ไทยเนื้อหอม "ตลาดรถ EV" เติบโตพุ่ง มูลค่าทุนจดทะเบียน 2.2 หมื่นล้าน

06 มี.ค. 2567 | 10:55 น.
อัปเดตล่าสุด :06 มี.ค. 2567 | 11:39 น.

กรมพัฒนาธุรกิจฯ เผย ‘ธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้า’ ตลาดผู้บริโภคขยายตัวเพิ่มขึ้น 3 กลุ่ม ผู้บริโภคหันมาใช้รถยนต์ EV มากขึ้น สถิติ 4 ปีย้อนหลัง มีนักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในธุรกิจรถยนต์ EV ตามพ.ร.บ.ต่างด้าว จำนวน 14 ราย มูลค่าทุนจดทะเบียน 22,134.80 ล้านบาท

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้วิเคราะห์ธุรกิจที่น่าสนใจประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2567 พบว่า ธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้า (EV Industry) เป็นกลุ่มธุรกิจที่น่าจับตามอง และมีอัตราการเติบโตสูงทั้งตลาดรถยนต์ในประเทศไทยและตลาดโลก เนื่องจากมีปัจจัยที่เข้ามาสนับสนุนหลายด้าน อาทิ ปัจจัยด้านพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนมาใช้รถไฟฟ้าและไฮบริดมากขึ้น

 และจากข้อมูลของกรมการขนส่งทางบก พบว่า ช่วงปี 2563-2566 มีอัตราการจดทะเบียนรถประเภทนี้เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดถึง 116.69% สอดรับกับปัจจัยด้านนโยบายสนับสนุนของรัฐบาลที่ตั้งเป้าหมายการผลิตรถยนต์ในปี 2573    ต้องมีรถยนต์ที่ปล่อยมลพิษเป็นศูนย์อย่างน้อย 30% ของรถยนต์ที่ผลิตในประเทศ ประกอบกับการส่งเสริมแรงจูงใจให้ประชาชนหันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้นด้วยการลดภาษีนำเข้าและภาษีสรรพสามิตลง ปัจจัยด้านสถานการณ์น้ำมันที่มีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และปัจจัยด้านฝุ่นพิษที่ทวีความรุนแรงขึ้น การใช้รถยนต์ไฟฟ้าจะเป็นส่วนช่วยแก้ไขปัญหาได้ในระยะยาว

 

จากการวิเคราะห์เชิงลึก พบว่า กลุ่มตัวอย่างธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้าที่เป็นนิติบุคคลไทยที่น่าสนใจแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มคือ

  • กลุ่มผู้ผลิตระบบควบคุมไฟฟ้า (Control Charging Plug and Socket) ซึ่งทีการจดทะเบียน นิติบุคคลจำนวน 31 ราย ทุนจดทะเบียนรวม 14,537.19 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่เป็นธุรกิจขนาด L จำนวน 22 ราย คิดเป็น 70.97% มูลค่าทุนจดทะเบียน 14,480.19 ล้านบาท

รองลงมาธุรกิจขนาด S จำนวน 5 ราย คิดเป็น 16.13% มูลค่าทุนจดทะเบียน 16 ล้านบาท และธุรกิจขนาด M จำนวน 4 ราย คิดเป็น 12.90% มูลค่าทุนจดทะเบียน 41 ล้านบาท

สัญชาติของผู้ถือหุ้นประกอบไปด้วย ญี่ปุ่น มูลค่าการลงทุน 7,870.19 ล้านบาท รองลงมาคือไทย มูลค่าการลงทุน 3,137 ล้านบาท และอินเดีย มูลค่าการลงทุน 400 ล้านบาท

  • กลุ่มผู้ผลิตระบบอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Devices) จดทะเบียนนิติบุคคลจำนวน 122 ราย ทุนจดทะเบียนรวม 76,674.67 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่เป็นธุรกิจขนาด L จำนวน 85 ราย คิดเป็น 69.67% มูลค่าทุนจดทะเบียน 71,967.55 ล้านบาท

รองลงมาธุรกิจขนาด S จำนวน 21 ราย คิดเป็น 17.22% มูลค่าทุนจดทะเบียน 3,578.22 ล้านบาท และธุรกิจขนาด M จำนวน 16 ราย คิดเป็น 13.11% มูลค่าทุนจดทะเบียน 1,128.90 ล้านบาท

