FAO ประกาศให้การเลี้ยงควายปลักทะเลน้อย เป็นพื้นที่มรดกโลกการเกษตร

05 พ.ย. 2565 | 13:20 น.
อัปเดตล่าสุด :06 พ.ย. 2565 | 19:45 น.

องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) ประกาศให้ระบบการเลี้ยงควายปลักพื้นที่ทะเลน้อย เป็นพื้นที่มรดกโลกทางการเกษตรแห่งแรกของประเทศไทย

นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ฝ ในการประชุมคณะกรรมการที่ปรึกษาทางด้านวิทยาศาสตร์ (SAG) ของขององค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) เมื่อเร็ว ๆ นี้ ได้ประกาศให้ การเลี้ยงควายปลักในพื้นที่ชุ่มน้ำทะเลน้อย จ.พัทลุง เป็นพื้นที่มรดกโลกทางการเกษตร (GIAHS) แห่งแรกของประเทศไทย

 

โดยการขึ้นทะเบียนการเลี้ยงควายปลักและระบบนิเวศในพื้นที่ชุ่มน้ำทะเลน้อย จ.พัทลุง ครั้งนี้ กระทรวงเกษตรฯ เห็นถึงความสำคัญและอัตลักษณ์ของพื้นที่ รวมถึงวิถีการทำการเกษตรแบบดั้งเดิมของเกษตรกรท้องถิ่นที่มีการสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่นเป็นระยะเวลากว่า 250 ปี ของ “การเลี้ยงควายปลักและระบบนิเวศในพื้นที่ชุ่มน้ำทะเลน้อย จ.พัทลุง”

 

การเลี้ยงควายปลักและระบบนิเวศในพื้นที่ชุ่มน้ำทะเลน้อย จ.พัทลุง

 

รวมถึงต้องการยกระดับการปกป้อง อนุรักษ์ และสืบสานวัฒนธรรมความเป็นอยู่ของเกษตรกรในพื้นที่ให้เกิดความยั่งยืนในระยะยาว 

สอดคล้องกับนโยบาย BCG และ SDGs จึงได้ดำเนินการยื่นเอกสารข้อเสนอ “การเลี้ยงควายปลักและระบบนิเวศในพื้นที่ชุ่มน้ำทะเลน้อย จ.พัทลุง” เพื่อขอขึ้นทะเบียนเป็นพื้นที่มรดกโลกทางการเกษตร (GIAHS) ขององค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) เมื่อเดือนตุลาคม 2564 โดยการพิจารณามีหลักเกณฑ์ของพื้นที่ GIAHS ทั้งหมด 5 ข้อ ได้แก่

  • ความมั่นคงอาหาร/ชีวิตความเป็นอยู่ดี 
  • ความหลากหลายทางชีวภาพเกษตร 
  • ระบบความรู้/ภูมิปัญญาท้องถิ่น มีมาแต่ดั้งเดิม 
  • วัฒนธรรม ระบบคุณค่า และองค์กรทางสังคม 
  • ลักษณะภูมิทัศน์/และภูมิทัศน์ทางทะเล ซึ่งต้องเข้าหลักเกณฑ์ทั้ง 5 ข้อ

 

การเลี้ยงควายปลักและระบบนิเวศในพื้นที่ชุ่มน้ำทะเลน้อย จ.พัทลุง

สำหรับการขึ้นทะเบียนมรดกทางการเกษตรโลกในครั้งนี้ เกิดจากความร่วมมือของชุมชนในพื้นที่ ที่ต้องการอนุรักษ์แนวทางการทำการเกษตรที่มีแต่ดั้งเดิมเพื่อส่งต่อทรัพยากรทางการเกษตรให้แก่คนรุ่นถัดไป โดยมีเป้าหมายหลักคือการรักษาระบบนิเวศเชิงเกษตรให้ยั่งยืน ซึ่งเป็นแหล่งวัตถุดิบสำคัญของผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร และการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ สร้างความเป็นอยู่ที่ดีให้คนในชุมชน

 

นอกจากนี้ GIAHS ยังเน้นให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในพื้นที่ GIAHS เกษตรกร ชุมชนและผู้มีส่วนได้เสียจะได้ประโยชน์ร่วมกัน โดยชุมชนในพื้นที่จะได้รับประโยชน์ทางเศรษฐกิจจากการเพิ่มมูลค่าผลผลิตทางการเกษตร อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว และการรักษาความหลากหลายทางชีวภาพ 

 

ดังนั้นการขึ้นทะเบียนในพื้นที่ชุ่มน้ำทะเลน้อยจะไม่ส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตของเกษตรกรในพื้นที่ และยังเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตในชุมชน ทำให้เศรษฐกิจชุมชนเติบโต และเพิ่มการจ้างงานในพื้นที่

 

การเลี้ยงควายปลักและระบบนิเวศในพื้นที่ชุ่มน้ำทะเลน้อย จ.พัทลุง