แจกเงินดิจิทัล “เศรษฐา” สั่งทบทวนตัดสิทธิ์สินค้านำเข้า มอบพาณิยช์สรุป

17 มิ.ย. 2567 | 19:07 น.
อัปเดตล่าสุด :17 มิ.ย. 2567 | 19:07 น.

“จุลพันธ์”เผยนายกรัฐมนตรี สั่งทบทวนรายการสินค้านำเข้า ห้ามใช้จ่าย “เงินดิจิทัล วอลเล็ต” มอบพาณิชย์ศึกษา สรุปใน 2-3 สัปดาห์

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ว่า ที่ประชุมมอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์กลับไปพิจารณารายละเอียดของรายการสินค้านำเข้าที่สามารถ หรือไม่สามารถนำมาร่วมในโครงการดังกล่าวได้ หลังจากที่นายกรัฐมนตรีได้แสดงความเป็นห่วงว่า หากโครงการนี้ใช้จ่ายในสินค้านำเข้าได้ จะทำให้เม็ดเงินไหลออกจากประเทศ และกระทบต่อผู้ผลิตในประเทศ

“การประชุมครั้งก่อนได้มีการสรุปเรื่องสินค้าที่เป็น Negative List เบื้องต้นเราห่วงเรื่องสินค้า Import content แต่ในที่สุดเมื่อมีข้อสรุปจากที่ประชุมว่า ให้รวบรวมสินค้าดังกล่าว เช่น มือถือ ก็มีการถกเถียงกันในสังคม ท่านนายกฯ ก็ได้แสดงความห่วงใยว่า ประเด็นนี้ อยากให้ทบทวนให้ละเอียดอีกครั้ง ดังนั้น เรื่องซื้อมือถือได้ ก็ยังไม่จบ วันนี้ ก็มอบให้กระทรวงพาณิชย์กลับไปทบทวนอีกครั้ง กลับมานำเสนอใน 2-3 สัปดาห์ข้างหน้า”

นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ความยากในการพิจารณารายการสินค้าอยู่ที่การกำกับดูแล เพราะรายการสินค้าที่นำเข้านั้น กว้างและหลากหลายมาก ยกตัวอย่าง กรณีมือถือนั้น มีความชัดเจนว่า เป็นสินค้าที่ไม่สามารถผลิตได้ในประเทศ แต่สำหรับสินค้าอื่น เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้านั้น เป็นสินค้าที่ผลิตได้ทั้งในและต่างประเทศ ดังนั้น เราก็ต้องใช้การกำหนดที่จะสามารถเกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

“ประเด็นนี้ ต้องสร้างคงามสมดุลระหว่างความง่ายของประชาชนและความหลากหลายของสินค้าที่ประชาชนจะใช้ได้ กับวัตถุประสงค์ที่ต้องกระตุ้นเศรษฐกิจ แม้ว่า ที่ประชุมจะสรุปไปแล้วเบื้องต้น แต่นำมาทบทวน แสดงว่า รัฐบาลรับฟังความเห็นประชาชน เพราะมีความเห็นหลากหลาย เช่น มือถือซื้อได้ไหม เครื่องใช้ไฟฟ้าซื้อได้ไหม เมื่อคิดเห็นหลากหลายก็ไม่ติดที่เราจะกลับมาทบทวน ซึ่งคนที่สามารถระบุเรื่องนี้ได้คือกระทรวงพาณิชย์”

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้หารือถึงระบบการลงทะเบียนสำหรับร้านค้า ประชาชน และการเชื่อมต่อการใช้จ่ายกับหน่วยงานอื่น เช่น ธนาคารพาณิชย์ แบงก์รัฐ และ กลุ่มอีเพย์เมนท์ ซึ่งเรื่องนี้ ทางคณะทำงานได้ประสานการทำงานระหว่างกันเรียบร้อย โดยในส่วนของระบบการลงทะเบียนและการใช้จ่ายจะดำเนินการผ่านซูเปอร์แอฟของรัฐบาล

สำหรับกำหนดระยะเวลาการลงทะเบียนโครงการนี้ ยังเป็นไปตามกำหนดเดิม คือ ไตรมาส 3 และการใช้จ่ายจะเริ่มได้ในไตรมาสที่ 4 โดยการใส่เงินให้แก่ประชาชนนั้น จะไม่มีการแบ่งให้กลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเป็นลำดับแรก แต่จะเป็นการใส่เงินให้กับประชาชนทุกกลุ่มที่ได้รับสิทธิ์