เช็คสิทธิ์ ไร่ละ1,000 ประกันรายได้ข้าว65/66 สถานะโอนเงินล่าสุดได้ที่นี่

28 ม.ค. 2566 | 09:51 น.
อัปเดตล่าสุด :29 ม.ค. 2566 | 18:47 น.
485.7 k

เช็คสิทธิ์เงินเยียวยาเกษตรกรผู้ปลูกข้าว โครงการประกันรายได้ข้าว65/66 เงินไร่ละ 1,000 และ พร้อมวิธีตรวจสอบสถานะ ธ.ก.ส.โอนเงินเข้าบัญชีวันไหน ที่นี่ครบจบ

ความคืบหน้าการจ่ายเงินช่วยเหลือชาวนา โครงการไร่ละ 1,000 บาท และประกันรายได้ข้าว 2565/66 ล่าสุดเมื่อวันที่ 21 พ.ย. 2565 คณะกรรมการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เห็นชอบดำเนินการจ่ายเงินช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าว โครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2565/66 ในอัตราไร่ละ 1,000 บาท สูงสุดไม่เกิน 20 ไร่ และโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2565/66 ให้เกษตรกรกว่า 4.68 ล้านครัวเรือน

โครงการไร่ละ 1,000 บาท

  • รัฐบาลจะสนับสนุนเงินให้เกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนผู้ปลูกข้าวกับกรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ปีการผลิต 2565/66 ในอัตราไร่ละ 1,000 บาท สูงสุดไม่เกิน 20 ไร่ หรือไม่เกิน 20,000 บาทต่อครัวเรือน 

โครงการประกันรายได้ข้าว ปีการผลิต 2565/66

  • รัฐบาลจะสนับสนุนเงินช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ด้วยการประกันรายได้แก่เกษตรกรผู้ปลูกข้าว 5 ชนิด ได้แก่ ข้าวเปลือกหอมมะลิ ตันละ 15,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 14 ตัน ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ตันละ 14,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 16 ตัน ข้าวเปลือกเจ้า ตันละ 10,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 30 ตัน ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ตันละ 11,000 บาท ครัวเรือนละ ไม่เกิน 25 ตัน และข้าวเปลือกเหนียว ตันละ 12,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 16 ตัน

อัพเดท:

 

ธ.ก.ส.เริ่มโอนเงินวันไหน?

วิธีตรวจสอบสิทธิ์ประกันรายได้ข้าว65/66 และเงินไร่ละ 1,000 

 

  • เข้าไปที่เว็บไซต์ตรวจสอบสถานะความเป็นเกษตรกรและสมาชิกครัวเรือน ของกรมส่งเสริมการเกษตร คลิกที่นี่
  • กรอกเลขบัตรประชาชน 13 หลัก
  • กด ค้นหา
  • ระบบจะแสดงผลการค้นหาว่าท่านได้ขึ้นทะเบียนเกษตรกรแล้วหรือไม่ 
  • กรณีระบบแจ้งว่าได้ขึ้นทะเบียนเกษตรกร และมีสิทธิ์ได้รับเงินประกันรายได้ข้าว 2565/66 และเงินช่วยเหลือชาวนาไร่ละ 1,000 บาท ระบบจะแจ้ง ชื่อ สถานะการขึ้นทะเบียน และการปรับปรุงล่าสุด ปี 2565
  • หากระบบแสดงสถานะขึ้นทะเบียนเกษตรกรสำเร็จจะได้รับเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลโครงการไร่ละ 1,000 บาท ทุกราย รายละไม่เกิน 20 ไร่ วงเงินสูงสุดไม่เกิน 20,000 บาทต่อราย ส่วนการรับเงินประกันรายได้ข้าวจะขึ้นอยู่กับราคาชดเชยส่วนต่างข้าวเปลือกแต่ละชนิด ที่คณะอนุกรรมการกำกับดูแลและกำหนดเกณฑ์กลางอ้างและการชดเชยส่วนต่างราคาให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2565/65 จะประกาศในแต่ละรอบ

เว็บไซต์ตรวจสอบสิทธิ์ประกันรายได้ข้าว65/66 และเงินไร่ละ 1,000 

วิธีตรวจสอบสถานะการโอนเงินประกันรายได้ข้าว65/66 และเงินไร่ละ 1,000 บาท

  • เข้าไปที่เว็บไซต์ ตรวจสอบผลการรับการสนับสนุนตามโครงการรัฐ ของ ธ.ก.ส. คลิกที่นี่
  • กรอกเลขบัตรประชาชน 13 หลัก
  • ระบบจะแจ้งผลการรับเงินว่าท่านจะได้รับเงินจากโครงการประกันรายได้ข้าว 2565/66 หรือ เงินช่วยเหลือชาวนาไร่ละ 1,000 บาท เข้าเลขที่บัญชีไหน พร้อมวันที่โอน สาขาธกส. และสถานะการโอน 
  • หากได้รับสิทธิเงินประกันรายได้ข้าว ระบบจะแจ้งว่าท่านได้รับการสนับสนุนเงิน โครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2565/2566 หรือโครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2565/66 (ไร่ละ 1,000) เลขที่บัญชี ธ.ก.ส. พร้อมเลขที่บัญชี 4 ตัวหลัง วันที่โอน สาขา และสถานะการโอน สำเร็จ/หรืออยู่ระหว่างดำเนินการ

เว็บไซต์ตรวจสอบสถานะการโอนเงินประกันรายได้ข้าว65/66 และเงินไร่ละ 1,000 บาท

นอกจากโครงการไร่ละ 1,000 บาทและประกันรายได้ข้าวแล้ว รัฐบาลจังมีมาตรการคู่ขนานมาตรการคู่ขนาน เพื่อรักษาเสถียรภาพราคาข้าวเปลือกและยกระดับรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว เปิดโอกาสให้เกษตรกรมีทางเลือกในการขายข้าวเปลือกได้ในราคาที่สูงขึ้น ดังนี้

  • โครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2565/66 เพื่อให้เกษตรกรมีเงินทุนหมุนเวียนระหว่างชะลอการขายข้าว โดยไม่ต้องเร่งขายข้าวเปลือกในช่วงที่ผลผลิตออกสู่ตลาดจำนวนมากและได้ราคาต่ำกว่าตลาด วงเงินสินเชื่อรวม 25,590 ล้านบาท   โดยไม่คิดดอกเบี้ยกับเกษตรกร นอกจากนี้จะช่วยเหลือค่าฝากเก็บและรักษาคุณภาพข้าวเปลือก 1,500 บาทต่อตัน กรณีเกษตรกรเก็บข้าวไว้ในยุ้งฉางตนเอง 
  • โครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวและสร้างมูลค่าเพิ่มโดยสถาบันเกษตรกร ปีการผลิต 2565/66 สำหรับสหกรณ์การเกษตร กลุ่มเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน และศูนย์ข้าวชุมชนที่ประกอบธุรกิจรวบรวมข้าวจากเกษตรกรสมาชิก เกษตรกรทั่วไป กำหนดวงเงินกู้สำหรับสหกรณ์การเกษตรแห่งละไม่เกิน 300 ล้านบาท กลุ่มเกษตรกรแห่งละ ไม่เกิน 20 ล้านบาท และวิสาหกิจชุมชนแห่งละไม่เกิน 5 ล้านบาท วงเงินสินเชื่อรวม 10,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 4 ต่อปี ซึ่งคิดจากสถาบันฯ เพียงร้อยละ 1 ต่อปี ระยะเวลาการจ่ายสินเชื่อ ตั้งแต่บัดนี้ถึง 31 ธันวาคม 2566