อุตสาหกรรมเสริมอาหารมีอัตราเติบโตอย่างมากในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมาจากผู้บริโภคทั่วโลกที่หันมาให้ความสำคัญกับสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีมากขึ้น ซึ่งนอกจากการใส่ใจด้านการบริโภคอาหารที่เป็นประโยชน์แล้วยังมองหาผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีคุณภาพเข้ามาเป็นอีกองค์ประกอบหนึ่งในการบำรุงรักษาร่างกาย หรือแม้กระทั่งในการต่อสู้กับบางโรคที่อยู่ในช่วงอาการเริ่มต้น
ทั้งนี้ ด้วยองค์ประกอบของอุตสาหกรรมเสริมอาหารในตลาดเอเชียที่กำลังขยายตัว และความตั้งใจในการผลักดันโอกาสทางธุรกิจของผู้ประกอบการธุรกิจในไทยให้เกิดขึ้น จึงเป็นที่มาของการจัดงาน “ไวต้าฟู้ด เอเชีย 2023” (Vitafoods Asia 2023) งานแสดงสินค้า เทคโนโลยี และนวัตกรรมส่วนผสมสำหรับผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร และผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพอันดับหนึ่งในภูมิภาคเอเชีย
“ไวต้าฟู้ด เอเชีย 2023” (Vitafoods Asia 2023) นับเป็นโอกาสครั้งสำคัญที่ไม่ควรพลาดสำหรับผู้ประกอบการในการเชื่อมต่อกับผู้ซื้อกับผู้ผลิต และขยายเครือข่ายทางธุรกิจระหว่างประเทศ ซึ่งจะนำไปสู่โอกาสทางการตลาดที่ใหญ่ขึ้นในระดับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
นอกจากนี้ ยังมีส่วนของพาวิลเลี่ยนนานาชาติ ไม่ว่าจะเป็น เบลเยี่ยม จีน ญี่ปุ่น เกาหลี โปแลนด์ สเปน ไต้หวัน และสหรัฐอเมริกา ที่จะมาจัดแสดงผลิตภัณฑ์และส่วนผสมเสริมอาหาร อาหารและเครื่องดื่มฟังก์ชันจากทั่วโลกพร้อมด้วยศูนย์นวัตกรรมสุขภาพ “Innovative Health Hub” โดยในงานนี้จะเป็นการค้นพบเทรนด์สุขภาพและโภชนาการครั้งสำคัญของเอเชีย ซึ่งเป็นข้อมูลเชิงลึกด้านการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม และการรับฟังเสวนาในหัวข้อที่น่าสนใจเกี่ยวกับเทรนด์อุตสาหกรรมในอนาคตจากผู้เชี่ยวชาญด้านเสริมอาหารและผู้นำด้านธุรกิจตัวจริงในโซน ‘Main Stage’ และ ‘NutraFocus’
“ไวต้าฟู้ด เอเชีย 2023 เป็นงานเดียวที่เพิ่มมูลค่าให้กับผู้มาเยี่ยมชมได้เรียนรู้ และเข้าถึงห่วงโซ่อุปทานด้านโภชนาการทั้งหมดตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ พร้อมต้อนรับคนในอุตสาหกรรมจากทั่วทั้งเอเซีย ได้แก่ มาเลเซีย อินโดนีเซีย เวียดนาม จีน สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ อินเดีย ญี่ปุ่น กัมพูชา และไทย ให้ได้เข้ามาเจรจาทางธุรกิจ พร้อมทั้งเข้าถึงนวัตกรรมที่ทันสมัย เรียนรู้เกี่ยวกับแนวโน้มของตลาด รวมถึงส่วนผสมใหม่สำหรับผลิตภัณฑ์ที่จะได้รับความสนใจในอนาคต” นางสาวรุ้งเพชร กล่าว
ทั้งนี้บริษัทฯ มีความมุ่งมั่นในการยกระดับธุรกิจ และเตรียมความพร้อมให้กับธุรกิจเสริมอาหารได้มีการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้ในการดำเนินงานมากขึ้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน คุณภาพของสินค้า และเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการผลิต เพื่อก้าวสู่ตลาดเสริมอาหารระดับโลก รวมทั้งการนำสุขภาพที่ดีสู่ผู้บริโภคในไทย และเอเชีย
สำหรับงานในปีนี้ เป็นการกลับมาพร้อมความยิ่งใหญ่กว่าเดิมด้วยพื้นที่ครอบคลุมกว่า 15,000 ตรม. รองรับเครือข่ายธุรกิจกับผู้ให้นวัตกรรมด้านเสริมอาหารกว่า 460 รายจากทั่วโลก โดยตั้งเป้ายอดผู้เข้าชมงานกว่า 8,000 คน ที่จะสร้างมูลค่าเพิ่มและต่อยอดเป็นเครือข่ายทางธุรกิจได้อีกมากในอนาคต