ไทยเบฟ พาเที่ยว ชม ชิม แชะ ย้อนรอยประวัติศาสตร์ฝั่งธน

งาน “Water Festival 2023 เทศกาลวิถีน้ำ...วิถีไทย” งานใหญ่ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ที่บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) เป็นหัวเรือใหญ่จัดมาอย่างต่อเนื่อง เป็นครั้งที่ 8 โดยปีนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 13-16 เมษายน 2566 4 ภาค 6 จังหวัด 

งานปีนี้ ไทยเบฟ ได้จัดกิจกรรม ร่วมย้อนรอยประวัติศาสตร์ย่านฝั่งธน เดินเที่ยวชม ชิม แชะให้ “ชื่นอุรา..น่าสบาย” กับกิจกรรม RPST Photo Walk – Photo Talk “อร่อยจัด-ทรรศนา” ตอน คลองสาน – กะดีจีนในงาน “Water Festival 2023 เทศกาลวิถีน้ำ...วิถีไทย” โดยได้รับการสนับสนุนหลักจาก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (The Royal Photographic Society of Thailand) พร้อมด้วย กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงวัฒนธรรม กรุงเทพมหานคร เครือข่ายพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชน โดยกิจกรรมนี้ได้เชิญชวนให้นักท่องเที่ยว ได้มีส่วนร่วม ชม ชิม แชะ  “RPST Photo Walk – Photo Talk “อร่อยจัด-ทรรศนา” ตอน คลองสาน – กะดีจีน” 

พาผู้เข้าร่วมกิจกรรมโดยเฉพาะสายถ่ายรูป เดินลัดเลาะเพื่อเรียนรู้วิถีชุมชนเก่าแก่ย่านกุฎีจีน โดยมีปราชญ์ชุมชน ที่รู้ลึก รู้จริง อย่าง "อาจารย์ธีรนันท์ ช่วงพิชิต" ผู้ก่อตั้งศูนย์ข้อมูลประวัติศาสตร์ชุมชนธนบุรีและประธานมูลนิธิประชาคมย่านกะดีจีน-คลองสาน มาให้เกร็ดความรู้ทางประวัติศาสตร์ ที่มา ที่ไป ที่ใครฟัง ต่างต้องทึ่ง ทั้งเรื่องราวปูมหลัง ความเป็นมาและความเป็นอยู่ของคนในย่านนี้ พร้อมแวะชิมเมนูอร่อยดั้งเดิม ที่เป็นของดีในพื้นที่ให้ได้อิ่มสบายท้อง

บรรดาสายถ่ายรูป ยังได้เพลิดเพลินกับการเรียนรู้การถ่ายภาพ ผ่านมุมมองจากช่างภาพมืออาชีพ อีก 3 ท่าน นำโดยนายกสมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ตุลย์ หิรัญญลาวัลย์ ร่วมด้วย จุฬวิศว์ ศานติพงศ์ และ วรรณพงษ์ สุรโรจน์ประจักษ์

นายตุลย์ หิรัญญลาวัลย์ นายกสมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์กล่าวว่า งาน “Water Festival 2023 เทศกาลวิถีน้ำ...วิถีไทย" ทางสมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทยฯ ได้เข้าร่วมเป็นหนึ่งในพันธมิตร เพื่อสร้างกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการถ่ายภาพอย่างต่อเนื่องทุกปี 

การถ่ายภาพเป็นหนึ่งในเครื่องมือหลัก ในการใช้เชิญชวนประชาสัมพันธ์หรือเปิดพื้นที่นั้นๆให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น 

 

ความพิเศษของกิจกรรมในครั้งนี้คือ จะได้เข้าไปรู้ลึกรู้จริงจากการลงพื้นที่ เข้าใจประวัติศาสตร์ ได้ชิม ได้เห็นของที่สืบทอดมาจากประวัติศาสตร์และบันทึกสิ่งพิเศษนั้นได้ด้วยภาพถ่าย เพื่อเก็บเป็นความทรงจำดีๆ ไปอีกนานแสนนาน 

