ด่วน GDP ไตรมาส 3/2566 โตแค่ 1.5% สศช.หั่นเป้าทั้งปีเหลือ 2.5%

20 พ.ย. 2566 | 10:01 น.
อัปเดตล่าสุด :20 พ.ย. 2566 | 14:34 น.
2.7 k

สศช. ประกาศตัวเลข GDP ไทย ไตรมาส 3 ของปี 2566 โตแค่ 1.5% พร้อมปรับประมาณการแนวโน้มเศรษฐกิจไทย ทั้งปี 2566 ใหม่ เหลือโตแค่ 2.5%

วันนี้ (20 พฤศจิกายน 2566) นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยรายงานภาวะเศรษฐกิจไทย ไตรมาส 3 ของปี 2566 และแนวโน้มปี 2566-2567 ว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ซึ่งเป็นตัวเลขจริงทางเศรษฐกิจของไทย ในช่วงไตรมาสที่ 3 ปี 2566 ขยายตัว 1.5% ลดลงจากไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งขยายตัวอยู่ที่ 1.8%

ทั้งนี้เป็นผลมาจากการส่งออกสินค้าหดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 โดยติดลบ 3.1% ทำให้สาขาอุตสาหกรรมติดลบไปด้วย 4% ขณะที่การบริโภคภาครัฐบาล ติดลบ 4.9% เป็นผลจากการโอนเพื่อสวัสดิการสังคมที่ไม่เป็นตัวเงินสำหรับสินค้าและบริการในระบบตลาดลดลง 38.6% และรายจ่ายค่าซื้อสินค้าและบริการขยายตัว 0.5% ส่งผลให้ในช่วง 9 เดือน (มกราคม - กันยายน 2566) เศรษฐกิจไทยขยายตัว อยู่ที่ 1.9% 

 

ด่วน GDP ไตรมาส 3/2566 โตแค่ 1.5% สศช.หั่นเป้าทั้งปีเหลือ 2.5%

 

ส่วนแนวโน้มปี 2566 สศช.ได้ปรับประมาณการใหม่ จากเดิมประเมินว่า เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้อยู่ในกรอบ 2.5-3% เป็นขยายตัว 2.5% ซึ่งเป็นกรอบล่างของการประมาณการครั้งก่อน โดยประเมินว่าการลงทุนภาครัฐหดตัวไปถึง 1.8% เพราะติดปัญหาเรื่องของงบประมาณแผ่นดิน โดยเฉพาะงบประมาณปี 2567 ยังไม่สามารถใช้ได้

ขณะที่ในปี 2567 คาดว่า เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้ในระดับ 2.7-3.7% โดยมีค่ากลางอยู่ที่ 3.2%

 

ด่วน GDP ไตรมาส 3/2566 โตแค่ 1.5% สศช.หั่นเป้าทั้งปีเหลือ 2.5%

สำหรับเศรษฐกิจไทยไตรมาสที่ 3 ปี 2566 ขยายตัว 1.5% มีรายละเอียด ดังนี้

ด้านการใช้จ่าย 

การอุปโภคบริโภคภาคเอกชน : ขยายตัวในเกณฑ์สูงต่อเนื่อง 8.1% เร่งขึ้นจาก 7.8% ในไตรมาสก่อนหน้า และเป็นการขยายตัวสูงสุดในรอบ 4 ไตรมาส ตามการขยายตัวดีขึ้นของการใช้จ่ายในเกือบทุกหมวด สอดคล้องกับการปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องของการจ้างงานและความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่เพิ่มสูงขึ้น

การลงทุนรวม : ขยายตัว 1.5% เร่งขึ้นจาก 0.4% ในไตรมาสก่อนหน้า ตามการเร่งขึ้นของการลงทุนภาคเอกชน 3.1% เทียบกับการขยายตัว 1.0% ในไตรมาสก่อนหน้า ขณะที่การลงทุนภาครัฐลดลง 2.6% เทียบกับการลดลง 1.1% ในไตรมาสก่อนหน้า ตามการลดลงของการลงทุนรัฐบาลกลางและรัฐบาลท้องถิ่น และการลงทุนรัฐวิสาหกิจ

