"สุรินทร์" อภิปราย "เศรษฐา" กระทบชิ่ง ทอท. ปมสัมปทานระบบเช็คอินผู้โดยสาร

พลตำรวจตรี สุรินทร์ ปาลาเร่ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดสงขลา พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายนโยบายรัฐบาลเมื่อวันที่ 11 ก.ย. 66 ตอนหนึ่งว่า ข้อหนึ่งที่เห็นถึงความสำคัญที่เลือกนายเศรษฐา ก็คือท่านจะแก้วิกฤตชาติแต่พอมาดูแล้วมันไม่ใช่เรื่องจริงๆ ขณะนี้ปัญหาเกิดขึ้นปัญหาคอร์รัปชัน ทุกองค์กรคอร์รัปชันเกือบหมดงบประมาณแผ่นดิน 3 จุด 1 ล้านล้านงบลงทุนอีก 20% หายไปจากการคอร์รัปชัน การฮั้วประมูล เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่าง ๆ ใช้ความรุนแรง

การเกิดเหตุในระเบิดที่มูโน๊ะเพราะเรื่องส่วย แล้วเกิดเรื่องที่นครปฐม 2 วันนี้ท่านไปเช็กดูว่าเรื่องอะไร มันมาจากเรื่องคอร์รัปชันทั้งนั้นแต่ในนโยบายของท่านเศรษฐา นโยบายของนายกไม่มีแก้ปัญหาเรื่องนี้น้อยมากให้ความสำคัญน้อยมากตั้งแต่หน้า 1 ถึง 43 พูดอยู่นิดเดียวว่าการทำงานร่วมกันของประชาชนในการป้องกัน และขจัดการทุจริตที่ประชาชนมีส่วนร่วมมีอยู่แค่นี้ ตนเป็นห่วงเพราะว่าหลาย ๆ อย่าง โดยเฉพาะในเรื่องสัญญาที่ไม่เป็นธรรม สภาพชาวบ้านตอนนี้คนรวยก็ยิ่งรวยขึ้นคนจนยิ่งจนลงคนชั้นกลางจะหายไป

เมื่อก่อนนี้จะชี้ให้เห็นเลย ไฟฟ้าค่าเช่าบ้านนี้จะมีอยู่ถ้าค่าเช่าบ้าน 1,000 บาทค่าไฟฟ้าประมาณ 150-200 บาทถ้าค่าบ้าน 2,000 ค่าไฟฟ้าก็ประมาณ 300 บาทหรือ 400 บาท แต่ปัจจุบันนี้ค่าเช่าบ้านกับค่าไฟฟ้าเท่ากัน ค่าไฟฟ้านี่แพงมากเพราะว่าโครงสร้างในตรงนี้กล้ากินเปล่าไฟฟ้าแล้วก็สัญญาแต่ละสัญญาที่รัฐไปทำไว้ขอยากมากไม่เปิดเผยให้ประชาชนเลยที่ตรงนี้ตนเป็นห่วงนายกรัฐมนตรีว่าจะอยู่ไม่นานถ้าไม่ให้ความสำคัญเรื่องนี้

"ก่อนหน้านี้คิดว่าท่านนายกรัฐมนตรีก็คิดว่าจะเอาท่านตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์มาเป็นรองนายกรัฐมนตรีแล้วก็มาคุมในเรื่องของการคอร์รัปชัน เรื่องทุจริตต่อหน้าที่แต่ปรากฏ ไม่มีแล้วจะไปหาคนที่มีลักษณะแบบนี้คนที่กล้าต่อสู้คนดีคนเก่ง และมือสะอาด ที่จริงจะนำท่านเสรีมาปกป้องท่าน "พล.ต.ต.สุรินทร์ กล่าว

 

จากนั้น นายสุรินทร์ ได้อภิปรายยกตัวอย่างเรื่องสัมปทานภาครัฐที่การท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย(ทอท.) ไปทำสัญญาร่วมกับบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง เป็นเรื่องที่เสียหายเป็นอย่างมาก ไปทำสัญญาสรุปตั๋วผู้โดยสาร 1 ใบจ่าย 65 บาท 2 ระบบคัดกรองผู้โดยสาร 35 บาท 2 เช็กอินผู้โดยสาร 30 บาท

ค่าตั๋วเครื่องบิน 1 ใบหัก 35 บาท บริษัท ท่าอากาศยานไทยฯ ได้ 4.50 บาท บริษัทเอกชนได้ 30.5 บาท  สัญญาจ้างเหมายาว 5 ปี บริษัท ท่าอากาศยานไทยฯ ได้ 2,700 ล้าน บริษัทเอกชนได้ 16,000 ล้านบาท 

แล้วก็มาดูในเรื่องการลงทะเบียนเช็กอิน ตั๋วเครื่องบิน 1 ใบเก็บ 30 บาท บริษัท ท่าอากาศยานไทยฯ ได้ 10 บาท บริษัทเอกชนได้ 20 บาท สัญญาจ้างเหมายาว 10 ปี บริษัท ท่าอากาศยานไทยฯ  รวม 10 ปีแล้ว ได้ 3,700 พันล้านบาท บริษัทเอกชนได้ 16,000 ล้านบาท  ทำประกันรายได้ให้เอกชนที่ 14,000 บาท 90% 

