เปิดอาณาจักร "เจ้าสัวเจริญ" 12 บิ๊กโปรเจ็กต์ใหม่ใจกลางเมืองเชียงใหม่

01 พ.ค. 2566 | 12:43 น.
อัปเดตล่าสุด :01 พ.ค. 2566 | 13:10 น.
14.9 k

เปิดอาณาจักร “เจ้าสัวเจริญ” ผุด 12 บิ๊กโปรเจ็กต์ใจกลางเมืองเชียงใหม่ ดัน AWC พลิกที่ดิน 100 ไร่ตั้งแต่ ถนนช้างคลาน ไนท์บาซาร์ไปจนถึงตลาดอนุสาร เชียงใหม่ ต่อไปถึงริมแม่น้ำปิง สร้างโครงการใหม่ “ลานนาทีค” มีโครงการไหนบ้างเช็คที่นี่

การลงทุนบิ๊กโปรเจ็กต์ของ AWC ธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ กลุ่มทีซีซี (TCC Group) ของเจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี มูลค่ากว่า 1 แสนล้านบาท ในช่วง 5 ปีนี้ ซึ่ง AWC มีแผนจะร่วมกับโกลเบิ้ล พาร์ทเนอร์ ในการสร้าง Attraction ด้านการท่องเที่ยวระดับโลกให้แก่ประเทศไทย ไม่ใช่มีแค่ เอเชีย ทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ กรุงเทพ, ควอทีค พัทยา และ เวิ้งนาครเขษม เท่านั้น

เจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี

ล่าสุด AWC ยังเดินหน้าพัฒนาที่ดินที่มีอยู่แล้วอีกกว่า 100 ไร่ใจกลางเชียงใหม่ เชื่อมโยงการพัฒนาหลายพื้นที่เข้าด้วยกัน หลักๆ จะอยู่ที่ ถนนช้างคลาน ซึ่งเป็นที่ตั้งของ ไนท์บาซาร์ เชียงใหม่ กาแลไนท์บาซาร์ และกำลังพิจารณาว่าจะรวมไปจนถึงตลาดอนุสาร เชียงใหม่ ต่อไปถึงริมแม่นํ้าปิง สร้างอาณาจักร ภายใต้ชื่อโครงการ “ลานนาทีค” (LANNATIQUE) ตามแผนจะแล้วเสร็จในปี 2569

ลานนาทีค เชียงใหม่ จะเป็นแหล่งรวมความพิเศษ เอกลักษณ์ของเชียงใหม่ รวมไปถึง Attraction ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์แบบครบวงจร เพื่อสร้างให้เป็นเดสติเนชั่นท่องเที่ยวระดับโลก

การลงทุนจะแบ่งออกเป็น 4 ระยะที่จะเชื่อมต่อกับโรงแรมเลอ เมอริเดียนเชียงใหม่ ที่กำลังจะรีแบรนด์เป็นโรงแรมแมริออท เชียงใหม่ และโรงแรมมีเลีย เชียงใหม่ที่เปิดให้บริการอยู่แล้ว โดยลานนาทีค เฟสแรกจะเปิดให้บริการในช่วงปลายปี 2566 นี้

ได้แก่ “กาแล เฟส 1” เป็นไลฟ์สไตล์มาร์เก็ตและพื้นที่ค้าปลีก ตามมาด้วย “กาแล เฟส 2” เปิดมี.ค. 2567 เฟส 3 จะเป็น “ไนท์บาซาร์” สร้างจุดขายให้เป็น Traditional Luxury Souvenirs รวมถึงขยายพื้นที่ กาแล เฟส 3 ที่จะมีชั้นรูฟท็อป ด้วย เปิดมี.ค. 2567 และเฟส 4 จะเป็น “ The Plaza” ที่จะเป็นบิวตี้ คลีนิค และโรงแรมในระดับอัพสเกล

โครงการ “ลานนาทีค” (LANNATIQUE) ใจกลางเชียงใหม่

ทั้งนี้หากรวมโครงการ อสังหาฯใจกลางเมืองเชียงใหม่ของ AWC และทีซีซี กรุ๊ป ที่เปิดให้บริการแล้วและอยู่ระหว่างการพัฒนา รวมแล้วอาณาจักรของเจ้าสัวเจริญ จะมีทั้งรวมกว่า 12 โครงการในใจกลางเมืองเชียงใหม่ ได้แก่

  • สุริวงศ์บุ๊คเซนเตอร์, SIEM PAKDEE (ดีไซน์ โฮเทล)
  • พันธุ์ทิพย์ เชียงใหม่ (ปรับโฉมเป็น เดอะพันธุ์ทิพย์ ไลฟ์สไตล์ ฮับ)
  • โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล เชียงใหม่ แม่ปิง (ปรับโฉมจากโรงแรมอิมพีเรียล แม่ปิงเดิม) ที่กำลังจะเปิดให้บริการในปีนี้
  • ตลาดอนุสาร (พัฒนาให้เป็นเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ มาร์เก็ต)
  • บ้านโบราณ เชียงใหม่ (พัฒนาเป็น ลักซัวรี่ บูทีค โฮเทล)
  • BAAN K SIRIN (พัฒนาเป็นเวลเนส โฮเทล)
  •  โรงแรมมีเลีย เชียงใหม่
  •  กาแล เชียงใหม่
  •  ไนท์บาซาร์
  •  เดอะพลาซ่า
  • โรงแรมแมริออท เชียงใหม่

นางวัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิร์ด คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC เปิดเผยถึงแนวคิดในการพัฒนาอสังหาฯของ AWC ว่า ไทยมีจุดแข็งเรื่องของการท่องเที่ยว กลยุทธ์การ พัฒนาอสังหาฯของ AWC จึง เน้นมุมมองการลงทุนที่ตอบสนองไลฟ์ไตล์แบบครบวงจร เพื่อตอบโจทย์กลุ่มกำลังซื้อสูงและกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีดีมานด์ จากทั่วโลกเดินทางมาเที่ยวไทย

วัลลภา ไตรโสรัส

 

ดังนั้นการลงทุนของ  AWC จึงเน้นพัฒนาโครงการในแบบลักชัวรี การลงทุนที่สร้างคุณภาพชีวิตที่ดี ให้ทั้งสภาพแวดล้อม คนในชุมชน และเศรษฐกิจที่ดีขึ้น และเน้นการสร้าง International Attraction หรือแหล่งท่องเที่ยวระดับโลก โดยธีมในการพัฒนาก็จะเป็นคนละคอนเซ็ปต์ เราโฟกัสที่ดึงเอกลักษณ์หรือสร้างจุดขายใหม่ เพื่อสร้างให้เกิดเดสติเนชั่น ของนักท่องเที่ยว

ไม่ว่าจะเป็น ลานนา ทีค เราจะปั้นให้เชียงใหม่เป็นไลฟ์สไตล์ฮับ แหล่งรวมศิลปะวัฒนธรรม งานอาร์ตแอนด์ คราฟท์ในภาคเหนือ สร้างให้เป็นเดสติเนชั่นท่องเที่ยวระดับโลก โครงการ อควอทีค พัทยา ก็จะสร้างให้พัทยาสู่เมืองท่องเที่ยวริมทะเลระดับโลก

อควอทีค พัทยา

ส่วนโครงการ เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ กรุงเทพฯ จะเน้นพัฒนาให้เป็นรีเทล-เทนเม้นท์ เดสติเนชั่นริมแม่นํ้าที่ใหญ่ที่สุด

ตึก 100 ชั้น เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ กรุงเทพฯ

ขณะที่เวิ้งนครเขษม ก็จะดึง เสน่ห์ไชน่าทาวน์พัฒนาให้เป็นเส้นทางมรดกทางประวัติศาสตร์และถนนแห่งความบันเทิง ดึงคุณค่าจากอดีตไปสู่ไลฟ์สไตล์ในอนาคต สร้างให้เป็นจุดหมายปลายทางที่ตอบโจทย์นักท่องเที่ยวนั่นเอง

เวิ้งนครเขษม