ลาวเร่งฟื้นเศรษฐกิจ ท่ามกลางวิกฤตเหล้าปลอมสะเทือนนักท่องเที่ยว

25 พ.ย. 2567 | 12:09 น.
อัปเดตล่าสุด :25 พ.ย. 2567 | 15:54 น.

รัฐบาล สปป.ลาว กำลังเผชิญหน้ากับความท้าทายที่สั่นสะเทือนภาพลักษณ์ของประเทศ ท่ามกลางการเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างหนัก หลังเกิดเหตุการณ์เหล้าปลอมที่วังเวียง

รัฐบาล สปป.ลาว กำลังเผชิญหน้ากับความท้าทายที่สั่นสะเทือนภาพลักษณ์ของประเทศ หลังเกิดเหตุการณ์พิษเมทานอลที่เมืองวังเวียง เมืองท่องเที่ยวที่ถูกยกให้เป็นสวรรค์ของนักแบ็คแพ็คทั่วโลก เหตุการณ์นี้ไม่เพียงสร้างความสูญเสียต่อชีวิตนักท่องเที่ยว แต่ยังทำให้ความเชื่อมั่นต่อความปลอดภัยลดลงอย่างมาก

วังเวียง เมืองเล็กๆ ที่รายล้อมด้วยธรรมชาติอันงดงาม กลายเป็นจุดสนใจของโลกหลังมีรายงานนักท่องเที่ยวเสียชีวิตอย่างน้อย 6 ราย โดยหนึ่งในนั้นคือหญิงสาวชาวออสเตรเลียอายุเพียง 19 ปีที่เสียชีวิตหลังดื่มสุราปผสมเมทานอล สถานการณ์นี้ยังคงสร้างความตื่นตระหนกในหมู่นักเดินทาง

สำนักข่าว KPL ของรัฐบาลลาวรายงาน ตามที่รัฐบาล สปป.ลาว ออกแถลงการณ์ว่า กำลังดำเนินการสืบสวนสอบสวนหาสาเหตุ และหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมาย ยืนยันว่ารัฐบาล สปป.ลาว ให้ความสำคัญและเอาใจใส่ต่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวทั้งภายในและนักท่องเที่ยวต่างประเทศ พร้อมแสดงความเสียใจต่อเหตุนักท่องเที่ยวเสียชีวิตเพราะเหล้าผสมเมทานอล 

ปีท่องเที่ยวลาว 2024 แรงผลักดันสำคัญ

ท่ามเหตุการณ์สะเทือนใจ ลาวเดินหน้า "ปีท่องเที่ยวลาว 2024" อย่างมุ่งมั่น ภายใต้ธีม “สวรรค์แห่งวัฒนธรรม ธรรมชาติ และประวัติศาสตร์” โดยรัฐบาลตั้งเป้าดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติ 2.7 ล้านคน สร้างรายได้ 401 ล้านดอลลาร์ ส่วนปี 2025 คาดการณ์ว่าจะทะลุ 2.9 ล้านคน สร้างรายได้ 434 ล้านดอลลาร์ 

กิจกรรมมากกว่า 79 งานจะถูกจัดขึ้นทั่วประเทศ พร้อมเน้นการฟื้นฟูเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 และส่งเสริมการอนุรักษ์วัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ รวมถึงใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน

ช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาลาวแล้วกว่า 2.4 ล้านคน เพิ่มขึ้น 285% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะนี้รัฐบาลให้ความสำคัญกับการท่องเที่ยวเป็นอันดับหนึ่งในการพลิกฟื้นเศรษฐกิจประเทศ

ความเชื่อมั่นคือกุญแจสำคัญ รัฐบาลลาวจำเป็นต้องเร่งสร้างมาตรฐานความปลอดภัยด้านอาหารและเครื่องดื่มให้เทียบเท่าระดับสากล รวมถึงเพิ่มทรัพยากรในการบังคับใช้กฎหมายและควบคุมอุตสาหกรรมสุราเถื่อนให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น การปรับปรุงเหล่านี้ไม่เพียงช่วยสร้างความเชื่อมั่น แต่ยังทำให้ลาวเป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกไว้วางใจอีกครั้ง

 

ท่องเที่ยววังเวียงเพิ่มขึ้นท่ามกลางการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน

ณ เดือนตุลาคม วังเวียงต้อนรับนักท่องเที่ยวมากกว่า 900,000 คน ซึ่งเกินเป้าหมายที่ตั้งไว้ 800,000 คน ซึ่งรวมถึงนักท่องเที่ยวต่างชาติมากกว่า 400,000 คน ตามที่นายบุญจันทร์ มาลาวง ผู้ว่าราชการเมืองวังเวียง กล่าวทางโทรทัศน์กับ สถานีวิทยุแห่งชาติลาว (LNR) เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม

