ท่องเที่ยวไฮซีซันคึกคัก โรงแรมตีปีกบุ๊กกิ้งพุ่ง สายการบินสยายปีกเข้าไทย

การท่องเที่ยวของไทยในช่วงไฮซีซันนี้ ตั้งแต่ไตรมาส 4 ปีนี้ ต่อเนื่องถึงไตรมาส 1 ปีหน้า เป็นไปอย่างคึกคัก เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซัน โดยในช่วงนี้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทย เพิ่มกลับขึ้นมาเฉลี่ยมากกว่า 1 แสนคนต่อวันแล้ว หรือเฉลี่ยเดือนละ 3.3 ล้านคน

ต่างชาติเที่ยวไทยทะลุ 32 ล้านคนแล้ว

ส่งผลให้ล่าสุดตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. – 1 ธ.ค. 67 ที่ผ่านมาทั้งสิ้น 32,020,169 คน สร้างรายได้จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้วประมาณ 1,501,157 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28 %

​​​​​​​สายการบินต่างชาติเฮโลเปิดบินเข้าไทย

เช่นเดียวกับการขยายตัวของสายการบินต่างๆ ที่ล่าสุดในตารางบินฤดูหนาวนี้ (วันที่ 27 ตุลาคม 2567-29 มีนาคม 2568) เพื่อรองรับการท่องเที่ยวในช่วงไฮซีซันนี้ มี 71 สายการบินทั่วโลก ได้เจรจากับสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) หรือ CATT เพื่อขอจัดสรรเวลาการบินเข้าไทย ทั้งเที่ยวบินรับขนผู้โดยสาร และเที่ยวบินขนส่งสินค้า โดยสายการบินต่างๆมีทั้งขอรับการจัดจรรเที่ยวบินใหม่ และขอปรับเวลาการบินเที่ยวบินแบบประจำโดยมีจุดหมายปลายทางหลัก คือ สนามบินสุวรรณภูมิ ดอนเมือง ภูเก็ต และเชียงใหม่

เช่น กลุ่มยุโรป ได้แก่ สายการบิน Air France, Austrian Airlines, British Airways, Condor, Finn Air, ITA Airways, SAS, Lot Polish Airlines, Norse Atlantic Airways, Aerologic, DHL กลุ่มอเมริกาเหนือ ได้แก่ Air Canada, FedEx กลุ่มเอเชียแปซิฟิก เช่น ประเทศอินเดีย ได้แก่ Air India, Air Vistara, Indigo, SpiceJet, Air India Express ประเทศญี่ปุ่น ได้แก่ Japan Airlines, All Nippon Airways, Peach Aviation, Nippon Cargo

ส่วนประเทศเกาหลีใต้ ได้แก่ Korean Air, Asiana Airlines, Eastar Jet, Jin Air, Jeju Air, T’way ประเทศจีน ได้แก่ China Eastern Airlines, China Southern Airlines, Spring Airlines, Juneyao Airlines, Shenzhen Airlines, Shandong Airlines, Hainan Airlines, Okay Airways กลุ่มตะวันออกกลาง ได้แก่ Emirates, Etihad Airways, Qatar Airways, Oman Air, Air Arabia

ไม่เพียงการขยายตัวของเที่ยวบินในสนามบินหลักของบริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT เท่านั้น ในส่วนของสนามบินภูมิภาคของกรมท่าอากาศยาน (ทย.) อย่างสนามบินกระบี่ ก็มีการเติบโตของเที่ยวบินจากต่างประเทศอย่างมีนัยสำคัญ โดยในช่วงตารางบินฤดูหนาวนี้ มี 10 สายการบินประจำ และ 3 สายการบินเปิดเที่ยวบินเช่าเหมาลำเข้าไทย คาดว่าจะมีเที่ยวบินเพิ่มขึ้นมากกว่า 160 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ซึ่งสายการบินประจำ

ประกอบไปด้วย Flydubai, Scoot Tigerair, LOT Polish Airlines, TUI Fly, Jetstar Asia Airways, Thai AirAsia, AirAsia Berhad, Bangkok Airways, Shanghai Airlines และ China Eastern Airlines ส่วนเที่ยวบินเช่าเหมาระหว่างประเทศ ได้แก่ TUI fly, LOT Polish Airlines และ Neos Airlines