สัญชาติของผู้ถือหุ้นประกอบไปด้วย ญี่ปุ่น มูลค่าการลงทุน 53,512.72 ล้านบาท รองลงมาคือไต้หวัน มูลค่าการลงทุน 7,108.25 ล้านบาท และไทย มูลค่าการลงทุน 4,864.84 ล้านบาท

  • กลุ่มธุรกิจสถานีชาร์จ (EV Charging Station) จดทะเบียนนิติบุคคลจำนวน 9 ราย ทุนจดทะเบียนรวม 31,758.46 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่เป็นธุรกิจขนาด M จำนวน 4 ราย คิดเป็น 44.44% มูลค่าทุนจดทะเบียน 31,328.01 ล้านบาท

รองลงมาธุรกิจขนาด S จำนวน 4 ราย คิดเป็น 44.44% มูลค่าทุนจดทะเบียน 53.88 ล้านบาท และธุรกิจขนาด L จำนวน 1 ราย คิดเป็น 11.12% มูลค่าทุนจดทะเบียน 376.57 ล้านบาท สัญชาติของผู้ถือหุ้นเป็นสัญชาติไทยทั้งหมด

ไทยเนื้อหอม \"ตลาดรถ EV\" เติบโตพุ่ง มูลค่าทุนจดทะเบียน 2.2 หมื่นล้าน

 “ไทยมีความพร้อมที่จะดึงดูดการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติในอุตสาหกรรมยานยนต์เพื่อมุ่งเป้าให้ไทยเป็นศูนย์กลางผลิตยานยนต์แห่งอนาคต จากข้อมูลจะเห็นว่านักลงทุนสัญชาติญี่ปุ่นซึ่งเป็นผู้นำด้านการผลิตรถยนต์ระดับโลกได้สนใจเข้ามาลงทุนในไทย ประกอบกับมีนักลงทุนสัญชาติจีนซึ่งเป็นผู้เล่นใหม่ในอุตสาหกรรมนี้ก็มีแผนขยายฐานการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยเช่นกัน

ซึ่งจะส่งผลดีต่อการสร้างรายได้อย่างมหาศาลให้ประเทศไทย เกิดการลงทุนและจ้างงานคนไทย แม้ธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้า (EV Industry) จะดูมีอนาคตที่สดใส แต่ก็ยังมีความท้าทายที่รออยู่ข้างหน้าเช่นกัน ทั้งการแข่งขันที่จะสูงขึ้น ดังนั้น ยังมีโอกาสในการลงทุนอีกมากและผู้ประกอบการจะต้องปรับตัวให้ทันต่อความท้าทายดังกล่าวด้วย”

สำหรับการลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับยานยนต์ไฟฟ้า (EV Industry) ภายใต้ พ.ร.บ. การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา (ปี 2563-2566) มีจำนวน 14 ราย มีมูลค่าทุนจดทะเบียน 22,134.80 ล้านบาท โดยเป็นนักลงทุนจากประเทศสิงคโปร์ จีน ฮ่องกง ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา และ สหราชอาณาจักร ซึ่งเป็นการลงทุนในธุรกิจนายหน้า/ค้าปลีก/ค้าส่ง (รถยนต์ไฟฟ้า/รถจักยานยนต์ไฟฟ้า/EV Battery) จำนวน 4 ราย มูลค่าทุนจดทะเบียน 310.80 ล้านบาท

  • ธุรกิจ EV Charging Station จำนวน 3 ราย มูลค่าทุนจดทะเบียน 8,893.34 ล้านบาท
  • ธุรกิจบริการรับจ้างผลิต จำนวน 2 ราย มูลค่าทุนจดทะเบียน 371.68 ล้านบาท
  • ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับยานยนต์ไฟฟ้า (EV Industry) จำนวน 5 ราย มูลค่าทุนจดทะเบียน 12,558.99 ล้านบาท เช่น บริการซ่อมแซมและบำรุงรักษารถยนต์ไฟฟ้า บริการให้เช่าเครื่องอัดประจุไฟฟ้า  (EV Charger) บริการตรวจสอบแบตเตอรี่ที่ใช้แล้วสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าเป็นต้น

ไทยเนื้อหอม \"ตลาดรถ EV\" เติบโตพุ่ง มูลค่าทุนจดทะเบียน 2.2 หมื่นล้าน