ธนาคารทองคำลาว (Lao Bullion Bank หรือ LBB) เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2567 ด้วยเป้าหมายผลักดันการออมและการลงทุนในทองคำให้กับประชาชนลาว เพื่อสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจและเพิ่มความมั่งคั่งในระยะยาว
ภายใน 3 ปี ธนาคารตั้งเป้าหมายขยายฐานลูกค้าให้ถึง 100,000 บัญชี พร้อมเพิ่มสาขาในเมืองสำคัญ ได้แก่ จำปาสัก, สะหวันนะเขต, และหลวงพระบาง ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างการเข้าถึงบริการทางการเงินแก่ชุมชน
ในช่วง 2 เดือนแรกของการเปิดตัวแบบ Soft Opening ธนาคารมีบัญชีรายย่อยที่เปิดใช้งานแล้วกว่า 2,000 บัญชี และสะสมทองคำได้กว่า 50,000 กรัม โดยมีเป้าหมายเพิ่มบัญชีเป็น 10,000 บัญชีในปี 2568
LBB ก่อตั้งขึ้นด้วยทุนจดทะเบียนกว่า 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และการลงทุนรวม 2,000 ล้านบาท บริการหลักคือการรับฝากทองคำพร้อมอัตราดอกเบี้ย 2% ต่อปี โดยมุ่งนำทองคำที่ประชาชนครอบครองมูลค่ารวมประมาณ 10,000 ล้านดอลลาร์ เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ
เป้าหมายหลัก คือ ขยายเศรษฐกิจลาวจากมูลค่าปัจจุบันที่ 20,000 ล้านดอลลาร์ ให้เติบโตถึง 30,000 ล้านดอลลาร์ในอนาคต
ความร่วมมือกับ ธนาคารได้ลงนามร่วมกับพันธมิตร 3 รายหลัก
ครอบครัวชาวลาวจำนวนมากมองว่าทองคำเป็นเงินออมและความปลอดภัย โดยการเก็บทองคำไว้ที่บ้านจะช่วยให้พวกเขาเข้าถึงสินทรัพย์ได้ง่ายและสามารถขายเป็นเงินสดได้เมื่อต้องการ อีกทั้งยังเป็นตาข่ายนิรภัยในช่วงที่เศรษฐกิจตกต่ำ
ทองคำไม่เพียงแต่มีบทบาททางการเงินเท่านั้น แต่ยังมีความสำคัญทางวัฒนธรรมในลาวอีกด้วย โดยทองคำมีบทบาทโดดเด่นในประเพณีการแต่งงานแบบดั้งเดิม โดยมักเป็นส่วนหนึ่งของสินสอดหรือสินสอดทองหมั้น การแสดงออกเชิงสัญลักษณ์นี้แสดงถึงความเจริญรุ่งเรืองและความอุดมสมบูรณ์สำหรับคู่บ่าวสาว ซึ่งเน้นย้ำถึงความสำคัญของทองคำในความสัมพันธ์ในครอบครัวและพันธะทางสังคม
นอกจากนี้ เครื่องประดับทองคำยังมักสวมใส่อย่างโดดเด่นในช่วงเทศกาลและโอกาสพิเศษอื่นๆ ซึ่งทำหน้าที่แสดงความมั่งคั่ง ฐานะ และเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมได้อย่างเป็นรูปธรรม
ครอบครัวชาวลาวจำนวนมากมองว่าทองคำเป็นเงินออมและความปลอดภัย โดยการเก็บทองคำไว้ที่บ้านจะช่วยให้พวกเขาเข้าถึงสินทรัพย์ได้ง่ายและสามารถขายเป็นเงินสดได้เมื่อต้องการ อีกทั้งยังเป็นตาข่ายนิรภัยในช่วงที่เศรษฐกิจตกต่ำ
ทองคำไม่เพียงแต่มีบทบาททางการเงินเท่านั้น แต่ยังมีความสำคัญทางวัฒนธรรมในลาวอีกด้วย โดยทองคำมีบทบาทโดดเด่นในประเพณีการแต่งงานแบบดั้งเดิม โดยมักเป็นส่วนหนึ่งของสินสอดหรือสินสอดทองหมั้น การแสดงออกเชิงสัญลักษณ์นี้แสดงถึงความเจริญรุ่งเรืองและความอุดมสมบูรณ์สำหรับคู่บ่าวสาว ซึ่งเน้นย้ำถึงความสำคัญของทองคำในความสัมพันธ์ในครอบครัวและพันธะทางสังคม นอกจากนี้ เครื่องประดับทองคำยังมักสวมใส่อย่างโดดเด่นในช่วงเทศกาลและโอกาสพิเศษอื่นๆ ซึ่งทำหน้าที่แสดงความมั่งคั่ง ฐานะ และเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมได้อย่างเป็นรูปธรรม
สถานะปัจจุบันของอุตสาหกรรมเหมืองทองคำในลาว
อุตสาหกรรมทองคำของลาวเติบโตอย่างรวดเร็ว ซึ่งขับเคลื่อนโดยปัจจัยต่างๆ เช่น การเปลี่ยนผ่านสู่ระบบดิจิทัลและการใช้แพลตฟอร์มออนไลน์ที่เพิ่มมากขึ้นในการซื้อและขายทองคำที่ผ่านการรับรอง การเปลี่ยนแปลงไปสู่แพลตฟอร์มดิจิทัลนี้ไม่เพียงแต่ดึงดูดนักลงทุนรุ่นใหม่เท่านั้น แต่ยังอำนวยความสะดวกในการเข้าถึงทองคำสำหรับชุมชนลาวที่กระจายตัวอยู่ตามพื้นที่ต่างๆ ทั่วโลก ซึ่งจะช่วยเพิ่มความโปร่งใสและการมีส่วนร่วมในตลาด
ลาวเป็นประเทศที่มีทองคำเป็นสินค้าส่งออกสำคัญ โดยในปี 2565 มีการส่งออกทองคำมูลค่า 852 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ไปยังประเทศต่างๆ เช่น ออสเตรเลีย ไทย และสวิตเซอร์แลนด์ ฮ่องกง และอินเดีย อยู่อันดับที่ 61 ของผู้ส่งออกทองคำรายใหญ่ของโลก ซึ่งบ่งชี้ถึงตลาดส่งออกทองคำของลาวที่หลากหลาย นอกจากนี้ ระหว่างปี 2564 ถึง 2565 ลาวยังได้เห็นการเติบโตอย่างรวดเร็วในการส่งออกทองคำไปยังตลาดเกิดใหม่ เช่น สิงคโปร์ แคนาดา และเกาหลีใต้ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความต้องการทองคำของลาวที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก
แม้จะมีการส่งออกที่แข็งแกร่ง แต่ลาวยังนำเข้าทองคำมูลค่า 332 ล้านดอลลาร์ในปี 2565 ซึ่งอยู่อันดับที่ 39 ของโลกในแง่ของการนำเข้าทองคำ โดยไทยเป็นแหล่งที่มาหลัก คิดเป็นสัดส่วนส่วนใหญ่ของการนำเข้าทองคำ รองลงมาคือ สหรัฐ แนวโน้มการนำเข้านี้เน้นย้ำถึงลักษณะหลายแง่มุมของตลาดทองคำของลาว โดยทองคำที่ผลิตในประเทศจำนวนมากถูกส่งออกในขณะเดียวกันก็นำเข้าทองคำจากประเทศอื่น
อุตสาหกรรมทองคำในลาว ทรัพยากรที่ยังไม่ได้รับการพัฒนาเต็มศักยภาพ
ลาวเป็นประเทศที่มีแหล่งแร่ทองคำกระจายอยู่หลายพื้นที่ เช่น เหมืองเซโปน (Sepon Mine) เหมืองทองคำขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศ โดยเป็นหนึ่งในเหมืองที่สำคัญที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ปัจจุบันแขวงสะหวันนะเขตมีโครงการขุดค้นและแปรรูปแร่ธาตุจำนวน 56 บริษัท บนพื้นที่สัมปทานรวม 133,296 เฮกตาร์ (ประมาณ 833,100 ไร่) โดยมีกิจการเหมืองแร่ที่สำคัญ อาทิ การขุดค้นและแปรรูปทองคำ - ทองแดง (บริษัทเอกชนจีน LXML) แร่แบไรต์ (Barite) (บริษัทเอกชนเวียดนาม DMC-VTS Joint Venture Co., Ltd.) แร่ยิปซัม (บริษัทเอกชนเวียดนาม Coecco Mineral Sole Co., Ltd. บริษัทเอกชนเวียดนาม Savan Minerals Co., Ltd. และบริษัทเอกชนลาว Savan Gypsum Co., Ltd.) และแร่โพแทช (บริษัทเอกชนจีน Lao Kaiyuan Mining Sole Co., Ltd.)
เมื่อเดือนสิหาคมที่ผ่านมา รัฐมนตรีกระทรวงการเงิน ในฐานะผู้แทนรัฐบาล สปป. ลาว และ บริษัท PTL Holding Co., Ltd. ร่วมลงนามสัญญาร่วมหุ้นเพื่อจัดตั้งธนาคารทองคำประเทศลาว จำกัด (Lao National Bullion Bank) โดย คาดว่า สปป. ลาว ยังมีแร่ทองคำจำนวนมากถึง 500 - 1,000 ตัน ที่ยังไม่ได้ถูกขุดค้น ซึ่งสูงเป็นอันดับ 3 ของอาเซียน และอันดับ 6 ของเอเชีย หากทองคำจำนวนดังกล่าวได้รับการรับรองตามมาตรฐานสากล (99.99%) จะสามารถสร้างคลังสำรองเงินตราต่างประเทศได้ประมาณ 50 - 76 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และคาดว่าการจัดตั้งธนาคารทองคำฯ จะช่วยพัฒนาอุตสาหกรรมทองคำและยกระดับให้ สปป. ลาว เป็นศูนย์กลางตลาดการค้าทองคำของภูมิภาคได้ต่อไป โดยจะเปิดให้บริการในระยะแรกช่วงปลายเดือนกันยายน และเปิดเต็มรูปแบบช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน 2567
ลาว : ทางแยกเศรษฐกิจกับความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม
การเพิ่มขึ้นของการผลิตทองคำเป็นความหวังเศรษฐกิจและโครงสร้างพื้นฐานของลาว เนื่องจากการพึ่งพาทรัพยากรธรรมชาติของประเทศ แต่ยังนำมาซึ่งการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพและมลพิษทางน้ำ ผลกระทบทางสังคมจากการขยายกิจกรรมการทำเหมืองจำเป็นต้องมีการมีส่วนร่วมของชุมชน และปฏิบัติตามโปรโตคอลด้านสุขภาพและความปลอดภัย การทำเหมืองในลาวจะต้องปฏิบัติตามมาตรฐานระหว่างประเทศด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแล (ESG)
กลาวเพิ่มการผลิตทองคำ การบรรลุเป้าหมายด้านสภาพภูมิอากาศของโลกจึงมีความสำคัญ ภาคส่วนทองคำระหว่างประเทศตั้งเป้าที่จะควบคุมอุณหภูมิโลกให้อยู่ที่ 2 องศาเซลเซียสภายในปี 2030 ซึ่งเป็นเป้าหมายที่ลาวกำลังดำเนินการ
ประเทศที่มีธนาคารทองคำหรือระบบที่เกี่ยวข้องกับทองคำ
ธนาคารทองคำ (Gold Bank) เป็นสถาบันทางการเงินที่มีบทบาทสำคัญในการจัดการและควบคุมตลาดทองคำในประเทศหรือภูมิภาคนั้น ๆ อย่างไรก็ตาม มีเพียงไม่กี่ประเทศที่มีโครงสร้างและบทบาทของ "ธนาคารทองคำ" โดยตรง ส่วนใหญ่การจัดการทองคำจะรวมอยู่ในหน้าที่ของธนาคารกลางหรือสถาบันเฉพาะทางด้านทองคำ
ตุรกี (Turkey) Istanbul Gold Exchange & Gold Banking System
ธนาคารกลางตุรกีมีบทบาทสำคัญในตลาดทองคำ โดยทำงานร่วมกับธนาคารพาณิชย์ที่ให้บริการด้าน "Gold Account" ซึ่งช่วยให้ประชาชนสามารถฝากและถอนทองคำแทนเงินสด ระบบนี้ส่งเสริมให้ประชาชนใช้ทองคำในระบบเศรษฐกิจ แทนที่จะเก็บไว้ในรูปของทองคำกายภาพ
อินเดีย (India) Gold Monetization Scheme
