นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยหลังการพบหารือกับ นายทูมูร์ อามาร์ซานา เอกอัครราชทูตมองโกเลียประจำประเทศไทย ที่กระทรวงพาณิชย์ เพื่อเร่งเจรจาความร่วมมือทางเศรษฐกิจการค้าผ่านกลไกคณะกรรมการร่วมทางการค้าไทย-มองโกเลีย และจะเป็นตลาดใหม่ให้ผู้ประกอบการไทย ขายสินค้าเกษตรไทย ช่วยเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างกันในอนาคต
นายพิชัย กล่าวว่า มองโกเลียเป็นประเทศที่เศรษฐกิจกำลังเจริญเติบโต โดยในปีนี้ คาดว่า GDP จะขยายตัวถึง 7% ถือเป็นตลาดศักยภาพใหม่ของไทย สินค้าไทยเป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมจากชาวมองโกเลียมากขึ้น โดยมองโกเลียแสดงความสนใจที่จะนำเข้าผลไม้สดและอาหารทะเลจากไทยเพิ่มขึ้น
ขณะเดียวกัน ยังมีอาหารกระป๋องและอาหารแปรรูปที่เป็นสินค้าศักยภาพส่งออกของไทยในตลาดมองโกเลียและมีความต้องการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตนจึงได้เชิญนักธุรกิจมองโกเลียเข้าร่วมกิจกรรมส่งเสริมการค้าที่กระทรวงพาณิชย์จะจัดในปี 2568 อาทิ งาน THAIFEX-ANUGA ASIA ในเดือนพฤษภาคม 2568 และงาน Bangkok Gems & Jewelry Fair ในเดือนกุมภาพันธ์ และกันยายน 2568
นอกจากนี้ ตนได้ขอให้มองโกเลียช่วยดูแลและอำนวยความสะดวกให้กับนักลงทุนไทยในมองโกเลีย ซึ่งปัจจุบันมีการลงทุนในหลากหลายสาขา เช่น อุตสาหกรรมเหมืองแร่ถ่านหิน ธุรกิจบริการสุขภาพ และอุตสาหกรรมพลังงานแสงอาทิตย์ เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม ทั้งสองฝ่ายอยู่ระหว่างเจรจาความตกลงการส่งเสริมและคุ้มครองการลงทุน และอนุสัญญาเพื่อการเว้นการเก็บภาษีซ้อนและการป้องกันการเลี่ยงรัษฎากรในส่วนที่เกี่ยวข้องกับภาษีเก็บจากเงินได้ ซึ่งหากแล้วเสร็จ จะช่วยสร้างสภาพแวดล้อมและความมั่นใจให้แก่นักลงทุนของทั้งสองฝ่าย
“ปีนี้เป็นปีที่ไทยและมองโกเลียมีความสัมพันธ์ทางการทูตครบรอบ 50 ปี ผมได้แจ้งข่าวดีว่า กระทรวงพาณิชย์ได้แต่งตั้งที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ด้านการค้าระหว่างประเทศของกระทรวงพาณิชย์ประจำมองโกเลียแล้ว และแจ้งความพร้อมของไทยที่จะเป็นเจ้าภาพจัดประชุมคณะกรรมการร่วมทางการค้าหรือ JTC ไทย-มองโกเลีย ภายในต้นปีหน้า เพื่อผลักดันการค้าให้ทะลุ 100 ล้านดอลลาร์ หรือ 3,413 ล้านบาทและการลงทุนให้ได้ 1,500 ล้านดอลลาร์ ภายในปี 2570
นอกจากนี้ ยังพร้อมสนับสนุนการจัดตั้งหอการค้าไทย-มองโกเลียตามที่ฝ่ายมองโกเลียเสนอ เพื่อสร้างเครือข่ายทางธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการและนักลงทุนของทั้งสองฝ่าย”นายพิชัยกล่าว
ทั้งนี้ ในปี 2566 การค้าระหว่างไทยกับมองโกเลีย มีมูลค่า 88 ล้านดอลลาร์ โดยไทยส่งออกไปมองโกเลีย 21 ล้านดอลลาร์ สินค้าส่งออกสำคัญ อาทิ กระดาษและผลิตภัณฑ์กระดาษ เครื่องดื่ม รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบของรถยนต์ น้ำตาลทราย และไทยนำเข้าจากมองโกเลีย 67 ล้านดอลลาร์
ส่วนสินค้านำเข้าสำคัญ อาทิ สินแร่โลหะอื่น ๆ เศษโลหะ เครื่องดื่มประเภทน้ำแร่ น้ำอัดลมและสุรา ส่วนประกอบและอุปกรณ์ยานยนต์