กลุ่มชลบุรีเจริญฯควัก2พันล้านขึ้นโรงงานแป้งมันสำปะหลังทันสมัยอุดรธานี

02 ต.ค. 2565 | 20:14 น.
อัปเดตล่าสุด :03 ต.ค. 2565 | 03:22 น.
1.5 k

บริษัท ซี เค คอร์ปอเรชั่นฯ ในเครือกลุ่มชลบุรีเจริญ ผู้ผลิตแป้งมันสำปะหลังรายใหญ่ ควัก 2,000 ล้าน ตั้งโรงงานแห่งใหม่เทคโนโลยีสุดทันสมัยที่อุดรธานี รองรับพื้นที่ปลูกมันเขตอีสานตอนบนในรัศมี 300 กิโลเมตร ชี้อนาคตสดใสในยุควิกฤตอาหาร หลายประเทศเริ่มพัฒนาใช้เป็นอาหารคน  

นายชุมพล  ขจรเฉลิมศักดิ์  ประธานกรรมการ บริษัท ซี เค คอร์ปอเรชั่น จำกัด  และรองประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดอุดรธานี  เปิดเผยว่า บริษัทฯ ซึ่งเป็นผู้ผลิตแป้งมันสำปะหลัง อยู่ในเครือของ บริษัท ชลบุรีเจิญ กรุ๊ป จำกัด  ที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับมันสำปะหลังมาเป็นเวลากว่า 65 ปี

 

ได้ใช้เงินลงทุนประมาณ 2,000 ล้านบาท ก่อสร้างโรงงานผลิตแป้งมันขนาดใหญ่ ครบวงจร และใช้เทคโนโลยีทันสมัยที่สุดในประเทศ ในพื้นที่ 700 ไร่ ตั้งอยู่ที่ อำเภอศรีธาตุ จังหวัดอุดรธานี โดยการสนับสนุนทางการเงินจากธนาคารกสิกรไทย ขณะนี้ก่อสร้างเสร็จเรียบร้อย  และได้เปิดกิจการอย่างเป็นทางการแล้ว 

กลุ่มชลบุรีเจริญฯควัก2พันล้านขึ้นโรงงานแป้งมันสำปะหลังทันสมัยอุดรธานี

นายชุมพล  ขจรเฉลิมศักดิ์ ประธานกรรมการ บริษัท ซี.เค. คอร์ปอเรชั่น จำกัด

โดยพิธีเปิด มีนายศักดิ์ชัย  อุ่นจิตติกุล  รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย นายเม่งจั้ว  แซ่อึ้ง  ประธานกรรมการบริษัท ชลบุรีเจริญ กรุ๊ป จำกัด  นายชุมพล  ขจรเฉลิมศักดิ์ ประธานกรรมการ บริษัท ซี.เค. คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้บริหารบริษัทในเครือฯ พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่  แขกผู้มีเกียรติ ร่วมกันตัดริบบิ้นเปิดโรงงานอย่างเป็นทางการ
 

 

นายชุมพลเปิดเผยรายละเอียด ของกิจการของโรงงานผลิตแป้งมันสำปะหลัง ซี เค คอร์ปอเรชั่น จำกัด อุดรธานีอีกว่า  เป็นโรงงานแห่งล่าสุดของกลุ่มบริษัทในเครือฯ ที่มีความทันสมัยและใหญ่ที่สุดของประเทศ เพื่อทำการผลิตแป้งมันสำปะหลังแบบครบวงจร ใช้เทคโนโลยีของประเทศเยอรมันในการควบคุมกระบวนการผลิต แต่ส่วนหนึ่งก็ยังมีความจำเป็นต้องใช้แรงงานคน  ซึ่งโรงงาน ซี เค ฯที่อุดรธานี จ้างแรงงานคนจำนวน 200 คน มีระบบกำจัดน้ำเสีย ของเสียในกระบวนการผลิตระดับมาตรฐาน

