"ตลาดฟู้ดเดลิเวอรี" ระอุ ไมเนอร์ชู "1112 เดลิเวอรี" ทวงคืนบัลลังเจ้าตลาด

06 ก.ย. 2565 | 07:13 น.

ไมเนอร์คัมแบ็ค "ตลาดฟู้ดเดลิเวอรี"มูลค่าแสนล้าน มัดรวม 7 แบรนด์ในเครือเปิดแอพลิเคชั่น “1112 เดลิเวอรี” อัดโปรการันตรีส่งด่วนใน 30 นาที ท้ารบแพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรีทวงคืนบัลลังเจ้าตลาด

ฟู้ดเดลิเวอรี่ เป็นอีกตลาดที่เติบโตอย่างต่อเนื่องจากความต้องการความสดวกและรวดเร็วของผู้บริโภคยุคใหม่ โดยเฉพาะในช่วงโควิดที่ดันมูลค่าตลาดฟู้ดเดลิเวอรี่ทยานขึ้นกว่า  65,000 ล้านบาท ในปีที่ผ่านมา และในปีนี้ EIC คาดการณ์ว่าจะเติบโตถึง 105,000 ล้านบาท

"ตลาดฟู้ดเดลิเวอรี" ระอุ ไมเนอร์ชู "1112 เดลิเวอรี" ทวงคืนบัลลังเจ้าตลาด

นอกจากความร้อนแรงของมูลค่าตลาดที่เติบโตอย่างมีนัยสำคัญแล้วความร้อนแรงของการแข่งขันในตลาดก็ดุเดือดไม่แพ้กัน โดยปัจุบันตลาดฟู้ดเดลิเวอรีนอกจากมีผู้เล่นหลักๆอยู่ 3 เจ้าใหญ่ คือ แกรบ ไลน์แมน ฟู้ดแพนด้า ยังมีคู่แข่งจากหลายวงการที่ดาหน้าตบเท้าเข้ามาร่วมชิงเค้กกันคึกคักเช่น โรบินฮู้ด จากกลุ่มธนาคารไทยพาณิชย์,  Gojek ไทยที่ถูกแอร์เอเชียเข้าซื้อกิจการ, ช้อปปี้ แพลตฟอร์มอีมาร์เก็ตเพลสที่ลงมาแจมฟู้ดเดลิเวอรี่ รวมถึงกลุ่มทรูที่เปิด True Food เป็นต้น

 

อย่างไรก็ตามก่อนหน้าที่จะมีแพลตฟอร์ม ฟู้ดเดลิเวอรี่ มากหน้าหลายตาอย่างในปัจุบัน นับย้อนไปกว่า 20 ปี “ไมเนอร์ กรุ๊ป” ได้เปิดบริการ “1112 เดลิเวอรี่” ส่งตรงอาหารในเครือถึงมือผู้บริโภคผ่านสายด่วน 1112 และขยายไปสู่การสั่งซื้อผ่านเว็บไซต์ ก่อนที่จะส่งแบรนด์ในเครือเข้าไปอยู่ในแพลตฟอร์ม ฟู้ดเดลิเวอรี่ ในภายหลัง 

"ตลาดฟู้ดเดลิเวอรี" ระอุ ไมเนอร์ชู "1112 เดลิเวอรี" ทวงคืนบัลลังเจ้าตลาด

แน่นอนว่าความหอมหวนของ ตลาด “ฟู้ดเดลิเวอรี่” นี้ก็ทำให้ไมเนอร์ ไม่อาจปล่อยให้คู่แข่งรายอื่นช่วงชิงเม็ดเงินมหาศาลและค่า GP ไปมากกว่าเดิม นำมาซึ่งการตัดสินใจ ปัดฝุ่น 1112 ใหม่เปิดเป็นแอปพลิเคชัน “1112 เดลิเวอรี”โดยไม่ทิ้งจุดขายเดิม “การันตรีส่งร้อน-ส่งเร็ว ภายในเวลา 30 นาที ”

 

นายธันยเชษฐ์ เอกเวชวิท ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตลาดเดลิเวอรี่ในภาพรวมเติบโตอย่างมากในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาโดยเฉพาะในช่วงโควิด แต่เชื่อว่าในปีนี้ตลาดจะยังเติบโตต่อเนื่องแต่เป็นการเติบโตในอัตราที่ลดลงเล็กน้อยหรือเติบโต 5% เพราะแม้สถานการณ์โควิดจะดีขึ้น ห้างกลับมาเปิดบริการ แต่พฤติกรรมของผู้บริโภคทที่เคยชินกับการสั่งเดลิเวอรี่ยังคงอยู่และมากขึ้นทั้งในส่วนของกรุงเทพฯและต่างจังหวัด ดังนั้นภาพการแข่งขันของตลาดในอนาคตโจทย์สำคัญคือการตอบโจทย์ผู้บริโภค 

