นายธนพล ทรัพย์สมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายดีเอ็ม (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า ภาพรวมเอเจนซีมีมูลค่าการตลาดของ 1.6 แสนล้านบาทในปี 2566 ส่วนโฆษณาออนไลน์ มีมูลค่าการตลาด 18,900 ล้านบาท ปัจจุบัน YDM มองว่า AI จะเข้ามาช่วยวงการเอเจนซี่ได้เป็นอย่างมาก แต่อาจจะมีอุปสรรคตรงที่ว่าผู้ประกอบการยังเผชิญความท้าทายในการสร้างการรับรู้ถึงประโยชน์ของ AI ให้กับลูกค้า
YDM มีการเติบโต 30% หรือประมาณ 700 ล้านบาท ในปี 2566 ที่ผ่านมา มีสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศ 5% โดยมีลูกค้ามากกว่า 1,500 แบรนด์ แต่ลูกค้าหลักอยู่ที่ประมาณ 100-200 ราย ปัจจุบันบริษัทมุ่งเน้นสร้างการรับรู้ให้กับลูกค้าว่า AI สามารถช่วยงานได้หลากหลาย
นายธนพล กล่าวว่า AI เป็นเทคโนโลยีเปลี่ยนโลก ซึ่งในปัจจุบัน AI เข้ามาดิสรัปท์และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานองค์กรในหลาย ๆ ด้าน เช่น Task Automation, Process Optimization และ Decision Support เป็นต้น โดย AI จะเข้ามายกระดับกลยุทธ์ทั้ง 3 ด้าน คือ
โดย YDM มองการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้คือโอกาส การนำศักยภาพของ AI มาเป็นเครื่องมือช่วยยกระดับการทำ Advertising & Marketing ช่วยให้นักการตลาดและแบรนด์ทำการตลาดได้แม่นยำ ตรงกลุ่มเป้าหมาย ส่งผลให้มีความสามารถด้านการสร้างยอดขายและเพิ่มผลกำไรบนต้นทุนที่ลดลง
นายณัฐพล จิตงามพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยี บริษัท วายดีเอ็ม (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า YDM นำ AI และ Data Technology มาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพงานบริการลูกค้า ดังนี้
YDM นำโมเดลการตลาดที่ครอบคลุมทุก Customer Journey ตั้งแต่สร้างการรับรู้ (Awareness) กระตุ้นการตัดสินใจ (Consideration) ปิดการขาย (Purchase) ไปจนถึงการรักษาฐานลูกค้า (Post-purchase)
ทาง YDM เองได้มีการนำ Automated Personalized Contextual Marketing มาใช้กับลูกค้าของเรา ยกตัวอย่าง ประกันภัยแบรนด์หนึ่งที่ขายทางออนไลน์ เราใช้ CDP มาเก็บข้อมูลเชิงพฤติกรรมของลูกค้าแต่ละรายอย่างละเอียด เช่น สนใจ Product ตัวไหน Engage กับ Message อะไร มาทำการแบ่งเป็น Segment ย่อย ๆ ตามบริบทของลูกค้าเพื่อทำการสื่อสารแบบอัตโนมัติ right time & right message ผลที่ได้คือ Conversion Rate ในการปิดการขายออนไลน์จากไม่ถึง 1% ขึ้นไปเกือบ 30%
นั่นหมายถึงประสิทธิภาพที่มากขึ้นกว่า 30 เท่า ทั้งนี้การทำ Personalization ระดับนี้ไม่ได้มีแต่ข้อดีเสมอไป เพราะขนาดของกลุ่มเป้าหมายที่เจาะจงจะมีขนาดที่เล็กลงมาก ๆ จากหลักหมื่น หลักแสน
เหลือเพียงแค่ประมาณ 400 - 500 คน รวมถึงยังต้องรอ Signal จาก User ในการสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ หากแบรนด์ไม่ได้มีระบบที่พร้อมจัดเก็บข้อมูลอย่างเป็นระบบ มี AI ช่วยให้การ Scale up ปริมาณชิ้นงาน สิ่งเหล่านี้แทบจะเกิดขึ้นไม่ได้เลย”
นายธนพล กล่าวว่า 4 อาวุธสำคัญที่แบรนด์ นักการตลาดต้องมี เพื่อเร่งปรับตัวให้ทันการเปลี่ยนแปลงยุคการตลาดปัญญาประดิษฐ์ ประกอบด้วย
ทั้งนี้ YDM ชู 3 กลยุทธ์ปีนี้เดินหน้าบุกตลาด พุ่งเป้าพาแบรนด์สร้างยอดขายสู่ผลลัพธ์ทางธุรกิจที่วัดผลได้ (THAT SELL Measurable Business Result) ประกอบด้วย
1.Full Funnel Creative มุ่งสร้างคอนเทนต์ และรูปแบบการสื่อสารใหม่ ๆ สอดรับกับเทรนด์และแบรนด์ในทุกช่องทาง ครอบคลุมผู้บริโภคในทุก ๆ Consumer Journey Stage
2.Marketing Technology แนะแบรนด์ให้เลือกใช้เครื่องมือ MarTech ที่ถูกต้อง เหมาะสม ในงบประมาณที่จับต้องได้ และ
3.Unveil Opportunity พาแบรนด์คว้าโอกาสใหม่ ๆ เพื่อต่อยอดธุรกิจสู่การเติบโตไปอีกระดับ