ลาวเปิดตัว 'ธนาคารทองคำ' ยกระดับกู้วิกฤตค่าเงินกีบ

08 ธ.ค. 2567 | 08:18 น.
อัปเดตล่าสุด :08 ธ.ค. 2567 | 08:42 น.

เปิด 5 ปัจจัย ที่ทำให้ "นายกฯ ลาว" ต้องนำทีมเปิด "ธนาคารทองคำ : Lao Bullion Bank" แห่งแรก หวังแก้วิกฤตรักษาเสถียรภาพค่าเงินกีบ พร้อมเปิดบริการครบวงจรทั้งฝากทอง สินเชื่อ และตู้นิรภัย

Vientiane Times (เวียงจันทน์ไทมส์) สื่อ สปป.ลาว รายงานว่า เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (5 ธ.ค.) รัฐบาลลาวได้จัดพิธีเปิดตัว "ธนาคารทองคำลาว" (Lao Bullion Bank) อย่างเป็นทางการ ณ สำนักงานใหญ่ หมู่บ้านพอนซาย เมืองไซเสดถา นครหลวงเวียงจันทน์ โดยมีนายโสนไซ สีพันดอน นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยคณะผู้บริหารระดับสูงของรัฐบาล

ลาวเปิดตัว \'ธนาคารทองคำ\' ยกระดับกู้วิกฤตค่าเงินกีบ

ธนาคารทองคำลาวถือเป็นสถาบันการเงินแห่งแรกของประเทศที่ใช้ทองคำเป็นฐานในการให้บริการทางการเงิน โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อสร้างเสถียรภาพทางการเงินและรักษามูลค่าของเงินกีบให้มั่นคง

ดร.จันทอน สิดทิไซ กรรมการผู้จัดการธนาคารทองคำลาว เปิดเผยว่า ธนาคารพร้อมให้บริการที่หลากหลาย ทั้งบัญชีเงินฝากทองคำ สินเชื่อทองคำ ใบรับฝากทองคำที่ใช้เป็นหลักประกันได้ ตลอดจนห้องเก็บของมีค่าและตู้นิรภัยมาตรฐานสูง นอกจากนี้ยังมีบริการซื้อขายทองคำระหว่างประเทศผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัล การกลั่นทองคำ และการประเมินมูลค่าแร่ทองคำ

ลาวเปิดตัว \'ธนาคารทองคำ\' ยกระดับกู้วิกฤตค่าเงินกีบ

"การเปิดให้บริการของธนาคารครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงความร่วมมือระหว่างรัฐบาลและประชาชนในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจที่ประเทศกำลังเผชิญอยู่" ดร.จันทอน กล่าว

ด้านนางวัฒนา ดาลาลอย รักษาการผู้ว่าการธนาคารแห่ง สปป.ลาว กล่าวว่า ธนาคารทองคำลาวจะเป็นกลไกสำคัญในการบริหารการเงินและการคลังของประเทศ พร้อมให้คำมั่นว่าการดำเนินงานจะเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและโปร่งใส
ภายในงานยังมีพิธีลงนามความร่วมมือระหว่างธนาคารทองคำลาวกับพันธมิตรทางธุรกิจหลายราย ทั้งธนาคารพาณิชย์ สถาบันการเงิน และธุรกิจโลหะมีค่า เพื่อร่วมกันพัฒนาระบบการเงินของประเทศ ก่อนจะมีงานเลี้ยงฉลองที่โรงแรมแลนด์มาร์ค ริเวอร์ไซด์ โดยมีนายสะเหลิมไซ กมมะสิด รองนายกรัฐมนตรี พร้อมแขกผู้มีเกียรติจากทั้งในและต่างประเทศร่วมงาน

 

บทวิเคราะห์ความผันผวนค่าเงินกีบ

"ฐานเศรษฐกิจ" รวบรวมข้อมูล ในช่วงปีที่ผ่านมาพบว่า ค่าเงินกีบลาว (LAK) มีความผันผวนเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก เช่น ดอลลาร์สหรัฐ (USD) และบาทไทย (THB)

เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ (USD):

  • อัตราแลกเปลี่ยนสูงสุด: 1 USD ≈ 22,195 LAK เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2567
  • อัตราแลกเปลี่ยนต่ำสุด: 1 USD ≈ 20,538 LAK เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2566
  • การเปลี่ยนแปลงโดยรวม: ค่าเงินกีบลาวอ่อนค่าลงประมาณ 6.1% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐในช่วงปีที่ผ่านมา 

