เปิดวิสัยทัศน์ ประธานบอร์ดทอท. ดัน AOT ติด TOP 50 สนามบินที่ดีที่สุดในโลก

18 ม.ค. 2567 | 10:16 น.
อัปเดตล่าสุด :19 ม.ค. 2567 | 23:33 น.

เปิดวิสัยทัศน์ วิสนุ ปราสาททองโอสถ ประธานบอร์ดทอท.คนใหม่ ชู 5 คีย์ซัคเซส ตั้งเป้าดัน AOT ติดสนามบินดีที่สุดอันดับต้นของโลก มุ่งขยับสนามบินสุวรรณภูมิ ไต่อันดับ ติด 1 ใน 50 สนามบินที่ดีที่สุดในโลก ใน 2 ปีจากนี้ พร้อมเร่งขยายสนามบินเต็มสูบ

พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ ประธานกรรมการ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ทอท. หรือ AOT เปิดเผยว่าในโอกาสที่ตนได้รับโอกาสให้มาทำหน้าที่ประธานกรรมการฯ (ประธานบอร์ดทอท.) ในครั้งนี้ถือเป็นเรื่องท้าทาย เนื่องจากทุกประเทศกำลังเร่งส่งเสริมตลาดการท่องเที่ยวและตลาดทุนจากต่างชาติหลังสถานการณ์โควิด ซึ่งสนามบินถือเป็นประตูบานแรกที่สำคัญในการเปิดรับการเดินทางและการขนส่งของประเทศ จึงมีการแข่งขันเพื่อยกระดับสนามบินของแต่ละประเทศให้ขึ้นแท่นสนามบินที่ดีระดับโลก รวมถึงสนามบินของไทยเราที่มีความได้เปรียบด้านภูมิยุทธศาสตร์ของภูมิภาค

วิสนุ ปราสาททองโอสถ

ตนจึงได้ประกาศวิสัยทัศน์ “ยกระดับการเป็นศูนย์กลางการคมนาคมขนส่งทางอากาศแห่งภูมิภาค สู่ประตูการบินของโลก” เพื่อกระตุ้นการขับเคลื่อนให้สนามบินของ AOT ติดสนามบินดีสุดอันดับต้นของโลกให้ได้ ซึ่งเป็นหนึ่งในแผนของรัฐบาลที่ต้องการยกระดับท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เป็นศูนย์กลางการคมนาคมขนส่งทางอากาศแห่งภูมิภาคสู่ประตูการบินของโลก

 

โดยตั้งเป้าหมายผลักดันการให้บริการสนามบินของ ทอท. ติด 1 ใน 50 ท่าอากาศยานที่ดีที่สุดของโลกใน 2 ปีนับจากนี้ จากปัจจุบันสนามบินสุวรรณภูมิประเทศไทยอยู่ที่อันดับ 77 เป็นหนึ่งในแผนของรัฐบาลที่ต้องการยกระดับท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เป็นศูนย์กลางการคมนาคมขนส่งทางอากาศแห่งภูมิภาคสู่ประตูการบินของโลก

 

ปัจจัย Key success สู่ความสำเร็จ จะมุ่งเน้นมี 5 ข้อ ได้แก่

  1. ให้คุณค่ากับ Man power ทุกระดับ ทุกฝ่าย
  2. สร้างความมั่นใจทางธุรกิจ เพื่อความมั่นคงในการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
  3.  ความโปร่งใสตรวจสอบได้ คือหัวใจสำคัญ
  4. สร้างการยอมรับจากสังคม ประชาชน ผู้ใช้บริการ ทุกส่วนในอุตสาหกรรมการบิน
  5. บูรณาการการทำงานทุกภาคส่วนในอุตสาหกรรมการบินในรูป Home team เพื่อมุ่งสู่ความสำเร็จร่วมกัน

โดยนโยบายเร่งด่วน ที่เร่งทำทันที คือ

1.เร่งปรับปรุงพื้นที่ทางกายภาพและระบบอำนวยความสะดวกทั้งระบบในและนอกอาคารผู้โดยสารของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ทสภ.และท่าอากาศยานดอนเมือง (ทดม.) ให้พร้อมตอบสนองนโยบายเพิ่มปริมาณนักท่องเที่ยวและนักลงทุนต่างชาติของรัฐบาล

เปิดวิสัยทัศน์ ประธานบอร์ดทอท. ดัน AOT ติด TOP 50 สนามบินที่ดีที่สุดในโลก

2.การเร่งบูรณาการความร่วมมือทุกภาคส่วน เพื่อยกระดับท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เป็นสนามบินชั้นนำตามมาตรฐานสากลให้ได้ในปี 2567

ส่วน นโยบายระยะต่อเนื่อง มี Flag Ship Project สำคัญ 4 โครงการ คือ

  • เร่งขยายอาคารผู้โดยสาร  2 ท่าอากาศยานหลักคือ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และ ท่าอากาศยานดอนเมือง

โดยจะสร้างส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิฝั่งทิศเหนือ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสารได้เป็น 90 ล้านคนต่อปี โดยขณะนี้ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติกำลังพิจารณาเพื่อเสนอ คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติงบประมาณต่อไป

ส่วนท่าอากาศยานดอนเมือง ก็มีความคับแคบในขณะที่มีผู้ใช้บริการจำนวนมาก จึงจะมีการปรับปรุงก่อสร้างอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ อาคาร 1 ให้เป็นอาคารผู้โดยสารภายในประเทศเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสารจาก 30 ล้าน เป็น 50 ล้านคนต่อปี โดยขณะนี้ ครม.ได้อนุมัติงบประมาณเรียบร้อยแล้ว

  • เร่งติดตั้งระบบช่องตรวจหนังสือเดินทางอัตโนมัติ Automatic Channels เพื่อสนับสนุนงานตรวจคนเข้าเมืองที่สนามบินสุวรรณภูมิ และสนามบินดอนเมือง

เครื่องเดิมของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองมีอายุกว่า 10 ปี และมีจำนวนน้อย ไม่เพียงพอต่อการเพิ่มขึ้นของผู้โดยสารระหว่างประเทศ โดยคาดว่าจะช่วยระบายความหนาแน่นของผู้โดยสารระหว่างประเทศได้คล่องตัวยิ่งขึ้น สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับประเทศ

สนามบินสุวรรณภูมิ

  • เพิ่มทางวิ่งเส้นที่ 3 หรือ 3rd Runway ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ  

เพื่อรองรับเที่ยวบินเพิ่มจาก 64 เที่ยวบิน เป็น 94 เที่ยวบินต่อชั่วโมง นอกจากนั้น จะมีการปรับปรุงหลุมจอดที่สนามบินดอนเมือง  โดยอยู่ระหว่างการออกแบบและขออนุญาต โดยจะอนุมัติได้ในเดือนธันวาคม 2567 นี้ และจะเริ่มก่อสร้างช่วงเดือนกรกฎาคม 2568 - ธันวาคม 2573

  • จัดทำ Application “SAWASDEE” บนสมาร์ทโฟน เพื่อรองรับการบริการผู้ใช้บริการสนามบิน

โดยจะมี 10 ฟังก์ชัน มีทั้งการค้า (Commercial) หรือ AOT Point และฟังก์ชันการบริการ อีก 9 รายการ เช่น ด้าน Check-in, Flight & Baggage, Map & Navigation, Transportation, Airport Service, Shopping, Check Flight & Alert, Help Desk เป็นต้น โดยกำลังพัฒนาฟังก์ชันเกี่ยวกับ Customer Feedback และ Contact Us รวมถึง Queue Time และ Taxi Reservation มาใช้ด้วย รวมถึงยังพัฒนาระบบ Common Use Passenger Processing System หรือ CUPPS มาใช้รองรับการบริการที่สนามบินทั้ง 6 แห่งของ AOT ด้วย

นอกจากนั้นในเรื่องของการสร้างผลกำไรในฐานะบริษัทมหาชน ก็ให้ความสำคัญกับการสร้างการตลาด เชิงรุกทางการบิน ทั้งการสร้างโอกาสแก่สายการบิน ทั้งการวิเคราะห์ตลาด การเงิน และเส้นทางการบิน รวมถึงให้ความสำคัญกับการบริหารพื้นที่เชิงพาณิชย์ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด

อีกทั้งในอนาคตจะมีสนามบินภูมิภาคโอนจากกรมท่าอากาศยานมาอยู่ในการบริหารของ AOT คือ ท่าอากาศยานบุรีรัมย์ ท่าอากาศยานอุดรธานี และท่าอากาศยานกระบี่ ซึ่งจะต้องมีการร่วมหารือกับทุกฝ่ายทั้งจากส่วนกลางและภูมิภาค เพื่อยกระดับความสามารถของสนามบินทั้ง 3 แห่ง ให้เป็นประตูบานใหม่ของประเทศที่พร้อมเปิดรับนักท่องเที่ยวจากทุกมุมโลกให้เข้ามาสร้างรายได้ให้กับพื้นที่ภูมิภาคดังกล่าวตามนโยบายรัฐบาลอีกด้วย

“เราคาดหวังให้สนามบินของเราเป็น Logistic Hub เป็น Cross Border E-Commerce ด้านการขนส่ง  ทางอากาศของภูมิภาคที่ได้รับการยอมรับ ซึ่งจะต้องคำนึงถึงปัจจัยการขับเคลื่อนทั้งระบบ ไม่ว่าจะเป็นระบบขนส่งสาธารณะ การบริหารพื้นที่อาคาร การพัฒนาระบบบริการโรงซ่อมขนาดเบาอากาศยาน เป็นต้น ที่สำคัญคือ การพัฒนาต้องอยู่บนพื้นฐานความเข้าใจ ทั้งคู่ค้า ลูกค้า และคู่แข่ง เพื่อวางกลยุทธ์ให้บรรลุผลสัมฤทธิ์สูงสุด” พล.ต.อ.วิสนุกล่าวทิ้งท้าย