ชัตดาวน์สหรัฐฯ เสี่ยงท่องเที่ยวพัง สูญพันล้านดอลลาร์ช่วงเทศกาล

21 ธ.ค. 2567 | 11:18 น.
อัปเดตล่าสุด :21 ธ.ค. 2567 | 11:31 น.

รัฐบาลสหรัฐฯ เสี่ยงชัตดาวน์ อาจสร้างความเสียหายต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวสหรัฐฯ สูงถึงพันล้านดอลลาร์ต่อสัปดาห์ พร้อมความวุ่นวายในช่วงเทศกาล

รอยเตอร์รายงานว่า สถานการณ์การเมืองในสหรัฐอเมริกากำลังร้อนระอุอีกครั้ง หลังมีความเป็นไปได้ของการชัตดาวน์รัฐบาลกลับมาอยู่บนโต๊ะการหารือระหว่างสมาชิกสภาคองเกรส ทั้งวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎร หากไม่มีการบรรลุข้อตกลงด้านงบประมาณภายในวันนี้ (21 ธ.ค. 2567) ผลกระทบจะกระจายวงกว้าง โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่มีมูลค่ามหาศาล ความเสียหายที่คาดการณ์ไว้อาจสูงถึงพันล้านดอลลาร์ต่อสัปดาห์ ซึ่งอาจสร้างความปั่นป่วนให้กับนักเดินทางหลายล้านคนในช่วงเทศกาลวันหยุดที่กำลังจะมาถึง

สมาคมการท่องเที่ยวสหรัฐฯ เตือนว่า การชัตดาวน์ที่ยืดเยื้ออาจส่งผลกระทบรุนแรงต่อระบบการเดินทาง ทั้งทางอากาศและที่พัก ท่ามกลางความต้องการเดินทางที่พุ่งสูงช่วงเทศกาล โดยทางหน่วยงานบริหารความปลอดภัยด้านการขนส่ง (TSA) คาดการณ์ว่าจะมีผู้โดยสารถึง 40 ล้านคนในช่วงวันหยุด การชัตดาวน์อาจทำให้เจ้าหน้าที่ตรวจความปลอดภัยสนามบิน 59,000 คนต้องทำงานโดยไม่ได้รับค่าจ้าง ซึ่งเคยเกิดขึ้นแล้วในปี 2562 จนส่งผลให้จุดตรวจบางแห่งมีเวลารอคอยยาวนานขึ้นอย่างน่ากังวล

นายเจฟฟรีย์ ฟรีแมน ซีอีโอสมาคมการท่องเที่ยวสหรัฐฯ กล่าวอย่างชัดเจนว่า การทำงานโดยปราศจากค่าตอบแทนของเจ้าหน้าที่ TSA และผู้ควบคุมการจราจรทางอากาศ เป็นความเสี่ยงที่ไม่ควรเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่การเดินทางพลุกพล่านที่สุดของปี และยังเน้นย้ำว่า ชาวอเมริกันส่วนใหญ่จะไม่ยอมทนต่อความล่าช้าและความไม่สะดวกที่อาจเกิดขึ้น

การศึกษาของสมาคมฯ พบว่า 60% ของชาวอเมริกันจะพิจารณาเปลี่ยนแผนการเดินทาง หากการชัตดาวน์เกิดขึ้นจริง ซึ่งอาจส่งผลให้นักเดินทางหลายคนตัดสินใจยกเลิกการบิน ขณะเดียวกัน หน่วยงานการบินกลาง (FAA) อาจต้องพักงานเจ้าหน้าที่กว่า 17,000 คน และยุติการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ควบคุมการจราจรทางอากาศ สิ่งเหล่านี้จะสร้างความกดดันต่อระบบการบินอย่างรุนแรง

กรณีศึกษาจากปี 2562 ชี้ให้เห็นถึงผลกระทบที่เป็นรูปธรรม เมื่อการชัตดาวน์รัฐบาลยาวนานถึง 35 วัน ทำให้เจ้าหน้าที่หลายคนลาหยุดเนื่องจากไม่ได้รับค่าจ้าง ส่งผลให้จุดตรวจหลายแห่งล่าช้าและระบบการบินในนิวยอร์กต้องชะลอตัว เหตุการณ์นี้กดดันให้ฝ่ายนิติบัญญัติต้องหาทางออกอย่างเร่งด่วน

แม้ว่าบางหน่วยงาน เช่น TSA และ FAA จะจัดให้พนักงานส่วนใหญ่ทำงานต่อในสถานะ "จำเป็น" แต่การทำงานโดยไม่ได้รับค่าจ้างเป็นเวลานาน ย่อมส่งผลกระทบต่อขวัญและกำลังใจ รวมถึงประสิทธิภาพการทำงาน ขณะที่สนามบินและสายการบินเตรียมพร้อมรับมือ แต่ความเสียหายที่เกิดขึ้นในอุตสาหกรรมนี้อาจไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้

ปัญหาใหญ่ยังรวมถึงผู้ประกอบการโรงแรมและบริการท่องเที่ยวต่างๆ ที่จะต้องเผชิญกับการยกเลิกการจอง หากนักท่องเที่ยวเลือกที่จะหลีกเลี่ยงการเดินทางช่วงความไม่แน่นอนของรัฐบาล การชัตดาวน์ที่กำลังเกิดขึ้นนี้จึงไม่ได้กระทบแค่เศรษฐกิจโดยรวม แต่ยังส่งผลต่อความเชื่อมั่นในระบบการบริหารประเทศอีกด้วย