เจาะลึก "ศึกชิงประมูลเหมืองแม่เมาะ" คำสั่งชะลอเอื้อใคร?

26 พ.ย. 2567 | 12:17 น.
อัปเดตล่าสุด :26 พ.ย. 2567 | 14:31 น.

รายงานพิเศษ : เจาะลึก ศึกชิงประมูลเหมืองแม่เมาะ คำสั่งชะลอเอื้อใคร? หลัง "พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค” มีคำสั่งด่วนให้ “ผู้ว่า กฟผ." ชะลอ การจัดซื้อจัดจ้างงานจ้างเหมาขุด-ขนถ่านหินที่เหมืองแม่เมาะ มูลค่า 7.2 พันล้านบาท

คำสั่งด่วนให้ “ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.)” ชะลอ การจัดซื้อจัดจ้างงานจ้างเหมาขุด-ขนถ่านหินที่เหมืองแม่เมาะสัญญาที่ 8/1 มูลค่า 7,250 ล้านบาท จาก “พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค” รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน

กลายเป็นประเด็นร้อนที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด หลังมีเสียงคัดค้านจากบอร์ด กฟผ. และการร้องเรียนจาก “บริษัท อิตาเลียนไทยฯ” ที่ถูกตัดสิทธิ์จากการประมูล

“พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค” รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน

ที่น่าสังเกตคือ การประมูลครั้งนี้ใช้ "วิธีพิเศษ" แทนการประมูลแบบเปิดทั่วไปเหมือนครั้งก่อน ทั้งที่เป็นโครงการมูลค่าสูง 
และยิ่งไปกว่านั้น เมื่อมีการคัดค้านจากผู้แพ้การประมูล คำสั่งชะลอก็ถูกออกมาอย่างรวดเร็ว จนทำให้ กฟผ. ต้องออกมาแสดงความกังวลว่า อาจเป็นการเปิดช่องให้ผู้ที่เสนองานไม่ตรงตาม TOR ได้กลับมาเสนอราคาใหม่
 

เบื้องหลังการประมูลครั้งนี้ไม่ใช่แค่เรื่องของระเบียบพัสดุหรือความโปร่งใสเท่านั้น หากแต่เป็นการปะทะกันระหว่างสองขั้วอำนาจในวงการธุรกิจไทย คือ "หม่อมอุ๋ย" ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยและอดีตรองนายกรัฐมนตรี กับ "เปรมชัย กรรณสูต" เจ้าพ่อวงการก่อสร้าง ที่กำลังต่อสู้กันในสนามมูลค่าหลายพันล้าน

เจาะลึก \"ศึกชิงประมูลเหมืองแม่เมาะ\" คำสั่งชะลอเอื้อใคร?

จาก 2.6 หมื่นล้าน สู่ "วิธีพิเศษ" 7 พันล้าน

ย้อนกลับไปเมื่อปี 2557 สมัย นายสุนชัย คำนูณเศรษฐ์ เป็นผู้ว่าการ กฟผ. ได้เปิดประมูลงานจ้างเหมาขุด-ขนดินและถ่าน สัญญาที่ 8 มูลค่า 26,910 ล้านบาท ระยะเวลาดำเนินการ 10 ปี (2559-2568) โดยมีผู้สนใจซื้อซองประมูลถึง 13 ราย 
แต่มีเพียง 3 บริษัทยักษ์ใหญ่ที่ผ่านคุณสมบัติและยื่นซอง คือ บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) บริษัท สหกลอิควิปเมนท์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน)

การประมูลครั้งนั้น สหกลอิควิปเมนท์ ชนะการประมูลด้วยราคา 22,873 ล้านบาท ต่ำกว่าราคากลางถึง 4,036 ล้านบาท หรือ 15%  ทิ้งห่างคู่แข่งอย่างอิตาเลียนไทยที่เสนอราคา 26,691 ล้านบาท ต่ำกว่าราคากลาง 218 ล้านบาท  หรือ 0.81%  และ ช.การช่างที่เสนอราคา 29,580 ล้านบาท สูงกว่าราคา 9.93 %

10 ปีผ่านไป เมื่อสัญญา 8 ใกล้จะสิ้นสุด กฟผ. เลือกใช้ "วิธีพิเศษ" ในการจัดจ้างงานสัญญา 8/1 มูลค่า 7,250 ล้านบาท แทนการประมูลแบบเปิดเหมือนครั้งก่อน

 

เบื้องหลังการตัดสิทธิ์ "อิตาเลียนไทย"

แหล่งข่าวจาก กฟผ. เปิดเผยว่า อิตาเลียนไทยถูกตัดสิทธิ์จากการประมูลเนื่องจากข้อบกพร่อง 3 ประการ:

  1. เครื่องโม่ดินมีรายงานผลการตรวจสอบสภาพเครื่องจักรกลหลักไม่ครบตามจำนวนที่เสนอ
  2. สายพานลำเลียงดินและเครื่องโปรยดินไม่มีแผนการปรับปรุงสภาพก่อนการทำงาน 
  3. แบบดำเนินการที่เสนอมาขุดนอกขอบเขตพื้นที่การทำงานที่กำหนด

"ข้อบกพร่องทั้งหมดไม่ตรงตามเงื่อนไขใน TOR ที่กำหนด" แหล่งข่าวระบุ

เจาะลึก \"ศึกชิงประมูลเหมืองแม่เมาะ\" คำสั่งชะลอเอื้อใคร?

ใครอยู่เบื้องหลังบริษัทคู่แข่ง?

การแข่งขันครั้งนี้ไม่ใช่เพียงการประมูลธรรมดา แต่เป็นการปะทะกันระหว่างผู้มีอิทธิพลในวงการธุรกิจไทย ฝั่งสหกลอิควิปเมนท์ มี ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล หรือ "หม่อมอุ๋ย" ถือหุ้น 6.09% ขณะที่บริษัท เอสวีพีเค จำกัด ของ “ตระกูลศิริสรรพ์” ถือหุ้นใหญ่สุด 19.91%

ส่วนอิตาเลียนไทย นำโดย "เปรมชัย กรรณสูต" และครอบครัวถือหุ้นรวมกว่า 20% เป็นบริษัทรับเหมาก่อสร้างยักษ์ใหญ่ที่มีประสบการณ์งานภาครัฐมายาวนาน

 

กฟผ. สวนคำสั่งรัฐมนตรี

แม้รัฐมนตรีพลังงานจะสั่งระงับโครงการ แต่ กฟผ. ก็ออกมาชี้แจงว่า การยกเลิกการจัดซื้อจัดจ้างครั้งนี้อาจแสดงให้เห็นถึงความไม่โปร่งใส เพราะเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ที่มีข้อเสนอไม่ตรง TOR ได้เสนอราคาใหม่

"การยกเลิกประมูลครั้งนี้มีความเสี่ยงต่อการอุทธรณ์และร้องเรียนจากผู้ที่เสนอราคาที่มีข้อเสนอถูกต้องตามเงื่อนไข" แหล่งข่าวจาก กฟผ. ระบุ

ศึกชิงงานเหมืองแม่เมาะครั้งนี้สะท้อนให้เห็นความซับซ้อนของการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ ที่มีทั้งเรื่องของผลประโยชน์ทางธุรกิจ อำนาจทางการเมือง และความโปร่งใสในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง 

คำถามสำคัญที่ต้องติดตามต่อไปคือ การตรวจสอบข้อเท็จจริงจะออกมาในทิศทางใด? และผลของการตรวจสอบจะกลายเป็นบรรทัดฐานใหม่ในการประมูลงานภาครัฐหรือไม่?