อาจารย์ธีรนันท์ ช่วงพิชิต ประธานกรรมการมูลนิธิประชาคมย่านกะดีจีน-คลองสาน กล่าวว่า กิจกรรมการถ่ายภาพ ถือเป็นกิจกรรมที่ดีของการเติมเต็มมุมมองของประวัติศาสตร์ที่แจ่มชัด นอกเหนือจากการศึกษาเรื่องราวผ่านเอกสาร เรื่องเล่า 

 

สำหรับเส้นทางย้อนรอยประวัติศาสตร์กะดีจีน – พระนคร ครั้งนี้ จุดเริ่มต้นการเดินทางสัมผัสเส้นทางประวัติศาสตร์ อยู่ที่ วัดกัลยาณมิตร วรมหาวิหาร ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่ประจำฝั่งธนฯ สักการะพระพุทธไตรรัตนนายก (หลวงพ่อโต ซำปอกง), พระพุทธรูปหล่อปางป่าเลไลยก์ ซึ่งเป็นเพียงพระอุโบสถเดียวในประเทศไทยที่เป็นพระพุทธรูปหล่อปางป่าเลไลยก์ พร้อมพาชมระฆังใบที่ใหญ่ที่สุดใบแรกในประเทศไทย 

 

ออกเดินทางต่อไปที่ ศาลเจ้าเกียนอันเกง (ศาลเจ้าแม่กวนอิม) ศาลเจ้าจีนที่เก่าแก่ที่สุดของชุมชนกุฎีจีน ได้รับรางวัลอนุรักษ์ศิลปสถาปัตยกรรมดีเด่น จากสมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์ 

จากนั้นพาลัดเลาะเข้าชุมชนกุฎีจีน แวะรับประทานอาหารว่าง ณ พิพิธภัณฑ์กุฎีจีน ชิมเมนู“สัพแหยก” สำรับโบราณชนิดหนึ่ง ได้รับอิทธิพลจากชาวโปรตุเกส ลักษณะไส้เหมือนกะหรี่ปั๊บ รสชาติเปรี้ยวนำ เค็ม หวาน ทานคู่กับขนมปัง

 

หลังจากที่ได้ลิ้มรสสำรับโบราณกันไปแล้ว พาไปต่อกันที่ วัดซางตาครู้ส หรือ วัดกุฎีจีนศึกษาสถาปัตยกรรมแบบเรเนสซองส์และนีโอคลาสิก พร้อมยอดโดมสไตล์อิตาลี ซึ่งเป็นการจำลองโดมของมหาวิหารฟลอเรนซ์ และพาชมภาพเขียนจิตรกรรมฝาผนัง ถ่ายภาพพระบรมธาตุมหาเจดีย์ ที่ได้รับรางวัลยูเนสโก สักการะขอพรพระพุทธนาค ที่ วัดประยุรวงศาวาส วรวิหาร 

ใกล้ๆ กัน ยังมีตลาดยอดพิมาน ริเวอร์วอล์ค ศูนย์กลางตลาดดอกไม้ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ชวนซื้อดอกไม้เพื่อสักการะศาลสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าฯ รัชกาลที่ 1 และปิดท้ายที่ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร หรือ วัดโพธิ์ เที่ยวชมเจดีย์ 4 รัชกาล, วิหารพระพุทธไสยาสน์ (พระนอน) ซึ่งเป็นพระนอนที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสามของประเทศ

กิจกรรมที่จัดขึ้น ถือเป็นการเพิ่มคุณค่าให้กับงาน “Water Festival 2023 เทศกาลวิถีน้ำ...วิถีไทย” เทศกาลสงกรานต์ที่ผสานความร่วมสมัยที่ดีงามของไทย โดยคนในชุมชนเพื่อชุมชน ซึ่งสนับสนุนการสืบสานศิลปวัฒนธรรมและประเพณีอันดีงามของไทยให้ความสำคัญกับชุมชนเป็นหลัก มีการกระจายรายได้สู่ชุมชน และพัฒนาการท่องเที่ยวชุมชนอย่างยั่งยืน