นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้ชี้แจงในก่ารแถลงนโยบายของรัฐบาลที่รัฐสภาวแป็นวันที่2 ตามที่สส.พรรคก้าวไกลอภิปรายว่า มี2 ประเด็นที่จะชี้แจง คือเรื่องการส่งออกและนโยบายข้าวโพดสัตว์เลี้ยงที่สร้างมลพิษฝุ่นPM2.5 กับแนวทางการดำเนินการอย่างไร นั้น ในส่วนของการส่งออกในปี้นั้นต้องยอมรับว่าส่งออกไทย7เดือน ของปี 2566 (ม.ค.-ก.ค.) มีมูลค่า 163,313.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลด 5.5% คิดเป็นเงินบาท มูลค่า 5,554,796.3 ล้านบาท
ในขณะที่ปี2565 มูลค่าการส่งออกไทยอยู่ที่5.7ล้านล้านบาท ซึ่งสูงกว่าปีนี้ 3.79% แต่การที่ส่งอออกไทยตกต่ำ อาจจะเป็นการวิเคราะห์ที่คลาดเคลื่อน ข้อมูลต่างๆมีการเปลี่ยนแปลงซึ่งถ้าเทียบกับความเป็นจริงปี2564และปี2565
เป็นช่วงที่ทุกประเทศประสบปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด ทำให้การค้าขายระหว่างกันหยุดชะงัก แต่หลังจากที่สถานการณ์โควิดคลี่คลายความต้องการบริโภคสูงขึ้น มีการส่งออกที่เพิ่มขึ้นเพราะเกิดจากหลายประเทศมีความกังวลจึงเกิดดารสั่งสินค้าเพื่อสต็อกสินค้าไว้3-4เดือน ทำให้ปี2565การส่งออกไทยมีมูลค่าที่สูงขึ้นกว่าปีนี้ถ้าเทียบช่วงเดียวกัน
“เราควรเอาสภาพความเป็นจริงมาวิเคราะห์ ก่อนโควิดคือปี62 มูลค่าการส่งออกไทย7เดือนอยู่ที่ 4.5ล้านล้านบาท ดังนั้นเราต้องเทียบกับปีนี้ และเชื่อว่าในไตรมาส3ปีนี้ จะส่งออกได้สูงกว่าปี62 ถึง25% แต่อย่างไรก็ตามกระทรวงพาณิชย์จะพยายามให้มากที่สุดในเดือนที่เหลือแม้ว่าทั้งปีจะติดลบ1-2% แต่ก็ถือว่าสูงกว่าปี62 ถึง25%ก่อนช่วงระบาดของโควิด”
ส่วนประเด็นที่สองคือการปลูกข้าวโพดสัตว์เลี้ยงและการเผาซังข้าวโพดของเกษตรกรนั้น จจส่งผลกระทบถึงปัญหาฝุ่นละอองอย่างPM2.5 ซึ่งถือว่าเป็นปัญหาใหญ่ระดับชาติที่ต้องเร่งแก้ไข เพราะส่งผลต่อสุขภาพของประชาชนในพื้นที่ การส่งออก และภาคการท่องเที่ยว โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือ แต่ปัญหาการปลูกข้าวโพดสัตว์เลี้ยงของเกษตรกรส่วนหนึ่งมาจากการปลูกข้าวดพดของประเทศเพื่อนบ้าน ที่เมื่อมีการเก็บเกี่ยวแล้วจะมีการเผาซังข้าวโพดเพื่อเตรียมการปลูกรอบถัดไป
ดังนั้นฝุ่นละอองจากการเผาจึงลอยข้ามมาฝั่งไทยซึ่งเป็นวัฒนธรรมการทำเกษตรกรรรมของเกษตรกร แต่ในส่วนของไทยเองยังไม่มีกฎหมายห้ามการเผาซังข้าวโพดอย่างจริงจัง มีเพียงขอความร่วมมือในการเผาเท่านั้น ซึ่งหลังจากนี้คงต้องมีการหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป