จับตาบอร์ด "เงินดิจิทัลวอลเล็ต” วันนี้ ชำแหละ พรบ.กู้เงิน - ตีความวิกฤต

วันนี้ (16 มกราคม 2567) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ จะเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงินดิจิทัล 10,000 บาทผ่าน Digital Wallet แทน นายเศรษฐา ทวีสินนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ซึ่งติดภารกิจเดินทางเข้าร่วมการประชุม World Economic Forum (WEF) ประจำปี 2567 ณ สมาพันธรัฐสวิส ระหว่างวันที่ 15 -19 มกราคม 2567

แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล ระบุว่า ในการหารือร่วมกันของบอร์ดดิจิทัล ชุดใหญ่ครั้งนี้ ประเด็นหลัก ๆ ที่ประชุมจะหารือถึงรายละเอียดเกี่ยวกับหนังสือตอบกลับความคิดเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เรื่องการออกร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท เพื่อดำเนินโครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท 

ทั้งนี้ที่ประชุมจะมอบหมายให้ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา แจ้งรายละเอียดต่าง ๆ ในข้อกฎหมายให้กับที่ประชุมรับทราบ โดยเฉพาะในประเด็นที่แจ้งเอาไว้ในหนังสือตอบกลับ คือ ต้องเป็นไปตามเงื่อนไขของ พ.ร.บ. วินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ.2561 เช่น ต้องจำเป็นเร่งด่วน เพื่อแก้ปัญหาอย่างต่อเนื่อง แก้ไขวิกฤตของประเทศ หรือต้องเป็นไปตาม มาตรา 53 มาตรา 57 มาตรา 6 มาตรา 7 และมาตรา 9 ของพ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังฯ

เช่นเดียวกับประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการตีความด้านกฎหมาย เรื่องคำว่า “วิกฤติ” และ “จำเป็นเร่งด่วนหรือไม่” โดยจะขอรับฟังความคิดเห็นจากหน่วยงานด้านเศรษฐกิจต่าง ๆ ที่เข้าร่วมประชุม ทั้ง กระทรวงการคลัง สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงบประมาณ และ ธนาคารแห่งประเทศไทย

“ที่ประชุมจะขอฟังความคิดเห็นจากหน่วยงานต่าง ๆ ที่นั่งอยู่ในบอร์ดว่ามีความเห็นอย่างไร ทั้งเรื่องข้อกฎหมาย และการตีความคำว่าวิกฤตหรือไม่ เชื่อว่าการประชุมครั้งนี้น่าจะได้ข้อมูลที่ชัดเจนมากขึ้น” แหล่งข่าว ระบุ

แหล่งข่าว กล่าวด้วยว่า ในการหารือของบอร์ดเงินดิจิทัลชุดใหญ่ครั้งนี้ หากไม่มีข้อสรุปที่แน่ชัดเกี่ยวกับการตีความเรื่องกฎหมาย มีความเป้นไปได้ว่าที่ประชุมอาจจะขอตั้งคณะอนุกรรมการ หรือคณะทำงานขึ้นมาหนึ่งชุดเพื่อไปหาข้อสรุปก็ได้ แต่ทั้งหมดคงต้องรอดูการหารือกันก่อนว่าจะได้ข้อสรุปอย่างไรก่อน

ส่วนไทม์ไลน์ของการผลักดันโครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาทนั้น เบื้องต้นทางฝ่ายรัฐบาลยังยืนยันกำหนดเดิม โดยจะเป็นการออก พ.ร.บ.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท และให้เริ่มต้นโครงการได้ภายในเดือนพฤษภาคม 2567