รายงานระบุว่า การท่องเที่ยวของวังเวียงดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเทียบกับปีก่อนๆ โดยมีจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นในปีนี้เพียงปีเดียว ปัจจัยสำคัญที่ผลักดันการเติบโตนี้ ได้แก่ ตัวเลือกการขนส่งที่ดีขึ้น เช่น รถประจำทาง รถไฟ และทางหลวง นอกจากนี้ แผนการท่องเที่ยวยังได้รับการปรับเปลี่ยนเพื่อรองรับจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น

การพัฒนาดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจากเงินช่วยเหลือมูลค่าเกือบ 15 ล้านเหรียญสหรัฐจากธนาคารพัฒนาแห่งเอเชีย (ADB) ซึ่งจัดทำผ่านข้อตกลงสามฉบับที่มุ่งเน้นการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานด้านการท่องเที่ยว

ข้อตกลงแรกเน้นไปที่การสร้างหลุมฝังกลบซึ่งแล้วเสร็จเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม โครงการที่สองคือการสร้างสะพานน้ำซองและยกระดับถนนจากวงเวียนไปแก่งยุ้ยซึ่งเริ่มเมื่อปีที่แล้ว โครงการที่สามซึ่งกำหนดจะเริ่มในเดือนพฤศจิกายนจะซ่อมแซมถนน 11 ​​สายในวังเวียง ครอบคลุมระยะทางรวม 5,294 เมตร

การปรับปรุงเหล่านี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อเพิ่มการเข้าถึงแหล่งท่องเที่ยวสำคัญและประสบการณ์โดยรวมของนักท่องเที่ยว ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจในท้องถิ่นและส่งเสริมการเติบโตของการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน

ความสำเร็จนี้สะท้อนถึง แผนการของหน่วยงานในเขตที่จะปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกและบริการเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับปีท่องเที่ยวลาว 2024รวมถึงการปรับปรุงด้านสิ่งแวดล้อมและประสบการณ์การท่องเที่ยวที่ดียิ่งขึ้นผ่านกิจกรรมต่างๆ และโครงสร้างพื้นฐานที่ได้รับการอัพเกรด

ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2566 วังเวียงสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ประมาณ 320,000 คน แบ่งเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ 116,000 คน และนักท่องเที่ยวในประเทศ 200,400 คน

เอเชียมีอัตราการเกิดพิษจากเมทานอลสูงที่สุดในโลก

ลาวไม่ใช่ประเทศเดียวที่เผชิญปัญหานี้ ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น อินโดนีเซียและเวียดนาม มีรายงานเหตุการณ์คล้ายกัน โดยเฉพาะในพื้นที่ที่การผลิตสุราเถื่อนยังแพร่หลาย เหตุการณ์ที่ลาวสะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของการลงทุนในมาตรฐานความปลอดภัยเพื่อลดความเสี่ยงที่อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจการท่องเที่ยว

เอเชียมีอัตราการเกิดพิษจากเมทานอลสูงที่สุดในโลกตามฐานข้อมูลของ MSF ส่วนใหญ่ส่งผลกระทบต่อประเทศยากจน โดยพบการระบาดในอินโดนีเซีย อินเดีย กัมพูชา เวียดนาม และฟิลิปปินส์

อินโดนีเซียถือเป็นจุดศูนย์กลาง เนื่องจากรายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมากที่สุดในรอบสองทศวรรษที่ผ่านมา ตามข้อมูลของ MSF ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการผลิตและการบริโภคสุราเถื่อนอย่างแพร่หลาย

เมืองต่างๆ เช่น วังเวียงในประเทศลาว  ถือเป็นจุดแวะพักระหว่างทางที่นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางท่องเที่ยวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เศรษฐกิจของเมืองนี้เติบโตจากการท่องเที่ยว โดยมีถนนหลายสายเต็มไปด้วยบาร์ ร้านอาหาร และโฮสเทลที่ให้บริการนักท่องเที่ยว

ขณะที่การบังคับใช้กฎหมายของลาว ถูกตั้งคำถามว่า มีทรัพยากรไม่เพียงพอและมีกฎระเบียบเกี่ยวกับมาตรฐานอาหารและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากเพียงพอหรือไม่ นอกจากนี้สื่อต่างประเทศยังรายงานว่ามีอุตสาหกรรมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ปรุงเองที่บ้านซึ่งอาจทำให้เกิดพิษได้โดยไม่ได้ตั้งใจ ขณะที่ผู้ผลิตยังผลิตเครื่องดื่มปลอมโดยใช้เมทานอลแทนเอทานอล เนื่องจากมีราคาถูกกว่า ดังที่ผู้สังเกตการณ์ในพื้นที่กล่าว

เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นสัญญาณเตือนที่ชัดเจนให้รัฐบาลลาวดำเนินการแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง ทั้งในแง่ของมาตรการควบคุมความปลอดภัยและการฟื้นฟูภาพลักษณ์ หากสามารถแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้สำเร็จ ปีท่องเที่ยวลาว 2024 อาจเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่ไม่เพียงส่งผลต่อเศรษฐกิจ แต่ยังสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวทั่วโลกอีกครั้ง