โดยสรุปว่า การท่าฯ ในเงินทั้งหมด 65 ล้านบาท การท่าฯ ได้ 14.5 ล้านบาท แล้วก็บริษัทได้ 50.5 ล้านบาท รวมสัญญาจ้างเอกชนได้แน่ ๆ 30,000 ล้านบาท การท่าฯ ได้ 5 พันล้าน ในการประกันรายได้ถ้าไม่ครบการท่าฯ ต้องจ่าย 

ก็อยากจะชี้ให้เห็นเลยว่าสัญญานี้เป็นตัวอย่างสรุปประเด็นสำคัญของการท่าฯ เจาะจงเพื่อเอกชนค้ำประกันรายได้ 90% ระบบเช็คอินผู้โดยสารทำประกันรายได้ให้เอกชน 90% ด้วยจำนวนเงิน 14,000 ล้านบาท หากสนามบินปิดหรือผู้โดยสารไม่ได้ตามเป้าบริษัทการท่าฯ เจ๊งอย่างเดียวเพราะครบสัญญาต้องจ่ายค่าโง่ ล็อกสเปคทำราคากลางกำหนดสัดส่วนรายได้ที่ไม่เป็นธรรมเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มบริษัทเอกชนได้สัดส่วนผลประโยชน์อย่างมหาศาล ใช้ Software จ้างเจาะจงวางแผนกินรวบผูกขาดทุกสนามบิน เพราะทุกสนามบินต้องใช้ซอฟต์แวร์บริหารจัดการในสนามบินได้เพียงยี่ห้อเดียว 

นำบริษัทในซุ้มมาเป็นตัวแทนบริษัทที่ขายผลิตผ่านซอฟต์แวร์ระบบสำหรับบริหารจัดการทรัพยากรในสนามบินปิดทางไม่ให้บริษัทอื่นเข้าแข่งขันไม่ให้มีการสืบราคา ใช้วิธีการสืบราคากลางจากการเก็บค่าตั๋วผู้โดยสารในต่างประเทศไม่ได้มีการระบุค่าใช้จ่ายแต่ละระบบ ปล่อยให้เด็กบริษัทเอกชนเป็นผู้กำหนดราคาทั้งหมดถ้ามีจริงทำไมในลักษณะดังนี้นอนกินไม่มีทางขาดทุนแล้วก็ตั้งสูงมาก ตั้งยอดไว้สูงมากถ้าไม่ได้ตามนั้นก็จบเลย  

สส.ประชาธิปัตย์ กล่าวอีกว่า สนามบินสุวรรณภูมิในปี 2564  32 ล้านบาท 2565 จำนวน 35 ล้านบาท 2566 จำนวน 55 ล้านบาท ตั้งไว้สูงมาก แล้วก็ยังมีอีกอย่างหนึ่งเป็นการประกันเงินกู้ 5 สนามบิน หมายถึงว่า สนามบินท่าอากาศยานหาดใหญ่ ท่าอากาศยานภูเก็ตท่าอากาศยานเชียงใหม่ ท่าอากาศยานเชียงราย แล้วก็ดอนเมือง ต้องประกันเงินกู้ที่ 12,000 ล้านบาท

"อยากจะให้นายกรัฐมนตรีมารื้อให้หมด นายกต้องทำ ถ้านายกไม่ทำ ม.157 ไม่อยากให้คนดี ๆ อย่างท่านนายกรัฐมนตรีต้องมาโดน ม.157 เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ ตั้งคณะกรรมการสอบสวนขึ้นมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งก็ฝากไปถึง ป.ป.ช. เชื่อมั่นใน พลตำรวจเอกวัชรพล ประสานราชกิจ ว่าท่านเป็นคนตรงจริง ๆ" 

นายสุรินทร์ กล่าวด้วยว่า แล้วก็หน่วยงานที่ เกี่ยวข้องกับการปราบคอร์รัปชันไม่ว่าจะเป็น ป.ป.ช. ก็ดี ป.ป.ท. ก็ดี ตรวจเงินแผ่นดินก็ดีทั้งหมดนี้มีข้อจำกัดเพราะงบประมาณต้องเอาจากรัฐบาล รัฐบาลให้ทำแค่ไหนก็ได้ที่สำคัญที่สุดถ้าท่านมีความจริงใจที่จะยกโครงสร้างยกโครงสร้างของสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่เกี่ยวข้องกับการปราบยาเสพติดระดับกองบังคับการให้เทียบเท่าตำรวจคือพลตำรวจเอกเรื่องนี้ตนเป็นห่วงนายกฯ เพราะว่าถ้าเรื่องนี้ถ้านายกไม่จัดการแล้วก็ยังเรื่องสัญญาที่ไม่เป็นธรรมถ้านายกฯ ไม่จัดการนายกจะโดน ม.157 ผมไม่อยากให้นายกไปอยู่เมืองนอกนาน ๆ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบข้อมูลจากการท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย(ทอท.) พบว่าเคยมีการชี้แจงประเด็นดังกล่าวไว้ก่อนหน้านี้แล้วเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2566 ว่าได้ดำเนินการด้วยความโปร่งใส