ทายาทเจ้าสัวเจริญ ปลื้ม 9 เดือน ปี 67 AWC กำไรพุ่ง 42 % เปิดโรงแรมทำรายได้สูงสุด

12 พ.ย. 2567 | 18:51 น.
อัปเดตล่าสุด :12 พ.ย. 2567 | 19:06 น.
2.8 k

AWC ประกาศผลประกอบการ 9 เดือนปี 2567 รายได้พุ่ง 1.5 หมื่นล้านบาท ด้วยกำไรจากการดำเนินงานกลุ่มโรงแรมเติบโตก้าวกระโดด เปิดพอร์ตโรงแรมไหนทำรายได้สูงสุด ทั้งเตรียมเปิดโครงการใหม่ “Okura Cruise” กรุงเทพ รวมถึงโรงแรมใหม่ในพัทยา

นางวัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC ประกาศผลประกอบการไตรมาสที่ 3 ปี 2567 เติบโตต่อเนื่องจากครึ่งปีแรกแข็งแกร่งแม้อยู่นอกฤดูกาลท่องเที่ยว โดยในช่วง 9 เดือนแรกปี 2567 AWC มีรายได้รวมจากการดำเนินธุรกิจอยู่ที่ 15,122 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 3,991 ล้านบาท

วัลลภา ไตรโสรัส

จากผลการดำเนินงานอันยอดเยี่ยมของกลุ่มธุรกิจโรงแรมที่เติบโตได้ดีในทุกเซ็กเมนต์และสามารถทำกำไรจากการดำเนินงานในไตรมาส 3 ที่ 983 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 42 % จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้นถึง 79 %  เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2562

โดยโรงแรมกลุ่มประชุมสัมมนา (MICE) และโรงแรมในกรุงเทพฯ มีกลยุทธ์ผลักดันรายได้เฉลี่ยต่อห้องพัก (RevPAR) ในช่วง 9 เดือนแรกถึง 4,072 บาทต่อห้อง และในไตรมาส 3 เติบโต 16 % จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า รวมถึงมีค่า RGI Index ของโรงแรมในพอร์ตโฟลิโอสูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดอยู่ที่ 105

โรงแรมที่มีค่า RGI โดดเด่นสูงกว่าค่าเฉลี่ย อาทิ

  • โรงแรม คอร์ทยาร์ด แมริออท ภูเก็ต ทาวน์ มีค่า RGI เท่ากับ 195
  • โรงแรม แบงค็อก แมริออท เดอะ สุรวงศ์ มีค่า RGI เท่ากับ 174
  • โรงแรมเลอ เมอริเดียน กรุงเทพ ที่มีค่า RGI เท่ากับ 149

 

นอกจากนี้รายได้อาหารและเครื่องดื่มของธุรกิจโรงแรมและการบริการเติบโตเพิ่มขึ้น 13 %  เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าเป็นผลจากกลยุทธ์การบูรณาการจุดแข็งทางธุรกิจของกลุ่มธุรกิจโรงแรมและกลุ่มธุรกิจคอมเมอร์เชียลเข้าด้วยกันเพื่อเสริมสร้างมูลค่าร่วม (Synergy Value) และกลุ่มธุรกิจคอมเมอเชียลยังคงรักษาการเติบโตได้ดีจากการปรับกลยุทธ์การตลาดของศูนย์การค้าและอาคารสำนักงานสู่การเป็น AWC’s Lifestyle Destination ให้รองรับเทรนด์และตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า

โดยบริษัทเดินหน้าเพิ่มมูลค่าและยกระดับคุณภาพทรัพย์สินอย่างต่อเนื่อง มีทรัพย์สินดำเนินงาน 148,934 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ 79 จากปี 2562 และเพิ่มขึ้นร้อยละ 11 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ด้วยกลยุทธ์ผลักดันผลตอบแทน (Yield) ทรัพย์สินดำเนินงานแข็งแกร่งถึง 7.7 %

เปิดตัว ‘EA’ Rooftop at The Empire แลนด์มาร์กใหม่สู่การเป็น AWC’s Lifestyle Destination

AWC ได้สร้างปรากฏการณ์ระดับโลกเปิดโครงการ  ‘EA’ Rooftop at The Empire แลนด์มาร์กใหม่สู่การเป็น Lifestyle Destination หมุดหมายสุดพิเศษของกรุงเพทฯ รองรับนักท่องเที่ยวทั่วโลก โดยหลังเปิดอย่างเป็นทางการตั้งแต่เดือนกันยายน สามารถสร้างรายได้ให้กับธุรกิจ F&B เป็นอันดับหนึ่งของบริษัทฯ ผ่านการรวบรวม Top Cuisine ชั้นนำมาสู่ไลฟ์สไตล์รูฟทอปที่ใหญ่และสูงที่สุดใจกลางกรุงเทพฯ ณ “เอ็มไพร์” ไม่ว่าจะเป็น “Nobu Bangkok” ห้องอาหารโนบุที่สูงที่สุดในโลก โดยเชฟระดับตำนาน เชฟโนบุ มัตสึฮิสะ

รวมถึง “EA CHEF’S TABLE” เปิดประสบการณ์เชฟเทเบิลจาก 3 เชฟระดับมิชลินสตาร์กับ “Le Du Kaan” ห้องอาหารไทยบนรูฟทอปแห่งแรกของโลกโดยเชฟต้น ธิติฏฐ์ ห้องอาหารจีนร่วมสมัย “K by Vicky Cheng” โดยเชฟวิคกี้ เชง และห้องอาหารอิตาเลียนคลาสสิกร่วมสมัย “Sartoria by Paulo Airaudo” โดยเชฟเปาโล อายราวโด

‘EA’ Rooftop at The Empire

รวมถึง “EA Gallery” แหล่งรวมไลฟ์สไตล์ร้านอาหารชั้นนำไม่ว่าจะเป็นร้าน % Arabica สาขาที่สูงที่สุดในโลก ร้าน 手qraft (คราฟท์) บริการอาหารเช้าสไตล์ตะวันออกร่วมสมัย ร้าน Onggi กับประสบการณ์การทานอาหารแบบเซทต้นตำรับของเกาหลี รวมถึง Invitation Only บาร์ลับบนรูฟทอปกับดนตรีสากลย้อนยุค สู่การเป็นไลฟ์สไตล์เดสติเนชั่นเหนือระดับที่พร้อมสนับสนุนประเทศไทยสู่การเป็นจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวยั่งยืนระดับโลก

AWC เดินหน้าสร้างการเติบโตเคียงคู่การสร้างคุณค่าที่ยั่งยืนให้กับสังคมและชุมชน

AWC ยังคงมุ่งมั่นในการลดผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมภายใต้กรอบการดำเนินงาน Better Planet ผ่านกลยุทธ์ Climate Strategy ที่ครอบคลุม ซึ่งมุ่งเน้นการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานอย่างยั่งยืน โดยใน 9 เดือนที่ผ่านมา AWC ได้ดำเนินการติดตั้งเครื่องทำน้ำเย็นประสิทธิภาพสูง การปรับปรุงประสิทธิภาพระบบทำความเย็น พร้อมติดตั้งระบบพลังงานสะอาด

เช่น การติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ในโครงการต่าง ๆ อาทิ โรงแรม เชียงใหม่ แมริออท โฮเทล โรงแรม คอร์ทยาร์ด แมริออท ภูเก็ต ทาวน์ โรงแรม อินเตอร์คอนติเนนตัล เชียงใหม่ แม่ปิง โฮเทล โรงแรม แบงค็อก แมริออท มาร์คีส์ ควีนส์ปาร์ค และโรงแรม หัวหิน แมริออท รีสอร์ท และ สปา เพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และลดต้นทุนด้านพลังงาน รวมถึงสร้างการเติบโตที่มั่นคงพร้อมกับการส่งเสริมคุณค่าที่ยั่งยืนให้กับสังคมและชุมชน

ทายาทเจ้าสัวเจริญ ปลื้ม 9 เดือน ปี 67 AWC กำไรพุ่ง 42 % เปิดโรงแรมทำรายได้สูงสุด

เปิด 2 โครงการใหม่กรุงเทพฯ-พัทยา

โดยในช่วงปลายปีนี้และปีหน้า บริษัทเตรียมเปิดโครงการคุณภาพแห่งใหม่ในกรุงเทพฯ และพัทยา ที่จะเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจและเสริมความแข็งแกร่งให้กับพอร์ตโฟลิโอ ด้วยไฮไลต์อันโดดเด่นกับการเปิด “Okura Cruise” เรือเทปันยากิและไคเซกิสุดหรูระดับไฟน์ไดนิ่งลำแรกของโลกโดยโอกุระ ที่จะเปิดให้บริการ ณ ท่าเรือของโครงการเอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ เดสติเนชั่น

รวมทั้ง “Melia Pattaya Aquatique Destination” โรงแรมแห่งใหม่และแห่งแรกในเครือ AWC ในพัทยา ที่พร้อมจะเปิดให้บริการในเดือนธันวาคมนี้ ผ่านความร่วมมือกับพันธมิตรระดับโลกในการนำประสบการณ์สุดพิเศษระดับเวิร์ดคลาสมาสู่ประเทศไทย ซึ่งจะมีการประกาศเปิดตัวรายละเอียดของความร่วมมืออย่างเป็นทางการในเร็วๆ นี้

นอกจากนี้ AWC ยังได้ริเริ่มโครงการ “AWC ร่วมรวมพลังส่งความหวังและกำลังใจ” โดยร่วมมือกับพันธมิตรในการจัดตั้ง “ศูนย์ร่วมรวมพลังช่วยเหลือชุมชน” ที่อินเตอร์คอนติเนนตัล เชียงใหม่ แม่ปิง โฮเทล เพื่อร่วมแรงร่วมใจกันแก้ปัญหาน้ำท่วม รวมถึงให้การสนับสนุน ฟื้นฟู และดูแลพนักงานและประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วมจังหวัดเชียงใหม่ในช่วงที่ผ่านมา

ทั้งยังได้มอบเฟอร์นิเจอร์และของใช้จำเป็นจาก reConcept ร้านจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์คุณภาพดีจากโรมแรมในเครือ AWC รวมทั้งถุงกำลังใจและของใช้จำเป็นจากเหล่าพันธมิตร นำไปส่งมอบให้แก่ชุมชนรอบโครงการของ AWC ในจังหวัดเชียงใหม่ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัยดังกล่าว ซึ่งเป็นความมุ่งมั่นในการสร้างคุณค่าร่วมกับชุมชนและสังคมตามพันธกิจ “สร้างสรรค์อนาคตที่ดีกว่า”

โดยกลุ่มโรงแรมในเครือ AWC ในจังหวัดเชียงใหม่สามารถกลับมาดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยยอดเข้าพัก (OCC Rate) หลังสถานการณ์อย่างแข็งแกร่งกว่า 75-85 % ในทุกโรงแรมของ AWC  และสูงกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน AWC เชื่อมั่นว่าการรวมพลังภาครัฐ ภาคเอกชน และชุมชนจะร่วมสร้างเชียงใหม่ให้กลับมาแข็งแกร่ง และสร้างความมั่นใจให้กับนักเดินทางในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวที่กำลังจะมาถึงในปลายปีนี้ พร้อมเดินหน้าเติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน