คู่มือลงทะเบียนรับเงินดิจิทัล10,000 บาทล่าสุด ทุกขั้นตอน ทุกเงื่อนไข

31 ก.ค. 2567 | 21:08 น.
อัปเดตล่าสุด :01 ส.ค. 2567 | 08:25 น.
3.9 k

เตรียมพร้อมรับเงินดิจทัล10,000 บาทล่าสุด ผ่าน Digital Wallet เช็คคุณสมบัติ วิธีลงทะเบียนผ่านแอปทางรัฐ ขั้นตอนการใช้จ่าย พร้อมคำถามที่พบบ่อย รู้ก่อนใคร ครบจบในที่เดียว

โครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet เป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาลที่มุ่งกระตุ้นเศรษฐกิจและบรรเทาภาระค่าครองชีพให้แก่ประชาชน โดยครอบคลุมพื้นที่ 878 อำเภอทั่วประเทศ

1. วัตถุประสงค์หลักของโครงการ:

  • เพิ่มกำลังซื้อให้ประชาชน
  • กระตุ้นการหมุนเวียนเงินในระบบเศรษฐกิจ
  • ส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการทำธุรกรรมทางการเงิน
  • ช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อยและร้านค้าขนาดเล็ก

2. คุณสมบัติผู้มีสิทธิ์รับเงิน 10,000 บาท

ผู้ที่จะได้รับสิทธิ์ต้องมีคุณสมบัติครบถ้วนดังนี้:

1. มีสัญชาติไทย

2. มีอายุตั้งแต่ 16 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป (ณ วันที่ 15 กันยายน 2567)

3. มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน

4. มีรายได้ไม่เกิน 840,000 บาทต่อปี (สำหรับปีภาษี 2566)

5. มีเงินฝากรวมไม่เกิน 500,000 บาท ณ วันที่ 31 มีนาคม 2567

6. ไม่เป็นผู้ต้องโทษจำคุกในเรือนจำ

7. ไม่เป็นผู้ถูกระงับสิทธิหรือถูกเรียกเงินคืนในมาตรการอื่นๆ ของรัฐ

8. ไม่เป็นผู้ฝ่าฝืนเงื่อนไขของมาตรการหรือโครงการอื่นๆ ของรัฐ

หมายเหตุ: การตรวจสอบเงินฝากจะพิจารณาจากบัญชีเงินฝาก 6 ประเภท ได้แก่ กระแสรายวัน ออมทรัพย์ เงินฝากประจำ บัตรเงินฝาก ใบรับฝากเงิน และผลิตภัณฑ์เงินฝากอื่นๆ ที่มีลักษณะคล้ายกัน โดยนับเฉพาะเงินฝากในสกุลเงินบาทและไม่รวมบัญชีร่วม

3. วิธีลงทะเบียนรับเงิน 10,000 บาท แบบละเอียดทุกขั้นตอน

ขั้นตอนที่ 1: ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน "ทางรัฐ"

  • สำหรับ iOS: ดาวน์โหลดจาก App Store คลิก
  • สำหรับ Android: ดาวน์โหลดจาก Google Play Store คลิก

ขั้นตอนที่ 2: เปิดแอปและสมัครสมาชิก

  1. เปิดแอป "ทางรัฐ"
  2. กดปุ่ม "สมัครสมาชิก/เข้าสู่ระบบ"
  3. เลือก "สมัครสมาชิก"
  4. กดปุ่ม "สมัครด้วยบัตรประชาชน"

ขั้นตอนที่ 3: ยอมรับข้อกำหนดและเงื่อนไข

  1. อ่านข้อกำหนดและความเป็นส่วนตัว
  2. กดเครื่องหมายถูกที่ "ฉันยอมรับข้อกำหนดและเงื่อนไข"
  3. กดปุ่ม "ยอมรับ"

วิธีสมัครแอปทางรัฐ

ขั้นตอนที่ 4: ถ่ายรูปบัตรประชาชน

  1. อ่านข้อแนะนำในการถ่ายรูปบัตรประชาชน
  2. กดปุ่มเพื่อถ่ายรูปบัตรประชาชน
  3. ตรวจสอบความชัดเจนของภาพและถ่ายใหม่หากจำเป็น

ขั้นตอนที่ 5: กรอกข้อมูลส่วนตัว

  1. กรอกข้อมูลตามที่ปรากฏบนบัตรประชาชน
  2. ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล
  3. กดปุ่ม "ยืนยันตัวตน"

ขั้นตอนที่ 6: สแกนใบหน้า

  1. อ่านข้อแนะนำในการสแกนใบหน้า
  2. กดปุ่มเพื่อเริ่มสแกนใบหน้า
  3. ทำตามคำแนะนำบนหน้าจอเพื่อสแกนใบหน้าให้สมบูรณ์

ขั้นตอนที่ 7: ตั้งค่าบัญชีผู้ใช้

  1. กำหนดชื่อบัญชีผู้ใช้
  2. ตั้งรหัสผ่านสำหรับเข้าใช้แอป
  3. กดปุ่ม "ยืนยัน"

วิธีสมัครแอปทางรัฐ 2

ขั้นตอนที่ 8: ตั้งค่า PIN Code

  1. ตั้ง PIN Code 6 หลัก
  2. ยืนยัน PIN Code อีกครั้ง

ขั้นตอนที่ 9: เปิดใช้งานการสแกนใบหน้า

  1. กดปุ่ม "ใช้งาน" เพื่อเปิดใช้การสแกนใบหน้า
  2. กด "เริ่มใช้งาน" เพื่อเข้าสู่หน้าหลักของแอป

วิธีสมัครแอปทางรัฐ 3

ขั้นตอนที่ 10: ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ

  1. ที่หน้าหลัก เลือกหมวดหมู่ "นโยบายรัฐบาล"
  2. เลือก "บริการลงทะเบียนขอรับสิทธิ Digital Wallet"
  3. อ่านรายละเอียดและกดปุ่ม "อนุญาต"
  4. รอประกาศวันกดยืนยันขอรับสิทธิอย่างเป็นทางการ

วิธีสมัครแอปทางรัฐ 4

4. กำหนดการสำคัญของโครงการ

  • 1 สิงหาคม 2567: เริ่มเปิดให้ลงทะเบียนผ่านแอป "ทางรัฐ" ตั้งแต่เวลา 8.00 น.
  • 15 กันยายน 2567: วันสุดท้ายของการลงทะเบียน
  • 16 กันยายน - 15 ตุลาคม 2567: ช่วงลงทะเบียนสำหรับผู้ที่ไม่มีสมาร์ทโฟน (รายละเอียดจะประกาศภายหลัง)
  • ไตรมาส 4 ปี 2567 (ตุลาคม-ธันวาคม): เริ่มใช้จ่ายเงินได้

5. วิธีการใช้จ่ายเงิน 10,000 บาท และเงื่อนไขที่ควรรู้

วิธีการใช้จ่าย:

  1. ใช้จ่ายผ่านระบบชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์บนแอป "ทางรัฐ"
  2. สแกน QR Code ที่ร้านค้าเพื่อชำระเงิน

เงื่อนไขสำคัญ:

  1. ใช้จ่ายได้เฉพาะในอำเภอเดียวกับที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน
  2. ต้องเป็นการซื้อขายแบบพบหน้า (Face to Face) เท่านั้น
  3. ใช้ได้กับร้านค้าขนาดเล็กและร้านสะดวกซื้อขนาดเล็กเท่านั้น
  4. ไม่สามารถใช้ที่ห้างสรรพสินค้าหรือร้านค้าปลีกขนาดใหญ่
  5. ไม่สามารถถอนเป็นเงินสดได้
  6. ไม่สามารถโอนให้ผู้อื่นได้

6. รายการสินค้าที่สามารถซื้อได้และซื้อไม่ได้

สินค้าที่สามารถซื้อได้:

  1. สินค้าอุปโภคบริโภคทั่วไป
  2. อาหารและเครื่องดื่ม (ยกเว้นแอลกอฮอล์)
  3. เสื้อผ้าและเครื่องแต่งกาย
  4. ของใช้ในครัวเรือน
  5. ยาและเวชภัณฑ์
  6. อุปกรณ์การเรียน

สินค้าที่ไม่สามารถซื้อได้ (Negative List):

  1. สลากกินแบ่งรัฐบาล
  2. เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
  3. ผลิตภัณฑ์ยาสูบ
  4. กัญชา กระท่อม และผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง
  5. บัตรกำนัลและบัตรเงินสด
  6. ทองคำ เพชร พลอย อัญมณี
  7. น้ำมันเชื้อเพลิงและก๊าซธรรมชาติ
  8. เครื่องใช้ไฟฟ้า
  9. อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
  10. เครื่องมือสื่อสาร

หมายเหตุ: รายการสินค้าที่ไม่สามารถซื้อได้ (Negative List) อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามที่กระทรวงพาณิชย์พิจารณากำหนด

7. ข้อมูลสำหรับร้านค้าที่ต้องการเข้าร่วมโครงการ

คุณสมบัติของร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ:

1. เป็นร้านค้าขนาดเล็กหรือร้านสะดวกซื้อขนาดเล็ก

2. ต้องอยู่ในระบบภาษี โดยเข้าเงื่อนไขข้อใดข้อหนึ่งต่อไปนี้:

  • อยู่ในระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม
  • เสียภาษีเงินได้นิติบุคคล
  •  เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (เฉพาะผู้มีเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 (8) แห่งประมวลรัษฎากร)

3. มีการยื่นแบบแสดงรายการภาษีติดต่อกันอย่างน้อย 2 ปี (2565-2566) สำหรับกิจการที่เปิดมานานกว่า 2 ปี

4. สำหรับร้านค้าใหม่ที่เปิดไม่ถึง 2 ปี ต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษีติดต่อกันตั้งแต่เริ่มประกอบกิจการจนถึงปัจจุบัน

5. ใช้หมายเลขโทรศัพท์แบบรายเดือนในการลงทะเบียน

วิธีการลงทะเบียนสำหรับร้านค้า:

  • เปิดรับลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2567 เป็นต้นไป
  • รายละเอียดวิธีการลงทะเบียนและช่องทางการสมัครจะมีการประกาศอย่างเป็นทางการในภายหลัง

ข้อควรรู้สำหรับร้านค้า:

1. ร้านค้าไม่สามารถถอนเงินสดได้ทันทีหลังจากที่ประชาชนใช้จ่าย

2. ร้านค้าจะสามารถถอนเงินสดได้ตั้งแต่รอบการใช้จ่ายที่ 2 เป็นต้นไป

3. การซื้อขายต้องเป็นแบบพบหน้า (Face to Face) เท่านั้น

4. ห้ามทำซ้ำ ส่งต่อ หรือใช้วิธีการอื่นใดกับ QR Code เพื่อหลีกเลี่ยงการทำธุรกรรมแบบพบหน้า

8. คำถามที่พบบ่อย (FAQs)

Q1: ถ้าไม่มีสมาร์ทโฟนจะลงทะเบียนได้หรือไม่?

A1: ได้ครับ รัฐบาลจะเปิดช่องทางพิเศษสำหรับผู้ที่ไม่มีสมาร์ทโฟนในช่วงวันที่ 16 กันยายน - 15 ตุลาคม 2567 โดยจะมีการประกาศรายละเอียดเพิ่มเติมในภายหลัง

Q2: เงิน 10,000 บาทนี้ต้องคืนหรือไม่?

A2: ไม่ต้องคืน เป็นเงินที่รัฐบาลมอบให้เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและช่วยเหลือค่าครองชีพ

Q3: สามารถโอนเงินให้ผู้อื่นได้หรือไม่?

A3: ไม่ได้ เงินนี้ไม่สามารถโอนให้ผู้อื่นได้ และต้องใช้จ่ายผ่านระบบ Digital Wallet เท่านั้น

Q4: หากมีเงินเหลือหลังสิ้นสุดโครงการจะเกิดอะไรขึ้น?

A4: รายละเอียดนี้ยังไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการ แนะนำให้ติดตามข่าวสารจากทางการอย่างใกล้ชิด

Q5: ผู้ที่อาศัยอยู่ต่างจังหวัดแต่ทะเบียนบ้านอยู่กรุงเทพฯ จะใช้จ่ายได้ที่ไหน?

A5: ต้องใช้จ่ายในอำเภอที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านเท่านั้นครับ ในกรณีนี้คือต้องใช้จ่ายในกรุงเทพฯ

Q6: หากลงทะเบียนไม่สำเร็จในวันแรก จะมีโอกาสลงทะเบียนอีกหรือไม่?

A6: ได้ สามารถลงทะเบียนได้ตลอดช่วงเวลาที่เปิดรับลงทะเบียน คือตั้งแต่ 1 สิงหาคม - 15 กันยายน 2567

Q7: เงินในโครงการนี้มีอายุการใช้งานหรือไม่?

A7: รายละเอียดเรื่องระยะเวลาการใช้งานยังไม่มีการประกาศอย่างชัดเจน แนะนำให้ติดตามข่าวสารจากทางการอย่างต่อเนื่อง

9. ช่องทางติดตามข้อมูลและสอบถามเพิ่มเติม

1. เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ: www.digitalwallet.go.th หรือ www.กระเป๋าเงินดิจิทัล.รัฐบาล.ไทย

2. ศูนย์บริการข้อมูลภาครัฐเพื่อประชาชน (Government Contact Center): โทร 1111

3. เพจ Facebook อย่างเป็นทางการของโครงการ (หากมี)

4. Line Official Account ของโครงการ (หากมี)

5. แอปพลิเคชัน "ทางรัฐ" - ติดตามข่าวสารและประกาศสำคัญ

ข้อแนะนำสุดท้าย:

1. เตรียมข้อมูลส่วนตัวให้พร้อมก่อนวันลงทะเบียน

2. ตรวจสอบการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตให้เสถียร

3. หากพบปัญหาในการลงทะเบียน อย่าเพิ่งตกใจ ให้ลองใหม่ในภายหลังหรือติดต่อศูนย์บริการข้อมูล

4. ติดตามข่าวสารอย่างต่อเนื่องเพื่อรับทราบการอัพเดทหรือการเปลี่ยนแปลงต่างๆ

5. ใช้จ่ายอย่างรอบคอบและตามความจำเป็น เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อตนเองและเศรษฐกิจโดยรวม