ด้านการค้าระหว่างประเทศ

การส่งออกสินค้า : มีมูลค่า 70,405 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลง 2.0% เทียบกับการลดลง 5.6% ในไตรมาสก่อนหน้า โดยปริมาณส่งออกลดลง 3.1% ขณะที่ราคาส่งออกเพิ่มขึ้น 1.1%

การนำเข้าสินค้า : มีมูลค่า 65,012 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลง 10.7% ต่อเนื่องจากการลดลง 5.0% ในไตรมาสก่อนหน้า สอดคล้องกับการลดลงของการผลิตสาขาอุตสาหกรรมและการส่งออก โดยปริมาณและราคานำเข้าลดลง 10.4% และ 0.3% ตามลำดับ ส่งผลให้ดุลการค้าเกินดุล 5,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1.91 แสนล้านบาท

ด้านการผลิต

สาขาเกษตรกรรม การป่าไม้ และการประมง : ขยายตัว 0.9% ชะลอลงจาก 1.2% ในไตรมาสก่อนหน้า ตามการลดลงของผลผลิตหมวดพืชผลสำคัญ โดยเฉพาะปาล์มน้ำมัน มันสำปะหลัง ข้าวเปลือก และ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์

สาขาการผลิตสินค้าอุตสาหกรรม : ลดลงต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 4 อยู่ที่ 4.0% ต่อเนื่องจาก 3.2% ในไตรมาสก่อนหน้า ส่วนหนึ่งเป็นผลจากฐานที่สูงในช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเป็นการลดลงของทุกกลุ่มการผลิต โดยเฉพาะกลุ่มการผลิตเพื่อส่งออกที่ได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าสำคัญ 

สาขาที่พักแรมและบริการด้านอาหาร : ขยายตัวในเกณฑ์สูง 14.9% ต่อเนื่องจาก 15.1% ในไตรมาสก่อนหน้า โดยมีนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยประมาณ 7.1 ล้านคน

สาขาการขายส่งและการขายปลีก การซ่อมยานยนต์และจักรยานยนต์ : เพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 10 อยู่ที่ 3.3% ต่อเนื่องจาก 3.4% ในไตรมาสก่อนหน้า ตามการขยายตัวในเกณฑ์ดีของการใช้จ่ายภาคครัวเรือนและภาคบริการด้านการท่องเที่ยว

สาขาการขนส่งและสถานที่เก็บสินค้า : เพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 8 อยู่ที่ 6.8% แต่ชะลอลงเมื่อเทียบกับการขยายตัว 7.4% ในไตรมาสก่อนหน้า

 

ด่วน GDP ไตรมาส 3/2566 โตแค่ 1.5% สศช.หั่นเป้าทั้งปีเหลือ 2.5%

 

เสถียรภาพทางเศรษฐกิจ 

  • อัตราการว่างงานอยู่ที่ 0.99% ต่ำสุดในรอบ 15 ไตรมาส และต่ำกว่า 1.06% ในไตรมาสก่อนหน้า และ 1.23% ในไตรมาสเดียวกันของปีก่อน 
  • อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเฉลี่ยอยู่ที่ 0.5% และอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานเฉลี่ยอยู่ที่ 0.8% 
  • ดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุล 3,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 1.18 แสนล้านบาท 
  • เงินทุนสำรองระหว่างประเทศ ณ สิ้นเดือนกันยายน 2566 อยู่ที่ 2.1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ
  • หนี้สาธารณะ ณ สิ้นเดือนกันยายน 2566 มีมูลค่าทั้งสิ้น 11,131,634.20 ล้านบาท คิดเป็น 62.1% ของ GDP

 

ด่วน GDP ไตรมาส 3/2566 โตแค่ 1.5% สศช.หั่นเป้าทั้งปีเหลือ 2.5%