“จำนวนเที่ยวบินที่ฟื้นตัวกลับเข้าไทยเพิ่มขึ้นในช่วงไฮซีซันนี้ ทั้งการเปิดเส้นทางใหม่ และการกลับมาบินอีกครั้ง ทำให้การท่องเที่ยวมีทิศทางบวกต่อเนื่อง อาทิ เยอรมัน เดิมบินเข้ามาแบบเช่าเหมาลำ ขณะนี้เริ่มบินแบบประจำมากขึ้น รวมถึงเห็นในบางตลาดที่ปรับตัวดีขึ้นแบบดีวันดีคืน อาทิ ออสเตรเลีย บินไปยังภูเก็ต กระบี่ พังงา สายการบิน British Airways กลับมาเปิดบินลอนดอน –กรุงเทพฯ หลังจากที่เคยหยุดให้บริการไปตั้งแต่ปี 2563 ด้านตลาดระยะใกล้ ถือว่าปรับเพิ่มขึ้นได้ดีเช่นกัน โดยเฉพาะอินเดีย ที่มีเที่ยวบินเพิ่มขึ้นจากหลายเมือง อาทิ โกลกาตา อาห์มาดาบัด สายการบิน Cebu Pacific ก็มีการเปิดบินจากกรุงมะนิลา สู่ เชียงใหม่” นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าว

โรงแรมตีปีกไฮซีซันบุ๊กกิ้งพุ่ง

ด้านนายเทียนประสิทธิ์ ไชยภัทรานันท์ นายกสมาคมโรงแรมไทย (ทีเอชเอ) เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ”ว่าขณะนี้โรงแรมมียอดการจองเที่ยวไทยเพิ่มขึ้นสูงขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการจองผ่านทางออนไลน์เป็นหลัก รวมถึงในช่วงเดือนพ.ย.นี้เป็นต้นไป จะเห็นสายการบินกลับมาเปิดเที่ยวบินเข้าไทยมากขึ้น เพื่อรองรับไฮซีซันนี้ ทั้งเส้นทางบินจากยุโรปและเอเชีย เมื่อดูจากแนวโน้มนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาช่วงก่อนหน้านี้ ก็มองว่าเป้าหมายการดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติมาเที่ยวไทยในปีนี้ที่รัฐบาลตั้งเป้าไว้ 36 ล้านคนน่าจะเป็นไปตามเป้า เพราะตั้งแต่ 1 ม.ค.-1ธ.ค.2567 ต่างชาติเที่ยวไทยแล้วกว่า 32 ล้านคนแล้ว แต่ในแง่ของรายได้ ยังไม่แน่ใจ เนื่องจากมีหลายปัจจัยภายนอกที่ควบคุมไม่ได้ที่อาจส่งผลต่อการใช้จ่าย

นอกจากนี้สมาคมฯ ยังได้สํารวจความเชื่อมั่นผู้ประกอบการที่พักแรม เพื่อประเมินจํานวนลูกค้าต่างชาติและลูกค้าไทยในช่วง Q4/67 เทียบกับ Q4/66 โดยคาดว่าโรงแรมระดับ 4 ดาวขึ้นไป ส่วนใหญ่คาดว่าลูกค้าต่างชาติ ลูกค้าจีน และลูกค้าไทย จะเพิ่มจากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยเฉพาะโรงแรมส่วนใหญ่ในภาคกลางและภาคใต้และส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นไม่เกิน 20% ขณะที่โรงแรมระดับไม่เกิน 3 ดาวส่วนใหญ่ประเมินว่าจํานวนลูกค้าจะใกล้เคียงกับ Q4/66

โรงแรมในเกือบทุกภูมิภาค คาดว่าลูกค้าต่างชาติจะเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในภาคใต้ที่เกือบ 1 ใน 5 คาดว่าจะเพิ่มขึ้นมากกว่า 20% ขณะที่แนวโน้มราคาห้องพักใน Q4/67 เทียบกับ Q4/66 ประเมินว่า ใน Q4/67 ทั้งโรงแรมระดับ 4 ดาวขึ้นไปและโรงแรมระดับไม่เกิน 3 ดาวมีแนวโน้มปรับราคาห้องพักเพิ่มขึ้น จากช่วงเดียวกันปีก่อน

ส่วนใหญ่ปรับราคาห้องพักเพิ่มขึ้นไม่เกิน 10% ทั้งนี้มีโรงแรมระดับ 4 ดาวขึ้น ไปเกือบ 10% ที่อาจปรับขึ้นราคามากกว่า 20% หากพิจารณารายภูมิภาค พบว่า โรงแรมในภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีสัดส่วนโรงแรมที่คาดว่าจะปรับราคาห้องพักในอัตราที่สูงกว่าพื้นที่อื่นนั่นเอง