นายธันยเชษฐ์ เอกเวชวิท ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)

“สาเหตุที่คนยังใช้เดลิเวอรี่เพราะผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม ความต้องการความสดวกสบายมีมากขึ้นเรื่อยๆ เป็นนิวนอมของผู้บริโภคจริงๆ ในอนาคตผู้ประกอบการร้านอาหารก็ต้องตอบโจทย์ตรงนี้ให้ได้เพราะจะมีความแตกต่างชัดเจน คนที่มาทานอาหารแบบไดน์อินต้องการเสพประสบการณ์ ขณะที่ คนสั่งเดลิเวอรี่ต้องการความสะดวกสบาย ดังนั้นคิดว่าเซกเมนต์นี้ยังไงก็จะโตต่อไปเรื่อยๆ

 

ข้อได้เปรียบของเราคือเรามีประสบการณ์ เรามีโนวฮาวและเรามีร้านของเราเองกว่า 1,500 สาขาทั่วประเทศไทย ทำให้เราสามารถควบคุมคุณภาพ และความเร็วในการส่งสินค้าเดลิเวอรี่ได้ดี นอกจากนี้เรายังมีระบบ packaging รักษาอุณหภูมิซึ่งเป็นเจ้าเดียวที่ทำ ทำให้เรารักษาอุณหภูมิอาหารของเราได้ดีกว่า 

 

ซึ่งในอนาคตเราไม่ได้ตั้งเป้าส่งเดลิเวอรี่อย่างเดียวแต่เรามองว่าพฤติกรรมผู้บริโภคก็คือ เดต้าเบส ซึ่งสามารถนำมาทำ offer ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคแค่ละคนได้ และตอบโจทย์ออฟไลน์ทูออนไลน์ได้เช่นกัน  ดังนั้นในอนาคตเราจะเป็นมากกว่าเดลิเวอรี่แพลตฟอร์ม จากการนำดิจิตอลเข้ามาช่วยทำธุรกิจร้านอาหารได้ดีขึ้นทั้งไดน์อินและเดลิเวอรี่” 



ผู้บริหารกล่าวต่อไปว่า ปัจุบันแอปพลิเคชัน “1112 เดลิเวอรี” รองรับการให้บริการของรวมร้านอาหารยอดฮิตภายใต้เครือไมเนอร์ กรุ๊ป เป็น 7 ร้านได้แก่ เดอะ พิซซ่า คอมปะนี, บอนชอน, ซิซซ์เล่อร์, เบอร์เกอร์ คิง,  สเวนเซ่นส์, แดรี่ควีน และ เดอะ คอฟฟี่ คลับ รวมทั้งร้านอาหารพันธมิตรที่เข้าร่วมเช่น เอสแอนด์พี, เออร์เบินพิซซ่า, เบรดทอล์ค, ซงฟา, เซอร์เจนท์ คิทเชน, อีสาน แซ่บ แซ่บ เป็นต้น โดยแบรนด์ที่สามารถทำยอดขายสูงสุดผ่านช่องทางเดลิเวรี่ได้แก่ เดอะ พิซซ่า คอมปะนี,  สเวนเซ่นส์ และบอนชอน ซึ่งบริษัทยังคงมองหาพาร์ทเนอร์ใหม่ๆเข้ามาร่วมในแอปพลิเคชัน 1112 เดลิเวอรี

 

