"พิชัย" นำทีมพาณิชย์ ประชุม APEC ผลักดันการค้าในสหรัฐฯยุคโดนัลด์ ทรัมป์

12 พ.ย. 2567 | 13:45 น.
อัปเดตล่าสุด :12 พ.ย. 2567 | 14:40 น.

"รมว.พาณิชย์ 'พิชัย นริพทะพันธุ์' เตรียมเข้าร่วมประชุม APEC ที่เปรู พร้อมเยือนสหรัฐฯ เสริมสัมพันธ์การค้าและขยายโอกาสนำเข้าสินค้าไทย ในยุค "ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์" เปิดทางสู่ความร่วมมือเศรษฐกิจสำคัญในอนาคต

นายวิทยากร มณีเนตร ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ และโฆษกกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 12-16 พ.ย. 2567 นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และคณะ จะเดินทางไปเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีเอเปค (APEC Ministerial Meeting หรือ AMM) ครั้งที่ 35 ณ กรุงลิมา สาธารณรัฐเปรู ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 14 พ.ย. 2567 

ทั้งนี้ การประชุม AMM เป็นการประชุมร่วมกันระหว่างรัฐมนตรีด้านการค้ากับรัฐมนตรีด้านการต่างประเทศของสมาชิกเอเปค 21 เขตเศรษฐกิจ เพื่อทบทวนการดำเนินงานในปีที่ผ่านมา และร่วมเสนอข้อคิดเห็นต่อแนวทางการดำเนินงานในปีต่อไปต่อที่ประชุมผู้นำฯ 

ขณะเดียวกัน ระหว่างวันที่ 16-20 พ.ย. 2567 นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และคณะ

จะเดินทางเยือนนครลอสแองเจลิส สหรัฐอเมริกา เพื่อเร่งรัดและผลักดันให้เกิดการนำเข้าสินค้าไทยในสหรัฐฯ ส่งเสริมความสัมพันธ์สร้างเครือข่ายพันธมิตรและความร่วมมือด้านการค้าการลงทุนกับผู้นำเข้าในตลาดสหรัฐฯ จัดกิจกรรม In-Store Promotion สินค้าไทยที่ห้าง H Mart สาขา Irvine Westpark 

นอกจากนี้ ยังมีการประชุมติดตามสถานการณ์การค้าและการส่งออกสินค้าไทยในภูมิภาคอเมริกาและลาตินอเมริกากับทูตพาณิชย์ ภายหลัง โดนัลด์ ทรัมป์ ชนะเลือกตั้ง และหารือกับนักธุรกิจผู้นำเข้าประกอบการรายใหญ่ เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลทางการค้าการลงทุนปัญหาและอุปสรรค เพิ่มโอกาสในการส่งออกสินค้าไทย

ทั้งนี้ นายพิชัยจะเข้าประชุมรัฐมนตรีเอเปคร่วมกับนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทย โดยในระหว่างห้วงการประชุมจะได้เป็นโอกาสในการหารือกับประเทศสมาชิกเพื่อเร่งเจรจาข้อตกลงทางการค้าของประเทศ และหาโอกาสขยายความร่วมมือทางการค้าระหว่างกัน

ขณะเดียวกัน ภายในงาน นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ จะกล่าวถ้อยแถลงของไทยในวาระการประชุมเรื่อง “การค้าและการลงทุนเพื่อการเจริญเติบโตที่ครอบคลุมและเชื่อมโยงกัน” เพื่อนำเสนอวิสัยทัศน์และแนวทางการดำเนินการต่าง ๆ ของไทยที่สนับสนุนงานของเอเปค

นอกจากนี้ สาธารณรัฐเปรูตั้งเป้าหมายให้ที่ประชุม AMM มีการรับรองเอกสารผลลัพธ์ที่สำคัญคือ ถ้อยแถลงรัฐมนตรีเอเปค ประจำปี 2567 ที่ระบุประเด็นการค้าและการลงทุนที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงพาณิชย์ รวมทั้งประเด็นที่เป็นการสานต่อการดำเนินงานตามผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมในปีที่ไทยเป็นเจ้าภาพเอเปค ทั้งเรื่องการสานต่อวาระงานเขตการค้าเสรีเอเชีย-แปซิฟิก (FTAAP) และเป้าหมายกรุงเทพฯ ว่าด้วยเศรษฐกิจบีซีจี (Bangkok Goals on BCG) 

อย่างไรก็ดี ในระหว่างการประชุม AMM จะมีรัฐมนตรีการค้าหรือผู้แทนจากสมาชิกเอเปค 21 เขตเศรษฐกิจ เข้าร่วมด้วย จึงเป็นโอกาสที่จะได้พบหารือกับสมาชิกที่เป็นคู่ค้าสำคัญของไทย เช่น เกาหลีใต้ จีนฮ่องกง และชิลี เป็นต้น เพื่อกระชับความสัมพันธ์และผลักดันประเด็นที่สนใจร่วมกันให้มีความคืบหน้าด้วย เอเปคหรือความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก ประกอบด้วยสมาชิก 21 เขตเศรษฐกิจ ได้แก่ 

  • ออสเตรเลีย 
  • บรูไนดารุสซาลาม 
  • แคนาดา 
  • ชิลี 
  • จีน 
  • จีนฮ่องกง 
  • อินโดนีเซีย 
  • ญี่ปุ่น 
  • เกาหลีใต้ 
  • มาเลเซีย 
  • เม็กซิโก 
  • นิวซีแลนด์ 
  • ปาปัวนิวกินี 
  • เปรู 
  • ฟิลิปปินส์ 
  • รัสเซีย 
  • สิงคโปร์ 
  • จีนไทเป 
  • ไทย
  • สหรัฐอเมริกา 
  • เวียดนาม 

สำหรับช่วง 9 เดือน (มกราคม - กันยายน) ปี 2567 การค้าของไทยกับเอเปคมีมูลค่า 11.4 ล้านล้านบาท หรือ 318.2 พันล้านดอลลาร์ เป็นการส่งออกไปเอเปค 5.6 ล้านล้านบาท หรือ 156.4 พันล้านดอลลาร์ และการนำเข้าจากเอเปค 5.8 ล้านล้านบาท หรือ 161.8 พันล้านดอลลาร์