"AMATAV" ทุ่ม 860 ล.เหรียญฯรุกนิคมอุตฯเวียดนามรับย้ายฐานลงทุนทั่วโลก

24 มิ.ย. 2567 | 15:42 น.
อัปเดตล่าสุด :24 มิ.ย. 2567 | 17:42 น.

"AMATAV" ทุ่ม 860 ล.เหรียญฯรุกนิคมอุตฯเวียดนามรับย้ายฐานลงทุนทั่วโลก ระบุมีพื้นที่ได้รับใบอนุญาติ 18,750 ไร่ เผยมีลูกค้ากว่า 200 บริษัท มูลค่าลงทุนกว่า 6,000 ล้านเหรียญสหรัฐ และเกิดการจ้างงานมากกว่า 60,000 คน

นางสมหะทัย พานิชชีวะ กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อมตะ วีเอ็น จำกัด (มหาชน) หรือ AMATAV เปิดเผยถึงแผนกลยุทธ์ และภาพรวมการลงทุนในปี 2567 ว่า AMATAV ได้ดำเนินการลงทุนพัฒนาโครงการนิคมอุตสาหกรรม 3 แห่งและโครงการนิคมฯร่วมทุนกับพันธมิตรนานาชาติอีก  1 แห่งที่ประเทศเวียดนาม ประกอบด้วย 

  • นิคมฯอมตะซิตี้ เบียนหัว 
  • นิคมฯอมตะซิตี้ ลองถั่น 
  • นิคมฯอมตะซิตี้ ฮาลอง 
  • นิคมฯ กว่างจิ (Joint Venture) 

ทั้งนี้ คิดเป็นมูลค่าลงทุนทั้งหมดกว่า 860 ล้านเหรียญสหรัฐ บนพื้นที่ดินที่ได้รับใบอนุญาติ 3,000 เฮกตาร์ (18,750 ไร่) ซึ่งปัจจุบันมีลูกค้าทั้งหมดกว่า 200 บริษัทคิดเป็นมูลค่าลงทุนมากกว่า 6,000 ล้านเหรียญสหรัฐ และทำให้เกิดการจ้างงานมากกว่า 60,000 คน
 

สำหรับการพัฒนานิคมฯอมตะซิตี้ เบียนหัวซึ่งเป็นนิคมแรกตั้งอยู่ที่เมืองเบียนหัว จ. ดองไน เป็นโครงการนิคมอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ (Eco-Industrial Park) ถือเป็นต้นแบบให้กับการพัฒนานิคมฯอื่นของทั้งประเทศเวียดนาม 

"อมตะวีเอ็น" ทุ่ม 860 ล.เหรียญฯรุกนิคมอุตฯเวียดนามรับย้ายฐานลงทุนทั่วโลก

ส่วนนิคมฯอมตะซิตี้ ลองถั่น พัฒนาเป็นนิคมฯไฮเทคในพื้นที่ยุทธศาสตร์การลงทุนในภาคใต้

สำหรับภาคเหนือ นิคมฯอมตะซิตี้ ฮาลอง ซึ่งตั้งอยู่ที่ จ.กว่างหนิง อยู่ในเขตเศรษฐกิจพิเศษ (Economic Zone)ที่กำลังได้รับความสนใจสูงสุดจากนักลงทุนต่างชาติ เนื่องจากได้รับสิทธิประโยชน์ด้านภาษีหลายด้านจากเวียดนาม 

อย่างไรก็ดี ล่าสุดอมตะยังได้ร่วมมือกับบริษัท Marubeni Corporation ในการเข้าถือหุ้น สัดส่วน 20%  เพื่อเสริมความแข็งแกร่งทางธุรกิจในด้านเทคโนโลยี นวัตกรรม  การตลาดและการเงิน 

ขณะที่นิคมฯกวางจิ (JV)ในภาคกลางเป็นนิคมร่วมทุนกับพันธมิตรอีก 2 ราย ประกอบด้วย Singapore Industrial Park J.V Co., Ltd (VSIP) และ Sumitomo Corporation ซึ่งอยู่ระหว่างการพัฒนาโครงการ  
  
ปัจจุบันมีลูกค้าต่างชาติจำนวนมากสนใจเข้ามาลงทุนในเวียดนาม ดังนั้นในปี 2567 บริษัท อมตะ วีเอ็น จำกัด (มหาชน) มียอดขายที่รอโอน (Backlog) ประมาณ 60 เฮกเตอร์ และได้วางเป้าหมายรายได้เติบโต 15 – 20%