อย่างไรก็ตามปัจุบัน ธุรกิจเดลิเวอรี่ ไม่ใช่ตลาดที่ง่าย เพราะการที่ตลาดมีผู้แข่งขันจำนวนมาก ทำเกิดสงครามราคา ด้วยการนำโปรโมชั่น แพ็กเกจส่วนลด และอื่น ๆ มาเป็นจุดขายเพื่อดึงดูดลูกค้า และร้านอาหาร เพื่อแย่งชิงลูกค้าอย่างดุเดือด โดยเฉพาะในยุคที่อุตสาหกรรมเผชิญกับความท้าทายรอบด้าน ทั้งกำลังซื้อที่ลดลง เงินเฟ้อและค่าครองชีพที่สูงขึ้น ซึ่งผู้บริหารยอมรับว่า เรื่องของค่าครองชีพ เงินเฟ้อ มีผลกะทบต่อธุรกิจอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่โชคดีที่สามารถบริหารซัพพลายเชนทำให้ไม่ได้รับผลกระทบทางด้านต้นทุนมากนัก ขณะที่ทางด้าน marketingมีการจัดการ portfolioโดยโปรโมทสินค้าที่มี margin เยอะ ลดการโปรโมทสินค้าที่ marginน้อย และมีการปรับราคาขึ้นอย่างสมเหตุสมผล ในส่วนของส่วนค่าครองชีพค่าพนักงานโดยเฉพาะไรเดอร์ที่เผชิญกับค่าน้ำมันที่แพงขึ้น บริษัทได้มีการทำ pilot อีไบค์ ซึ่งช่วยไรเดอร์ประหยัดค่าใช้จ่ายค่อนข้างเยอะ และเป็นการดึงดูดไรเดอร์ให้เข้ามาร่วมงานกับ 1112 เดลิเวอรี มากขึ้น 

นายปัทม์ พงษ์วิทยาพิพัฒน์ ผู้จัดการทั่วไป เดอะ พิซซ่า คอมปะนี และธุรกิจเดลิเวอรี (1112 เดลิเวอรี)

ด้านนายปัทม์ พงษ์วิทยาพิพัฒน์ ผู้จัดการทั่วไป เดอะ พิซซ่า คอมปะนี และธุรกิจเดลิเวอรี (1112 เดลิเวอรี) ภายใต้การดำเนินการของ บริษัท เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ปัจุบัน ปัจจัยความสำเร็จสำคัญที่ทำให้แบรนด์ “1112 เดลิเวอรี” เติบโตอย่างแข็งแกร่ง มาจากการเป็นแพลตฟอร์มที่ดีที่สุดตอบโจทย์กลยุทธ์การเป็น “Best Deal” ในการนำเสนอสินค้าและบริการที่ให้ลูกค้าได้รับความคุ้มค่าสูงสุด โดยมาพร้อมกับการเปิดตัวแคมเปญ ‘Best Price รับประกัน ราคาดีที่สุด’ หนึ่งในกิจกรรมส่งเสริมการตลาดที่ออกมากระตุ้นตลาดเดลิเวอรี 

 

และเป็นเจ้าแรกเจ้าเดียวในไทยให้ผู้บริโภคได้มั่นใจว่าจะได้รับดีลราคาที่ดีที่สุด เมื่อสั่งอาหารบนแพลตฟอร์มเดลิเวอรี ครอบคลุม 7 แบรนด์ดังในเครือไมเนอร์ ฟู้ด ทั้งเมนูเดี่ยวและชุดเซ็ตคอมโบที่ร่วมรายการ หากเจอเมนูเดียวกันที่ราคาถูกกว่าในแพลตฟอร์มอื่นๆ เมื่อออร์เดอร์กับ 1112 เดลิเวอรีครั้งถัดไป รับส่วนลดทันทีสูงสุด 100 บาท ทั้งนี้แคมเปญดังกล่าว พร้อมให้ผู้บริโภคร่วมพิสูจน์ความคุ้มค่ากับการรับประกันราคาดีที่สุดพร้อมกันทั่วประเทศตั้งแต่ 6 กันยายน –  5 ตุลาคม 2565 นี้ โดยหลังจากเปิดตัวแคมเปญนี้คาดว่าจะช่วยกระตุ้นยอดขายบนแพลตฟอร์มเดลิเวอรีเพิ่มขึ้น 30%”

 

นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญกับการเป็น “Best Service” อีกหนึ่งในมาตรฐานการบริการเพื่อให้ผู้บริโภคที่สั่งเดลิเวอรีได้รับความพึงพอใจ โดยเฉพาะการการันตี ส่งร้อน-ส่งเร็ว ภายในเวลา 30 นาที ด้วยระบบการจัดการหลังบ้านที่ทันสมัยและ มีประสิทธิภาพ ซึ่งสามารถควบคุมคุณภาพได้เองทุกขั้นตอน ตั้งแต่เริ่มรับออเดอร์ผ่านทุกช่องทางการสั่งซื้อของ 1112 เดลิเวอรี สู่ขั้นตอนของการเตรียมอาหารตามลำดับด้วยวัตถุดิบที่สด ใหม่ สะอาด และปลอดภัย ตลอดจนการเตรียมจัดส่งทุกเมนูให้ถึงมือผู้บริโภคภายในเวลาที่กำหนด ด้วยบรรจุภัณฑ์ที่เก็บความร้อนที่มีแผ่นทำความร้อน หรือ Heat Plate ควบคุมอุณหภูมิของอาหารให้ยังคงคุณภาพเหมือนเพิ่งออกจากเตาร้อนๆ 