กลุ่มชลบุรีเจริญฯควัก2พันล้านขึ้นโรงงานแป้งมันสำปะหลังทันสมัยอุดรธานี

ทั้งนี้ เนื่องจากพื้นที่จังหวัดอุดรธานี เป็นพื้นที่ที่มีการปลูกมันสำปะหลังมากเป็นอันดับสองรองมาจากจังหวัดนครราชสีมา ที่มีพื้นที่ปลูกมันสัมปะหลังมากที่สุดของภาคอีสาน  เป็นการสร้างเศรษฐกิจและสร้างงานให้กับจังหวัดและพื้นที่ใกล้เคียง 

 

โรงงานผลิตแป้งมันของ บริษัท ซี.เค.คอร์ปอเรชั่น จำกัด ที่จังหวัดอุดรธานี เป็นโรงงานแห่งที่ 5 ในภาคอีสาน อยู่ในพื้นที่ภาคอีสานตอนบน 3 แห่ง และที่จังหวัดมหาสารคาม 2 แห่ง เป็นโรงงานแห่งที่ 9 ของในเครือฯ  พร้อมเปิดรับซื้อหัวมันสำปะหลังจากพื้นที่ต่าง ๆ ของภาคอีสานตอนบน เช่น อุดรธานี หนองคาย หนองบัวลำภู เลย บึงกาฬ นครพนม สกลนคร  มุกดาหาร  ในรัศมี 200-300 กิโลเมตร โดยรอบของโรงงาน สามารถนำเอาหัวมันสำปะหลังมาส่งขายให้กับโรงงานได้  

 

ปัจจุบันเกษตรกรในพื้นที่ต่าง ๆ ของภาคอีสาน หันมาปลูกมันสำปะหลัง แทนการปลูกอ้อยกันมากขึ้นเรื่อย ๆ  ทำให้เกิดความเชื่อมั่นในวัตถุดิบมีปริมาณมากพอ สามารถป้อนเข้าโรงงานได้ปริมาณพอกับการผลิต

 

นายชุมพลฯยังชี้ถึงอนาคตของผลิตมันสำปะหลังของภาคอีสาน ว่า มีอนาคตที่ดี มีลู่ทางในตลาดทั้งในและต่างประเทศค่อนข้างสดใส เกษตรกรภาคอีสานปลูกมันสำปะหลังเป็นจำนวนมาก เพราะพื้นที่มีความเหมาะสม และราคาที่ดิน ตลอดจนปัจจัยเสริมต่าง ๆ ยังอยู่ในระดับที่สามารถลงทุนได้ เป็นแรงดึงดูดให้นักลงทุนพิจารณาเป็นทางเลือกในการลงทุนได้อยู่  

 

สำหรับบริษัทในเครือฯ กำลังมีการสำรวจความเป็นไปได้ ในการขยายธุรกิจมันสำปะหลังจากภาคอีสานไปยังพื้นที่ภาคเหนือ เพราะในปัจจุบันนี้มีโรงานแป้งมันสำปะหลังของบริษัทในเครือ ตั้งอยู่ที่จังหวัดกำแพงเพชรแล้ว 1 แห่ง

 

ในช่วง 3 ปี ที่ผ่านมานี้ แป้งมันสำปะหลังในตลาดโลกมีทิศทางที่สดใสมาก มีการส่งออกไปขายให้กับตลาดต่างประเทศปีละแสนล้านบาท เพราะผลิตภัณฑ์ของมันสำปะหลัง สามารถนำเอาไปใช้ประโยชน์ได้หลายอย่าง ทั้งการแปรรูปเป็นอาหารคาวหวาน มีการเริ่มนำเอาไปผสมทำขนมปังแต่ยังไม่แพร่หลาย  ใช้ในอุตสาหกรรมบางชนิด ใช้ในการผลิตแคปซูลยา 

 

ที่สำคัญแป้งมันสัมปะหลังกำลังเป็นที่ต้องการของประชาชนในหลายประเทศ นำเอาไปแปรรูปเป็นอาหารบริโภค  เนื่องจากมีปริมาณความหวานน้อย  ไม่สร้างผลกระทบต่อร่างกาย ในบางประเทศใช้มันสำปะหลังในการประกอบอาหารเป็นหลัก เช่น ประเทศบราซิล  นายชุมพลฯกล่าว