มติครม. เห็นชอบ 3 มาตรการลดค่าใช้จ่าย "ตรึงดีเซล-ก๊าซ LPG-ช่วยค่าไฟฟ้า"

07 พ.ค. 2567 | 11:49 น.
อัปเดตล่าสุด :07 พ.ค. 2567 | 18:52 น.
3.6 k

"นายกฯเศรษฐา ทวีสิน" เผย มติครม.เห็นชอบ 3 มาตรการลดค่าใช้จ่ายประชาชนด้านพลังงาน ทั้ง ตรึงราคาดีเซล-ก๊าซLPG และช่วยเหลือค่าไฟฟ้ากลุ่มเปราะบางไม่เกิน 300บาท

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี แถลงมติคณะรัฐมนตรี(ครม.) ล่าสุดวันนี้ (7 พ.ค.67) ว่า ที่ประชุมครม.เห็นชอบมาตรการลดค่าใช้จ่ายประชาชน 3 มาตราการ ดังนี้ 

  1. ตรึงราคาน้ำมันดีเซลไม่เกิน 33 บาทต่อลิตร
  2. ตรึงราคาก๊าซ LPG ไว้ 423 บาท/ ถังขนาด 15 กิโลกรัม
  3. ค่าไฟฟ้าช่วยประชาชนกลุ่มเปราะบางที่ใช้ไฟไม่เกิน 300 บาท

ทั้งนี้ในส่วนของงบประมาณที่ใช้ เป็นงบฯกลางจำนวน 1,800 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือการช่วยค่าไฟฟ้ากลุ่มเปราะบางกลุ่มใช้ไฟไม่เกิน 300 บาท  ส่วนการตรึงราคาน้ำมันดีเซลและก๊าซแอลพีจีใช้กลไกของกองทุนน้ำมัน

ต่อมา นางรัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยรายละเอียดว่า ครม. มีมติให้ความเห็นชอบในหลักการมาตรการลดภาระค่าใช้จ่ายด้านพลังงานให้แก่ประชาชน ตามที่กระทรวงพลังงาน เสนอ และมอบหมายให้กระทรวงพลังงาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามมาตรการดังกล่าวตามอำนาจและหน้าที่ โดยให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องโดยเร็ว

สำหรับมาตรการลดภาระค่าใช้จ่ายด้านพลังงานให้แก่ประชาชน เป็นมาตรการต่อเนื่องจากมาตรการเดิมที่จะสิ้นสุดลงในเดือนเมษายน 2567 เพื่อบรรเทาผลกระทบต่อภาระค่าครองชีพของประชาชนและการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ สรุปสาระสำคัญดังนี้

1. ตรึงราคาน้ำมันดีเซล ไม่ให้เกิน 33 บาท/ลิตร ระยะเวลาดำเนินการ 20 เม.ย. – 31 ก.ค. 2567 

2. ตรึงราคาขายปลีก LPG ที่ระดับ 423 บาท/ถังขนาด 15 กก. ระยะเวลาดำเนินการ 1 เม.ย. – 30 มิ.ย. 2567

3. ให้ส่วนลดค่าไฟฟ้า 19.05 สตางค์/หน่วย แก่ผู้ใช้ไฟฟ้าบ้านอยู่อาศัยที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วย/เดือน ระยะเวลาดำเนินการ พ.ค. – ส.ค. 2567 (4 เดือน)

ทั้งนี้ กระทรวงพลังงาน คาดว่าจะใช้วงเงินในการดำเนินการทั้ง 3 มาตรการ รวมทั้งสิ้น 8,300 ล้านบาท ประกอบไปด้วย

  • ช่วยเหลือกลุ่มผู้ใช้น้ำมันดีเซลจำนวน 6,000 ล้านบาท
  • ช่วยเหลือกลุ่มผู้ใช้ก๊าซ LPG จำนวน 500 ล้านบาท
  • มาตรการด้านไฟฟ้า จำนวน 1,800 ล้านบาท 

โดยในที่ประชุม ครม. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้การดำเนินการของมาตรการดังกล่าวพิจารณาใช้งบประมาณจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงก่อน ในส่วนที่เหลือค่อยขอรับจัดสรรจากงบฯ ปี 2567 งบกลาง ในรายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น