"พิชัย" ถก "ทูตจีน" กระชับสัมพันธ์การค้า-ลงทุน พร้อมแก้ปัญหา TEMU

26 ก.ย. 2567 | 12:58 น.
อัปเดตล่าสุด :26 ก.ย. 2567 | 13:38 น.

“พิชัย” รมว. พาณิชย์ ผนึก “ทูตจีน” พลิกวิกฤติเป็นโอกาส ปลดล็อคความกังวลสินค้าออนไลน์จีนเข้าไทย พร้อมยกระดับ การค้า-ลงทุน-ท่องเที่ยวไทย ทุกด้านเต็มที่ จีน ช่วยประสานงาน TEMU พร้อมจัดตั้งบริษัทและจดทะเบียนในไทย

วันที่ 26 กันยายน 2567 นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ แถลงภายหลัง “การประชุมหารือแนวทางการขยายความร่วมมือด้านเศรษฐกิจการค้าการลงทุน ไทย-จีน” ณ ห้องประชุมกิติยากรณ์วรลักษณ์ ชั้น 4 สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ ร่วมกับนายหาน จื้อเฉียง เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทยและคณะ พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงกระทรวงพาณิชย์ เพื่อกระชับความสัมพันธ์ด้านการค้าและการลงทุนของสองประเทศ

\"พิชัย\" ถก \"ทูตจีน\" กระชับสัมพันธ์การค้า-ลงทุน พร้อมแก้ปัญหา TEMU

นายพิชัย กล่าวว่า ประเด็นความกังวลเรื่องสินค้าจีนเข้าไทยตนได้อภิปรายในสภาว่าไม่อยากให้รู้สึกว่าจีนเป็นผู้ร้าย หลังอภิปรายในสภาตนได้ติดต่อกับทางสถานทูตจีน ซึ่งทางจีนรับทราบปัญหาที่เกิดขึ้นและดีใจที่มีโอกาสได้พูดคุยกัน ไทยและจีนมีความสัมพันธ์ทางการค้า การลงทุนที่ดีต่อกันมาโดยตลอด และต่อเนื่องในอนาคต จีนมีขนาดประชากรที่ใหญ่ นักเศรษฐศาสตร์คาดเศรษฐกิจจีนจะยิ่งโตมากขึ้น จึงต้องร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดเพื่อประโยชน์ของสองประเทศ

นอกจากนี้ได้ไทยขอให้ทางจีนช่วยเหลือ 3 เรื่องหลัก ได้แก่

1.รับซื้อสินค้าเกษตรจากไทยเพราะประชากรจีนเยอะสามารถรองรับสินค้าเกษตรจากไทยได้มาก ซึ่งทางจีนยินดี

2.อยากให้ทางจีนช่วยพัฒนาทรัพยากรบุคคลในไทยรองรับเทคโนโลยีด้วย

3.ช่วยส่งเสริมนโยบายของรัฐเรื่องซอฟต์พาวเวอร์ เช่น ภาพยนตร์ ล่าสุดเรื่อง หลานม่า ที่สะท้อนความสัมพันธ์ระหว่างไทยและจีน

\"พิชัย\" ถก \"ทูตจีน\" กระชับสัมพันธ์การค้า-ลงทุน พร้อมแก้ปัญหา TEMU

“ไทยและจีน มีความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างกัน ถ้าเรามีช่องทางที่ดีเค้ายินดีให้ความร่วมมือ อยากมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน และกับทุกประเทศที่เข้ามา เราจะมีมาตรฐานในการตรวจสอบสินค้า ทั้ง มอก. อย. ซึ่งจะใช้บังคับกับทุกประเทศไม่ใช่เฉพาะจีน ” นายพิชัย กล่าว

ขณะเดียวกัน ไทยได้หารือในการเปิดช่องทางให้สินค้าไทยเข้าสู่แพลตฟอร์ม e-Commerce จีนมากขึ้น ซึ่งตอนนี้มีการจัดงาน International Live Commerce Expo 2024 “มหกรรมไลฟ์คอมเมิร์ซนานาชาติ 2567” ที่นำอินฟลูฯจีน มาไลฟ์ขายสินค้าไทย ที่สามย่านมิตรทาวน์ 25-29 ก.ย. นี้ และได้หารือเรื่องการลงทุน และการท่องเที่ยวที่ผ่านมา 7-8 เดือนแรกปีนี้ มีนักท่องเที่ยวจีนมาเที่ยวไทยแล้วถึง 5 ล้านคน คาดว่าสิ้นปีนี้จะมีปริมาณถึง 8 ล้านคน เป็นรายได้หลักของไทย

อย่างไรก็ดี วันนี้ได้พลิกวิกฤตเป็นโอกาส ให้ความร่วมมือระหว่างไทย-จีนแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ซึ่งจีนจะเปิดให้ SMEs ไทยไปขายของผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ของจีนมากขึ้น เป็นโอกาสของไทยที่จะขยายการส่งออกไปยังจีน ให้ SMEs ไทยมีโอกาสเติบโตมากขึ้น  หวังว่าการพบกันครั้งนี้จะนำไปสู่ความรุ่งเรืองระหว่างไทยและจีนขยายยิ่งขึ้นในอนาคต

ด้าน นายหาน จื้อเฉียง เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาจีน เปิดเผยว่า หลังจากได้พูดคุยเรื่องการค้าการลงทุนไทย และทางไทยขอให้ทางจีนนำเข้าสินค้าไทยเพิ่มขึ้นเพื่อลดการขาดดุล ซึ่งในรายละเอียดการนำเข้าสินค้าจากจีนส่วนใหญ่เป็นสินค้าทุนที่เราเอาไปผลิตและขายต่อ เป็นสัดส่วนหลายแสนล้าน ซึ่งเราอยากเห็นการลงทุนจากจีนใน EEC มากขึ้น

\"พิชัย\" ถก \"ทูตจีน\" กระชับสัมพันธ์การค้า-ลงทุน พร้อมแก้ปัญหา TEMU

ขณะที่ ทางจีนเข้ามาลงทุนในไทยมากที่สุดแซงญี่ปุ่น และได้เชิญชวนให้มาลงทุนในไทย โดยเฉพาะสินค้าประเภท เซมิคอนดักเตอร์ และ PCB (แผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์) มากขึ้น จะเกิดการจ้างงานอีกเป็นจำนวนมาก ช่วยยกระดับรายได้คนไทย

“อยากให้ประชาชนชาวไทยมองเห็นได้ว่าความร่วมมือด้านการค้าการลงทุนระหว่างจีนกับไทย จะนำมาซึ่งโอกาสการพัฒนาให้กับคนไทย ช่วยยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนชาวไทยให้ดีขึ้น ซึ่งจีนยินดีที่จะแบ่งปันโอกาสการพัฒนาและผลประโยชน์ให้กับคนไทย ยินดีให้ไทยใช้แพลตฟอร์มต่างๆไปจำหน่ายสินค้าไทย”  นายหาน กล่าว

\"พิชัย\" ถก \"ทูตจีน\" กระชับสัมพันธ์การค้า-ลงทุน พร้อมแก้ปัญหา TEMU

สำหรับ เรื่องการค้าการลงทุนระหว่างจีนกับไทย เราให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก พยายามหาวิธีแก้ไขที่เหมาะสม หามาตรการมาควบคุมจัดการ ไม่อยากให้ไปเหมารวมความร่วมมือการค้าการลงทุนในเชิงลบ ทำลายผลประโยชน์ของทั้งสองประเทศ และขอชื่นชมรัฐบาลไทยและกระทรวงพาณิชย์ที่มีท่าทีถูกต้องให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหา คำนึงภาพรวมการค้าการลงทุนระหว่างไทยและจีน

อย่างไรก็ดี สำหรับบริษัท TEMU ได้รับทราบกฎระเบียบและข้อร้องต่างๆ ทาง TEMU กำลังประสานงานกับฝ่ายที่เกี่ยวข้องของไทย เพื่อปฏิบัติตามข้อเรียกร้องของฝ่ายไทย และกำลังจัดตั้งบริษัทและลงทะเบียนอย่างเป็นทางการที่ไทย ซึ่งยินดีให้ความร่วมมือกับกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงอื่นที่เกี่ยวข้อง ให้มีความเข้มงวดในการตรวจสินค้าที่นำเข้าจากต่างประเทศบังคับใช้ใช้กฎหมายในการควบคุมให้ถูกต้องตามมาตรฐานและกฎหมายของไทย

\"พิชัย\" ถก \"ทูตจีน\" กระชับสัมพันธ์การค้า-ลงทุน พร้อมแก้ปัญหา TEMU

สำหรับสถิติการค้าไทย - จีน ปี 2566 มีมูลค่าการค้ารวม 104,964.90 ล้านดอลลาร์ หรือ 3.64 ล้านล้านบาท.หดตัว 0.22 % เมื่อเทียบกับปีก่อน แบ่งเป็น มูลค่าส่งออกไทยไปจีน 34,164.51 ล้านดอลลาร์ หรือ 1.17 ล้านล้านบาท) หดตัว 0.77 % และมูลค่านำเข้าจากจีน 70,800.40 ล้านดอลลาร์ 2.47 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.59% ซึ่งไทยขาดดุลจีนมูลค่า 36,635.89 ล้านดอลลาร์ หรือ 1.29 ล้านล้านบาท

ทั้งนี้ สินค้านำเข้าหลักจากจีน ได้แก่ 

  • เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ -3.52%
  • เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ +2.36%
  • เคมีภัณฑ์ -7.85%
  • เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน -1.79%
  • เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ -7.91% 

ทั้ง 5 รายการรวมกันมีสัดส่วน 43.79% ของการนำเข้าโดยรวมจากจีน

ด้านสินค้าส่งออกหลักไปจีน ได้แก่

  • ผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็งและแห้ง +26.72%
  • ผลิตภัณฑ์ยาง -15.28%
  • เม็ดพลาสติก -20.15%
  • ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง -18.27%
  • เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ -29.03% 

ทั้ง 5 รายการรวมกันมีสัดส่วน 46.01% ของการส่งออกโดยรวมของไทยไปจีน