รัฐบาลอินเดียเปิดตัวโครงการ Gold Monetization Scheme (GMS) เพื่อให้ประชาชนฝากทองคำที่มีอยู่กับธนาคารในรูปของบัญชีทองคำ บางธนาคารในอินเดีย เช่น State Bank of India (SBI) และธนาคารเอกชนใหญ่ ๆ ให้บริการบัญชีทองคำ และช่วยสร้างตลาดทองคำที่โปร่งใส
จีน (China) Gold Savings and Gold-backed Lending
ธนาคารกลางจีน (PBOC) มีบทบาทสำคัญในการควบคุมตลาดทองคำในประเทศ ธนาคารพาณิชย์ในจีน เช่น Bank of China และ ICBC เสนอผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เกี่ยวกับทองคำ เช่น บัญชีออมทรัพย์ทองคำและการให้กู้ยืมโดยใช้ทองคำเป็นหลักประกัน
ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (Dubai, UAE) Dubai Gold and Commodities Exchange
ดูไบมีตลาดทองคำที่แข็งแกร่ง โดยธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินเสนอบัญชีทองคำและบริการที่เกี่ยวข้อง การซื้อขายทองคำในดูไบได้รับการสนับสนุนโดยตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ที่มีความทันสมัย
สวิตเซอร์แลนด์ (Switzerland) The Swiss Gold Market
สวิตเซอร์แลนด์ถือเป็นศูนย์กลางสำคัญของตลาดทองคำโลก ธนาคารพาณิชย์ใหญ่ ๆ เช่น UBS และ Credit Suisse เสนอบริการด้านทองคำ รวมถึงการจัดเก็บและการซื้อขาย
สิงคโปร์ (Singapore) Gold Accounts and Wealth Management
สิงคโปร์ไม่มีธนาคารทองคำโดยตรง แต่มีบริการทางการเงินที่เน้นการลงทุนในทองคำ เช่น UOB และ DBS Bank ที่เสนอผลิตภัณฑ์บัญชีทองคำ
ประเทศที่มี "ธนาคารทองคำ" หรือบริการที่เกี่ยวข้องมักจะมี ตลาดทองคำที่ใหญ่ หรือ ประชากรที่นิยมทองคำ เป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรม รูปแบบของธนาคารทองคำหรือระบบที่เกี่ยวข้องอาจแตกต่างกัน เช่น บัญชีออมทองคำ การซื้อขายทองคำผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัล หรือการสร้างระบบทุนสำรองที่เน้นการสะสมทองคำ ลาวเป็นหนึ่งในประเทศแรก ๆ ที่ตั้งธนาคารทองคำในรูปแบบเฉพาะตัว โดยมีศักยภาพที่จะเป็นตัวอย่างใหม่สำหรับประเทศในเอเชียที่ต้องการใช้ทรัพยากรธรรมชาติให้เกิดประโยชน์สูงสุด
ในประเทศไทยยังไม่มีธนาคารทองคำที่ทำหน้าที่คล้ายกับ Lao Bullion Bank ของลาว ที่ให้บริการฝากทองคำโดยตรงพร้อมดอกเบี้ย อย่างไรก็ตาม ธนาคารพาณิชย์บางแห่ง มีบริการที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายทองคำในรูปแบบของ Gold Wallet ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มสำหรับการลงทุนในทองคำแบบออนไลน์
ส่วนธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีบทบาทเกี่ยวกับการจัดเก็บทองคำในฐานะทุนสำรองเงินตราเพื่อเสริมเสถียรภาพของระบบเศรษฐกิจไทย แต่ไม่ได้ดำเนินการในลักษณะของธนาคารทองคำที่ให้บริการรับฝากทองคำจากประชาชนทั่วไป
อ้างอิงข้อมูล