลือกช้อปกันอย่างจุใจ ซึ่งจะเป็นการส่งความสุขทั่วไทยผ่าน 3 กิจกรรม ได้แก่ 1. มอบของขวัญให้เกษตรกรไทย อาทิ การให้บริการพันธุ์หม่อน ใช้ไหมพันธุ์ดีฟรี จำนวน 1.2 หมื่นราย, ให้พันธุ์ปลานํ้าจืดฟรี จำนวน 1.85 ล้านตัว, มอบพันธุ์พืชพันธุ์ดี เช่น ไม้ผล พืช ผักฟรี จำนวน 8,870 ราย, เปิดสำนักงานปศุสัตว์ทั่วประเทศในการดูแลสุขภาพสัตว์เลี้ยง ฉีดวัคซีน ทำหมัน
ฟรี
ส่วน “เงินช่วยเหลือชาวนา” หรือ โครงการสนับสนุนค่าบริการจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ไร่ละ 1,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 10,000 บาท วงเงิน 38,578.19 ล้านบาท อยู่ระหว่าง ธ.ก.ส.โอนจ่ายให้กับเกษตรกร และโครงการฟื้นฟูเกษตรกรผู้ประสบอุทกภัย ปี 2567 วงเงิน 2,553 ล้านบาท เป็นต้น ซึ่งกิจกรรมนี้คาดว่ามีเกษตรกรได้รับประโยชน์จำนวน 1.19 แสนราย จาก 4.61 ล้านครัวเรือน พื้นที่ได้รับประโยชน์ 63.4 ล้านไร่ คิดเป็นมูลค่ารวม 43,751.19 ล้านบาท
กิจกรรมที่ 2 เพิ่มสุขปีใหม่ เที่ยวทั่วไทย สุขใจไปกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มี 2 ส่วนดังนี้ ส่วนที่ 1. เปิดสถานที่ท่องเที่ยวและแหล่งเรียนรู้ด้านการเกษตรให้ประชาชนเข้าชมฟรี/ลดค่าบริการในช่วงเทศกาล ได้แก่ เช่น เขื่อนกักเก็บนํ้า (เขื่อนขุนด่านปราการชล เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์) , สถานแสดงพันธุ์สัตว์นํ้า (สถานแสดงพันธุ์สัตว์นํ้าระยอง, ศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์นํ้าสมุทรสาคร, สถานแสดงพันธุ์สัตว์นํ้าเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบ พระชนมพรรษา, ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยง สัตว์นํ้าชายฝั่งพังงา ศูนย์ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ด้านการเกษตร) และกิจกรรมการเรียนรู้ที่หลากหลาย อาทิ นั่งรถรางชมฟาร์มโคนมไทย-เดนมาร์ค ให้นักท่องเที่ยวได้เยี่ยมชม โรงงานผลิตนม ทดลองรีดนมแม่โค ป้อนนมลูกวัว ชมการแสดงคาวบอย ขี่ม้า เป็นต้น
นอกจากนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์เปิดบริการให้เข้าชมฟรี อาทิ พิพิธภัณฑ์มหัศจรรย์พันธุกรรม, พิพิธภัณฑ์ป่าดงพงไพร พิพิธภัณฑ์ในหลวงรักเรา ซึ่งจะมีการจัดแสดงนิทรรศการด้วยเทคโนโลยีแสดง แสง สี และชมภาพยนตร์แอนิเมชัน 3 มิติ พร้อมถ่ายภาพเช็คอินรับของขวัญปีใหม่เป็นที่ระลึก และอุทยานหลวงราชพฤกษ์ เพื่อเลือกซื้อสินค้าโครงการหลวง เรียนรู้ด้านการเกษตรและชมความสวยงามของดอกไม้เหมืองหนาว เป็นต้น
นางนฤมล กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังมีสถานที่ราชการ /เครือข่ายท่องเที่ยวเชิงเกษตร ปรับภูมิทัศน์รองรับนักท่องเที่ยว (ศูนย์ศึกษา/ศูนย์เรียนรู้/แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร) จะมีบริการต่าง ๆ จุดพักรถ อาหารว่างและเครื่องดื่ม ซึ่งจะมีกิจกรรมสำคัญให้ประชาชนและเกษตรกรให้เข้ามาเที่ยวและศึกษา อาทิ ศูนย์วิจัยข้าวและศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าว เปิดให้เข้าชมพันธุ์ข้าว แปลงแสดงพันธุ์ข้าว,
เปิดเขื่อนและอ่างเก็บนํ้าเป็นจุดแวะพักและเยี่ยมชม,เปิดศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงทะเล,ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงนํ้าจืด, ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์นํ้าชายฝั่งมากกว่า 40 แห่ง ทั่วประเทศ, สถานีเรดาห์ฝนหลวง เรียนรู้โครงการพระราชดำริฝนหลวง ตำราฝนหลวงพระราชทาน เป็นต้น ซึ่งในโครงการนี้คาดว่าจะมีประชาชนและเกษตรกรที่ได้รับประโยชน์จำนวน 2.5 แสนราย คิดเป็นมูลค่า 2.07 ล้านบาท
ปิดท้ายกิจกรรมที่ 3 “เสริมพลังปีใหม่” จำหน่ายสินค้าราคาพิเศษ สินค้าเกษตรคุณภาพให้แก่ประชาชนผ่านช่องทางต่าง ๆ Offline Fisherman shop Livestock Farm Outlet และช่องทาง Online และเว็บไซต์ตลาดเกษตรกรออนไลน์.com ได้แก่ ไข่ไก่ราคาถูก,เนื้อโคขุน,ผักผลไม้โครงการหลวง,สินค้าเกษตรชาวประมงในพื้นถิ่นปลอดสารพร้อมทั้งบริการจัดกระเช้าของขวัญ จำหน่ายผ่านช่องทางต่างๆ ซึ่งกิจกรรมคาดว่าเกษตรกรและประชาชนจะได้รับประโยชน์ 1.32 แสนราย มูลค่าสินค้าและรายได้ที่คาดว่าจะเกิดขึ้น จำนวน 44.5 ล้านบาท
“ที่กล่าวมาข้างต้น เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่ต้องการส่งมอบความสุขสู่เกษตรกรไทย (คลิกที่นี่) เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ “สร้างโอกาส เพิ่มรายได้ ลดค่าใช้จ่าย” สู่มือพี่น้องเกษตรกรทั่วประเทศ และจากใจครอบครัวกระทรวงเกษตรฯ พร้อมจะทำงานและส่งต่อความสุขที่มากยิ่งขึ้น ไปสู่พี่น้องเกษตรกรและภาคเกษตรไทย ให้สำเร็จตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ เพื่อให้เกษตรกรมีคุณภาพชีวิตที่ดี มีรายได้ดี มีอาชีพมั่นคง และภาคเกษตรไทยเติบโตอย่างเข้มแข็ง เศรษฐกิจในประเทศเติบโตอย่างแข็งแกร่งไปพร้อมกัน” นางนฤมล กล่าว
หน้า 9 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 44 ฉบับที่ 4,056 วันที่ 26 - 28 ธันวาคม พ.ศ. 2567