ลงทะเบียนรับเมล็ดพันธุ์ข้าว"วันพืชมงคล"ต้องทำอย่างไร?

27 เม.ย. 2566 | 02:00 น.

ลงทะเบียนรับเมล็ดพันธุ์ข้าว "งานพระราชพิธีพืชมงคล" ช่องทางไหนบ้าง วิธีลงทะเบียนต้องทำอย่างไร และช่องทางรับเม็ดพันธุ์ข้าวต้องรับที่ไหน พันธุ์ข้าวชนิดไหนบ้าง เช็คเลย

 “วันพืชมงคล 2566” ตรงกับวันพุธที่ 17 พ.ค. 2566 แรม 13 ค่ำ เดือนหก(6) ปีเถาะ ถือเป็นวันหยุดราชการ สำหรับปีนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์  มีการกำหนดวันพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ ประจำปี 2566 โดยได้กำหนดให้วันอังคารที่ 16 พ.ค. 2566 เป็นวันสวดมนต์การพระราชพิธีพืชมงคล และวันพุธที่ 17 พ.ค. 2566 เป็นวันพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ และมาลุ้นกันว่า ปีนี้ พระโคเสี่ยงทาย จะเลือกกินอะไร 

ลงทะเบียนรับเมล็ดพันธุ์ข้าว\"วันพืชมงคล\"ต้องทำอย่างไร?

แน่นอนว่า "วันพืชมงคล 2566" สิ่งที่ประชาชนรอคอยคือการเก็บเมล็ดพันธุ์ข้าวที่โปรยในพื้นที่ท้องสนามหลวง แต่เพื่อไม่เป็นการเบียดเสียดกัน และบางคนไม่ได้เมล็ดพันธุ์ข้าวเพื่อนำไปเป็นพ่อพันธุ์แม่พันธุ์

ดังนั้น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ฯ ขอเชิญลงทะเบียนรับเมล็ดพันธุ์ข้าวงานพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ ประจำปี 2566 โดยลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันนี้ ถึง วันที่ 3 พฤษภาคม 2566 ได้ทางเว็บไซต์ https://rice.moac.go.th/

ลงทะเบียนรับเมล็ดพันธุ์ข้าว\"วันพืชมงคล\"ต้องทำอย่างไร?

โดยผู้ที่ลงทะเบียนรับเมล็ดพันธุ์ข้าวพระราชทานสามารถรับได้ตั้งแต่วันที่ 18 พฤษภาคม - 16 มิถุนายน 2566ณ จุดให้บริการ ที่ท่านได้ลงทะเบียนไว้ ดังนี้กรุงเทพมหานคร รับได้ที่

  1.  อาคารที่ทำการกรมการข้าว ชั้น 1 อยู่ในบริเวณภายในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน เขตจตุจักร กรุงเทพฯ โทรศัพท์ 0 2561 3794
  2. ต่างจังหวัด รับได้ที่ สำนักงานเกษตรจังหวัด กรมส่งเสริมการเกษตร

ข้อมูลสำหรับยืนยันตัวตนให้ถูกต้อง หากผิดเกิน 10 ครั้ง จะไม่สามารถบันทึกข้อมูลได้ (กรณีถูกล็อคสามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ให้ปลดล็อคได้)

  • ชื่อภาษาไทย (ไม่ต้องระบุคำนำหน้าชื่อ)
  • นามสกุลภาษาไทย
  • เลขประจำตัวประชาชน
  • รหัสหลังบัตรประจำตัวประชาชน (ไม่ต้องใส่เครื่องหมายขีด)
  • วันเดือนปีเกิดที่ปรากฎในบัตรประชาชน

โดยเมล็ดพันธุ์ข้าวพระราชทานมีทั้งหมด 6 พันธุ์ จำนวน 2,244 กิโลกรัม นำเข้าพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 16-17 พ.ค. 66 และนำไปบรรจุซองพลาสติก จำนวน 400,000 ซอง เพื่อแจกจ่ายให้ผู้สนใจและชาวนาทั่วประเทศ รับไปเป็นมิ่งขวัญและสิริมงคลประกอบด้วย

  1. ข้าวดอกมะลิ 105 เป็นข้าวเจ้าที่ทนแล้งได้ดีพอสมควร เมล็ดข้าวสารใส แกร่ง คุณภาพการสีดี คุณภาพการหุงต้มดี อ่อนนุ่ม มีกลิ่นหอม ทนต่อสภาพดินเปรี้ยวและดินเค็ม จำนวน 539 กิโลกรัม บรรจุ 80,000 ซอง
  2.  ข้าวปทุมธานี 1 เป็นข้าวเจ้าผลผลิตสูง คุณภาพเมล็ดคล้ายพันธุ์ขาวดอกมะลิ 105 ต้านทานเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลและเพลี้ยกระโดดหลังขาว ต้านทานโรคไหม้และโรคขอบใบแห้ง จำนวน 325 กิโลกรัม บรรจุ 60,700 ซอง
  3. ข้าวกข43 เป็นข้าวเจ้าไม่ไวต่อช่วงแสง คุณภาพของเมล็ดทางการหุงต้มรับประทานดี ข้าวสุกนุ่ม มีกลิ่นหอมอ่อน ค่อนข้างต้านทานต่อโรคไหม้และเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล จำนวน 386 กิโลกรัม บรรจุ 72,500 ซอง
  4.  ข้าวกข85 เป็นข้าวเจ้าพื้นแข็ง เป็นข้าวเจ้าไม่ไวต่อช่วงแสง ปลูกได้ทั้งนาปี และนาปรัง ทนต่อสภาพอากาศเย็น คุณภาพการสีดีมาก ท้องไข่น้อย ให้ผลผลิตสูงถึง 862 กิโลกรัมต่อไร่ จำนวน 521 กิโลกรัม บรรจุ 98,600 ซอง
  5. ข้าวกข87 เป็นพันธุ์ข้าวประเภทพื้นนุ่ม ลักษณะเด่นพิเศษ ข้าวสุกนุ่ม ค่อนข้างเหนียว คุณภาพเมล็ดทางกายภาพดี ท้องไข่น้อย คุณภาพการสีดีมาก เหมาะสำหรับปลูกในพื้นที่นาชลประทานภาคกลางและภาคเหนือตอนล่าง จำนวน 400 กิโลกรัม บรรจุ 75,300 ซอง
  6.  ข้าวกข6 เป็นข้าวเหนียวให้ผลผลิตสูงและทนแล้งดีกว่าพันธุ์เหนียวสันป่าตอง คุณภาพการหุงต้มดีมีกลิ่นหอม คุณภาพการสีดี ต้านทานโรคใบจุดสีน้ำตาล จำนวน 73 กิโลกรัม บรรจุ 12,900 ซอง