รัฐบาลอัดฉีด 1.1 หมื่นล้าน กองทุนหมู่บ้านทั่วประเทศ ไตรมาส1ปี 68

น.ส.จิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยแผนอัดฉีดเงินกองทุนหมู่บ้าน 1.1 หมื่นล้านบาท ไตรมาสแรกปี 2568 ต่อยอดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังแจกเงิน 10,000 บาทเฟสแรกแล้ว พร้อมเดินหน้าเฟส 2-3 แจกเงินผู้สูงอายุก่อนตรุษจีน และดิจิทัลวอลเล็ต

เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2567 - น.ส.จิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้กำกับดูแลสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ (สทบ.) เปิดเผยในงาน "กองทุนหมู่บ้านมั่นคง ชุมชนเข้มแข็งอย่างยั่งยืน" ว่า รัฐบาลเตรียมอัดฉีดเงินลงสู่หมู่บ้านและชุมชนทั่วประเทศ วงเงิน 11,000 ล้านบาท ในไตรมาสแรกของปี 2568

แผนกระตุ้นเศรษฐกิจ 3 เฟส

1. เฟสแรก: จ่ายเงิน 10,000 บาท ให้ผู้มีบัตรสวัสดิการและผู้พิการ (ดำเนินการแล้ว)

2. เฟสสอง: จ่ายเงินให้ผู้สูงอายุ (กำหนดจ่ายก่อนเทศกาลตรุษจีนปี 2568)

3. เฟสสาม: จ่ายเงินผ่านดิจิทัลวอลเล็ตสำหรับผู้ลงทะเบียน

ที่มาของเงินทุน

เงินอัดฉีดกองทุนหมู่บ้านครั้งนี้มาจากงบประมาณที่ สทบ. ได้รับจัดสรรภายใต้ พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2568 ในส่วนของทุนหมุนเวียน วงเงิน 11,946 ล้านบาท

แผนพัฒนากองทุนหมู่บ้าน

น.ส.จิราพร ยังเน้นย้ำว่า รัฐบาลมีเป้าหมายใช้กองทุนหมู่บ้านเป็นกลไกสำคัญในการฟื้นฟูเศรษฐกิจประเทศ โดยวางแผน:

• สานต่อการดำเนินงานกองทุนที่มีมากว่า 20 ปี
• ฟื้นฟูให้เป็นที่พึ่งของประชาชนอย่างแท้จริง
• นำเทคโนโลยีใหม่มาเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เปิดเผยระหว่างการเปิดงาน “กองทุนหมู่บ้านมั่นคง ชุมชนเข้มแข็งอย่างยั่งยืน” ว่า กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติดำเนินการ มา 23 ปีสำคัญอบ่างยิ่งผ่านการปฏิวัติมา 2 ครั้ง ผ่านการบริหารประเทศโดยรัฐบาลที่ไม่ได้รับการเลือกตั้งจากประชาชนและไม่ได้บริหารโดยพรรคไทยรักไทย หรือพรรคเพื่อไทย  ทำให้ขาดไปบางช่วง และเป็น 23 ปีที่เผชิญภาวะรุมเร้ามากมาย  

สิ่งที่ปรากฏวันนี้พรรคเพื่อไทยได้กลับมาบริหารประเทศ ด้วยระบบกองทุนหมู่บ้านที่เข้มแข็ง การแก้ปัญหาหนี้ประชาชน เราจะทำอย่างไรให้การดำเนินการกองทุนหมู่บ้านปลดหนี้ให้ประชาชน บริบทในหลายปีที่ผ่านมาทุนประเมินหมู่บ้านละ 1 ล้านบาท มีการเพิ่มเงินให้กองทุนสำเร็จ มีการแบ่งเกรดกองทุนที่ สำเร็จและที่ต้องแก้ไขปรับปรุง

วันนี้รัฐบาลจะเดินหน้าภายใต้งบที่มี 11,000 ล้านบาท จะให้เกิดประโยชน์กับประชาชนมากที่สุด อยากฝากคือ

1.การใช้เทคโนโลยีเข้ามาบริหารกองทุนหมู่บ้าน จะทำให้เห็นจุดอ่อน จุดแข็ง สามารถวิเคราะห์ประสิทธิภาพของตัวเองได้  

2.การเชื่อมโยงกองทุนหมู่บ้านกับเศรษฐกิจดิจิทัล กระทรวงดีอีพร้อมสนับสนุนกิจกรรมให้มีความเข้มแข็ง.