"ชลน่าน" ลุยญี่ปุ่นดันไทยสู่เป้า "ท่องเที่ยวเชิงสุขภาพโลก" 13-15 มี.ค.นี้

12 มี.ค. 2567 | 13:50 น.
อัปเดตล่าสุด :12 มี.ค. 2567 | 13:57 น.

"หมอชลน่าน" เยือนญี่ปุ่นหารือ เคอิโซะ ทาเคมิ รมว.สธ.ญี่ปุ่น ติดตามความร่วมมือภายใต้กรอบอาเซียน พร้อมติดตามการจัดสร้างอาคารนิทรรศการไทยในงาน World Expo 2025 Osaka Kansai ตั้งเป้าเป็นหมุดหมายของชาวโลกมาท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ 13-15 มี.ค.นี้ 

12 มีนาคม 2567 นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 27 เมษายน 2564 อนุมัติในหลักการให้ประเทศไทยเข้าร่วมงาน World Expo 2025 Osaka Kansai ณ นครโอซากา ประเทศญี่ปุ่น และมอบหมายให้กระทรวงสาธารณสุข โดยกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เป็นหน่วยงานรับผิดชอบหลักซึ่งช่วงวันที่ 13-15 มีนาคม 2565

ในวันดังกล่าวตนพร้อมด้วยผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข มีกำหนดจะเดินทางเยือนนครโอซากา ประเทศญี่ปุ่น เพื่อเข้าร่วมพิธีเปิดและติดตามความคืบหน้าการจัดทำอาคารนิทรรศการไทย (Thailand Pavilion) ในงาน Expo 2025 Osaka Kansai ภายใต้แนวคิด "SMILE" คือ

S : Siam  

M : Medical and Wellness Hub World Destination

I : Inspiration towards Wellness Community

L : Living Lab และ E : Enhancing Thailand  

ในโอกาสนี้นายแพทย์ชลน่านจะเดินทางไปยังกรุงโตเกียวเพื่อหารือความร่วมมือกับ นายเคอิโซะ ทาเคมิ (H.E. Prof. Keizo TAKEMI) รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข แรงงานและสวัสดิการ เพื่อติดตามความร่วมมือด้านสาธารณสุขภายใต้กรอบอาเซียนที่ญี่ปุ่นได้สนับสนุนอาเซียนในการจัดตั้ง ASEAN Centre for Public Health Emergencies and Emerging Diseases (ACPHEED) ใน 3 ประเทศ ได้แก่ เวียดนาม อินโดนีเซีย และไทย โดยมีสำนักเลขาธิการของศูนย์ฯ ตั้งอยู่ที่ประเทศไทย

รวมทั้งแสวงหาโอกาสที่จะพัฒนาความร่วมมือในการผลักดันประเทศไทยไปสู่การเป็นศูนย์กลางด้านการแพทย์และสุขภาพในระดับโลกตามวิสัยทัศน์ของนายกรัฐมนตรีโดยเฉพาะในประเด็นระดับนโยบายที่จะเปิดให้สามารถใช้สวัสดิการรักษาพยาบาลของต่างประเทศเข้ามารับบริการในประเทศไทยได้ 

ทั้งนี้ สำหรับอาคารนิทรรศการไทยข้างต้นจะแสดงถึงศักยภาพการเป็นศูนย์กลางด้านการแพทย์และสุขภาพ (Wellness & Medical Hub) ของประเทศไทยเพื่อเป็นจุดหมายปลายทางของประชาคมโลก

ตามวิสัยทัศน์ของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังที่จะผลักดันอุตสาหกรรมด้านการแพทย์และสาธารณสุขให้เป็นศูนย์ดูแลสุขภาพครบวงจร

จากจุดเด่นของสถานพยาบาลไทยที่มีชื่อเสียงระดับโลก บุคลากรมีความสามารถเป็นที่ยอมรับ และค่าใช้จ่ายสมเหตุสมผล ทำให้สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวและสร้างรายได้เข้าประเทศ