KBANK ทุ่ม 3.5 พันล้านบาท รุกธุรกิจบริหารหนี้

09 ก.พ. 2566 | 13:14 น.
อัปเดตล่าสุด :09 ก.พ. 2566 | 13:37 น.

KBANK ส่งบริษัทย่อย KInvesture เข้าถือหุ้นใน บจก.บริหารสินทรัพย์ เจ (JAM) 9.9% เงินลงทุนกว่า 3,500 ล้านบาท รุกธรกิจบริหารหนี้-เพิ่มโอกาสเข้าถึงผู้ซื้อทรัพย์ NPA ทั่วประเทศ

นายพัชร สมะลาภา กรรมการผู้จัดการ KBANK เปิดเผยว่า จากการที่ธนาคารร่วมกับบริษัท บริหารสินทรัพย์ เจ จำกัด (JAM)  ซึ่งเป็นบริษัทลูกในกลุ่ม JMT(บมจ. เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส ) จัดตั้งบริษัท บริหารสินทรัพย์ เจเค จำกัด (JK AMC) บริษัทร่วมทุนแห่งแรกในไทย ระหว่างธนาคารพาณิชย์และบริษัทบริหารสินทรัพย์
          
ธนาคารเห็นศักยภาพของ JAM จากความร่วมมือดังกล่าว  รวมทั้งเล็งเห็นโอกาสในการเติบโตทางธุรกิจของ JAM มาโดยตลอด  KInvesture ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของธนาคารกสิกรไทย จึงเข้าลงทุนในหุ้นสามัญของ JAM สัดส่วน 9.9% ด้วยเงินลงทุนกว่า 3,500 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนการเติบโตของ JAM ในอนาคต
          
นายปิยะ พงษ์อัชฌา รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เจ มาร์ท (JMART) และประธานกรรมการบริหาร JMT เปิดเผยว่า สภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวดีภายหลังสถานการณ์โควิด-19 และความไม่แน่นอนต่างๆ ที่เกิดกับเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจประเทศไทย แนวโน้มหนี้เสียยังคงเร่งตัวสูงขึ้น ทำให้ JAM และ JK AMC  มีโอกาสใช้เงินทุนในการซื้อหนี้ด้อยคุณภาพจากสถาบันการเงินอื่นๆมาบริหาร 

เป้าหมายหลักของทั้ง 2 บริษัทเพื่อส่งลูกหนี้กลับเข้าสู่ระบบการเงินอีกครั้ง ผ่านการเป็นที่ปรึกษาทางการเงินให้ลูกหนี้สามารถชำระคืนหนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยใช้ข้อมูลวิเคราะห์ประกอบการนำเสนอเงื่อนไขการชำระหนี้ ใช้เทคโนโลยีพัฒนาแอปพลิเคชันอำนวยความสะดวกลูกหนี้ในการเลือกผ่อนชำระตามความสามารถของตนเอง และอำนวยความสะดวกในการชำระเงินผ่านแอป 

ด้านนายสุทธิรักษ์ ตรัยชิรอาภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร JMT กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทย่อยของ KBANK เข้าลงทุนถือหุ้นใน JAM  สะท้อนความแข็งแกร่งในการบริหารงาน ความเชี่ยวชาญ และศักยภาพการเติบโตของกลุ่มบริษัท รวมถึงเพื่อเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงผู้ซื้อทรัพย์ NPA ทั่วประเทศ ตามเป้าหมายที่วางไว้ว่ากลุ่ม JMT จะก้าวขึ้นเป็นอันดับ 1 ของธุรกิจบริหารสินทรัพย์ด้อยคุณภาพภายในปี 2568