อัคราเร่งจัดตั้งคณะกรรมการกองทุนเพิ่มบทบาทชุมชนก่อนเปิดเหมืองทอง

19 ม.ค. 2566 | 15:26 น.
อัปเดตล่าสุด :19 ม.ค. 2566 | 15:26 น.

อัคราเร่งจัดตั้งคณะกรรมการกองทุนเพิ่มบทบาทชุมชนก่อนเปิดเหมืองทอง ตามกรอบนโยบายและแผนยุทธศาสตร์ในการบริหารจัดการทรัพยากรแร่ทองคำ พ.ศ. 2565

นายเชิดศักดิ์ อรรถอารุณ ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายความยั่งยืนขององค์กร บริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) ผู้ประกอบการเหมืองแร่ทองคำชาตรี เปิดเผยว่า อัคราได้ดำเนินการร่วมกับผู้นำชุมชน ผู้แทนชุมชน และหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง จัดตั้งคณะกรรมการบริหารจัดการกองทุนพัฒนาหมู่บ้านรอบพื้นที่เหมืองแร่ และคณะกรรมการบริหารจัดการกองทุนเฝ้าระวังสุขภาพของประชาชน 

ทั้งนี้ เป็นไปตามกรอบนโยบายและแผนยุทธศาสตร์ในการบริหารจัดการทรัพยากรแร่ทองคำ พ.ศ. 2565 โดยปรับโครงสร้างให้ผู้นำและผู้แทนชุมชนในเขตพื้นที่รอบเหมืองทั้ง 3 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดพิจิตร จังหวัดเพชรบูรณ์ และจังหวัดพิษณุโลก มีบทบาทในการบริหารจัดการกองทุนฯ ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนในพื้นที่ เพื่อให้เหมืองแร่สามารถอยู่คู่ชุมชนได้อย่างยั่งยืน

สำหรับที่ผ่านมาอัคราได้สมทบทุนเข้ากองทุนต่าง ๆ ไปแล้วกว่า 243 ล้านบาท บนความตั้งใจที่ต้องการให้กองทุนเป็นอีกกลไกที่ช่วยขับเคลื่อนการพัฒนาชุมชน โดยมีประชาชนเป็นผู้กำหนดแนวทางการพัฒนาของตนเอง 

อย่างไรก็ตาม เงินในกองทุนถูกนำไปใช้ในโครงการวิชาการเป็นส่วนใหญ่ ในขณะที่ชุมชนกลับเข้าถึงเม็ดเงินเหล่านี้ได้ค่อนข้างยาก จึงเป็นที่มาของการร่วมกันบูรณาการโครงสร้างการบริหารจัดการกองทุนในครั้งนี้  

อัคราเร่งจัดตั้งคณะกรรมการกองทุนเพิ่มบทบาทชุมชนก่อนเปิดเหมืองทอง “กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ได้รับข้อเสนอจากผู้นำชุมชนในพื้นที่ไปพิจารณาประกอบการจัดทำระเบียบ ทำให้จากนี้ไปอำนาจในการบริหารจัดการเงินกองทุนทั้งสองจะอยู่ที่คณะกรรมการซึ่งเป็นผู้แทนของคนในพื้นที่ทั้งหมด ดังนั้น การพิจารณาข้อเสนอโครงการ การอนุมัติ การเบิกจ่ายเงิน และการติดตามผล จะมีเส้นทางการสื่อสารสั้นลง และจะสามารถสนองความต้องการของคนในพื้นที่ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตด้านต่าง ๆ ได้ตรงจุดมากยิ่งขึ้น"

นายเชิดศักดิ์ กล่าวอีกว่า ตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง กรอบนโยบายและแผนยุทธศาสตร์ในการบริหารจัดการทรัพยากรแร่ทองคํา ออกโดยกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ บริษัทฯ ต้องสมทบเงินเข้ากองทุนจำนวน 4 กอง คิดเป็น 22% ของค่าภาคหลวงแร่ที่บริษัทฯ ชำระในแต่ละปี หรือรวมแล้วต้องไม่น้อยกว่า 65 ล้านบาทต่อปี 

โดยกองทุนพัฒนาหมู่บ้านรอบพื้นที่เหมืองแร่ มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้ในการดําเนินกิจกรรมหรือโครงการที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาหมู่บ้านรอบเหมืองแร่ของบริษัทฯ ทั้งในด้านการพัฒนาอาชีพ ชีวิตความเป็นอยู่และด้านอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาชุมชนในเขตรัศมี  3  กิโลเมตร จำนวน 17 หมู่บ้าน โดยบริษัทฯ ต้องจ่ายเงินสมทบในอัตรา 5% ของค่าภาคหลวงแร่ที่ชำระในแต่ละปี แต่ต้องไม่น้อยกว่า 15 ล้านบาทต่อปี ตลอดระยะเวลาที่มีการประกอบการ 

ส่วนของกองทุนเฝ้าระวังสุขภาพมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้ในการดำเนินกิจกรรมหรือโครงการที่เกี่ยวข้องกับการเฝ้าระวังสุขภาพประชาชนรอบพื้นที่เหมืองแร่ในเขตรัศมี 5 กิโลเมตร จำนวน 28 หมู่บ้าน โดยบริษัทฯ ต้องจ่ายเงินสมทบในอัตรา 3% ของค่าภาคหลวงแร่ที่ชำระในแต่ละปี แต่ต้องไม่น้อยกว่า 10 ล้านบาทต่อปี ตลอดระยะเวลาที่มีการประกอบการ 

นายนิพล ผมน้อย กำนันตำบลเขาเจ็ดลูก อำเภอทับคล้อ จังหวัดพิจิตร กล่าวว่า หลังจากที่อธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ลงนามแต่งตั้งคณะกรรมการกองทุนแล้ว จะรีบทำหลักเกณฑ์ข้อกำหนดเงื่อนไข เพื่อให้สามารถนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์และรัดกุมสามารถตรวจสอบได้ และให้เกิดความสะดวกคล่องตัว ทั้งนี้ เพื่อให้ตอบสนองความต้องการของประชาชนรอบพื้นที่เหมืองในระยะรัศมี 3 กิโลเมตร 

นายเชิดศักดิ๋ กล่าวว่า อัคราให้ความสำคัญในการมีส่วนร่วมของประชาชนในพื้นที่ โดยก่อนหน้านี้บริษัทฯ ได้ประกาศรับสมัครชาวบ้านเข้าทำงานที่เหมือง และในวันนี้ที่ช่วยผลักดันผ่านความเห็นชอบของกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ให้ชุมชนมีบทบาทในการบริหารกองทุนมากขึ้น ซึ่งหวังอย่างยิ่งว่ากองทุนเหล่านี้จะเป็นอีกหนึ่งกลไกสำคัญในการพัฒนาชุมชนต่อไป