อัตราแลกเปลี่ยน เมื่อเทียบกับบาทไทย (THB):

  • อัตราแลกเปลี่ยนสูงสุด: 1 THB ≈ 682.50 LAK
  • อัตราแลกเปลี่ยนต่ำสุด: 1 THB ≈ 627.61 LAK
  • ค่าเฉลี่ยในช่วง 90 วันที่ผ่านมา: 1 THB ≈ 652.56 LAK 

 

วิเคราะห์ 5 ปัจจัย กระทบค่าเงินกีบ

1. ปัญหาเศรษฐกิจภายในประเทศ

  • หนี้สาธารณะสูง: ลาวมีหนี้สาธารณะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะหนี้ที่เป็นสกุลเงินต่างประเทศ เช่น ดอลลาร์สหรัฐ ทำให้ต้องใช้เงินกีบจำนวนมากเพื่อชำระหนี้ ส่งผลให้อุปสงค์ต่อเงินกีบลดลง
  • การขาดดุลการค้า: ลาวพึ่งพาการนำเข้าสินค้าจำนวนมาก เช่น น้ำมัน และสินค้าอุปโภคบริโภค แต่การส่งออกไม่เพียงพอที่จะสร้างรายได้ ทำให้เกิดการขาดดุลการค้า ส่งผลต่อค่าเงินกีบ
  • เงินเฟ้อสูง: ลาวเผชิญกับอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น ซึ่งกระทบกำลังซื้อภายในประเทศ และทำให้ค่าเงินในประเทศเสื่อมลง

2. การบริหารจัดการเงินตรา

  • ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศต่ำ: ลาวมีทุนสำรองเงินตราต่างประเทศที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้ธนาคารกลางไม่สามารถแทรกแซงตลาดเงินเพื่อรักษาค่าเงินกีบได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • นโยบายการเงินที่ไม่เข้มงวด: การพิมพ์เงินเพิ่มเพื่อสนับสนุนการใช้จ่ายของรัฐบาล อาจทำให้มูลค่าเงินกีบลดลงอย่างรวดเร็ว

3. ความผันผวนในเศรษฐกิจโลก

  • ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่า: เมื่อดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น ค่าเงินของประเทศกำลังพัฒนาอย่างลาวที่พึ่งพาสินค้านำเข้าจำนวนมากจะอ่อนค่าลง เนื่องจากต้นทุนการชำระหนี้และการนำเข้าที่เพิ่มขึ้น
  • ราคาน้ำมันและสินค้าโภคภัณฑ์: ลาวต้องนำเข้าน้ำมันและสินค้าโภคภัณฑ์ที่มีราคาในตลาดโลกเพิ่มขึ้น ส่งผลต่อความต้องการใช้เงินตราต่างประเทศ

4. ความไม่แน่นอนทางการเมือง

  • การลงทุนจากต่างประเทศลดลง: ความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติอาจลดลง เนื่องจากความไม่แน่นอนในการกำหนดนโยบายเศรษฐกิจและการเมืองภายในประเทศ
  • การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทางเศรษฐกิจ: การปรับเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจและการพัฒนาที่ช้า อาจทำให้นักลงทุนไม่มั่นใจในศักยภาพของเศรษฐกิจลาว

5. ผลกระทบจากประเทศเพื่อนบ้าน

  • ความสัมพันธ์กับจีน: ลาวพึ่งพาการลงทุนและเงินกู้จากจีนเป็นจำนวนมาก ความชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจลาว รวมถึงค่าเงินกีบ
  • อิทธิพลของเงินบาท: ลาวมีความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจกับไทยอย่างลึกซึ้ง การเปลี่ยนแปลงค่าเงินบาทจึงส่งผลโดยตรงต่อค่าเงินกีบ

สรุป

ค่าเงินกีบลาวมีแนวโน้มอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐและบาทไทยในช่วงปีที่ผ่านมา ปัจจัยที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงนี้อาจรวมถึงสภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศ การลงทุนจากต่างประเทศ และนโยบายการเงินของรัฐบาลลาว

การอ่อนค่าของเงินกีบลาวอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจภายในประเทศ โดยเฉพาะในด้านการนำเข้าและอัตราเงินเฟ้อ

 

ที่มาข้อมูลและภาพ : vientianetimes.org.la