 

ไปจนถึงการควบคุมคุณภาพของพนักงานส่งอาหารกว่า 3,000 คน ที่ผ่านการอบรมเป็นไปตามมาตรฐานของแบรนด์ ที่เตรียมพร้อมให้บริการในทุกพื้นที่ครอบคลุม 75 จังหวัด ดังนั้นมั่นใจได้ว่าทุกเมนูที่เสิร์ฟผ่าน เดลิเวอรีของเรา ผู้บริโภคจะได้รับประสบการณ์ความอร่อยเทียบเท่ากับการมานั่งรับประทานที่ร้านแน่นอน นอกจากนี้เรายังได้ริเริ่มการนำรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าเข้ามาเสริมทัพในการจัดส่งอาหาร ให้สอดรับกับเทรนด์รักษ์โลกในการเป็นกรีน เดลิเวอรี อีกด้วย

 

ในขณะที่ภาพรวมของ 1112 เดลิเวอรีในปี 2565 ปัจจุบันมีผู้ใช้บริการผ่านแอปพลิเคชัน 1112  สูงสุดเป็นอันดับหนึ่งมียอดดาวน์โหลดมากกว่า 2.5 ล้านครั้ง รองลงมาคือเว็บไซต์ และ คอลเซ็นเตอร์ 1112 ตอกย้ำการเป็น “Best Experience”  ซึ่งนับเป็นความสำเร็จของธุรกิจ 1112 เดลิเวอรี ในการตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ได้อย่างตรงจุด โดยในช่วงโค้งสุดท้ายของปี 2565 นี้ มีแผนที่จะเพิ่มศักยภาพของช่องทางเดลิเวอรี ในการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆ รวมถึงพัฒนาระบบลอยัลตี้ โปรแกรมของแบรนด์ให้มีความแข็งแกร่งเพิ่มมากขึ้นในอนาคต เพื่อรองรับผู้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภค รวมถึงการจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดอย่างต่อเนื่องเพื่อกระตุ้นการบริโภคและขยายฐานผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายให้ครอบคลุมยิ่งขึ้น ทั้งกลุ่มคนรุ่นใหม่ คนทำงาน และกลุ่มครอบครัว ตลอดจนการมองหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ผ่านความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจในการนำเสนอการบริการและพัฒนาความแข็งแกร่งบนแพลตฟอร์ม 1112 เดลิเวอรี เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุด 

 

“การจัดส่งอาหารภายใต้ 1112 เดลิเวอรี ครอบคลุม  75 จังหวัด ในปีแรกของการเปิดบริการ 1112 เดลิเวอรี มีจำนวนผู้ใช้บริการ 1 ล้านคน แต่ปัจจุบันมีผู้ใช้บริการ 2.5 ล้านคนในระยะเวลาไม่ถึง 2ปี  สะท้อนว่า1112 เดลิเวอรี ได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคมากขึ้น 

 

ขณะเดียวกันเรา มีจำนวนไรเดอร์ให้บริการกว่า 5,000 ราย ซึ่งเป็นไรเดอร์ของ minor food และ partner ทำให้เรามีกำลังส่งได้มากขึ้น ทำให้เรามั่นใจที่จะออกแคมเปญการันตี 30 นาที ซึ่งตัวเลขเฉลี่ยที่เราสามารถส่งอาหารอย่างมีคุณภาพถึงมือลูกค้าอยู่ที่ภายใน 25 นาที

 

นอกจากนี้ในอดีตเราจะมีผู้ใช้บริการที่อายุต่ำกว่า 35 ปีค่อนข้างต่ำ แต่วันนี้ตัวแคมเปญที่เราใช้รวมถึงแบรนด์น้องใหม่เข้ามาในแพลตฟอร์ม ทำให้เราสามารถดึงผู้บริโภคอายุ 20- 25ปีเข้ามาใน platform มากขึ้น ส่วนขอบเขตการให้บริการปัจุบันเรายังอยู่ในเมืองใหญ่ และกำลังเริ่มขยายบริการออกไป ดังนั้นในอนาคตเราจะเห็นลูกค้าที่อยู่นอกเมืองมากขึ้น”

 

ทั้งนี้ในช่วงล็อคดาวน์จากสถานการณ์โควิด 1112 เดลิเวอรีเติบโตกว่า 178% และในปี 2022 ก็สามารถรักษาการเติบโตได้ดีอยู่ที่ 56% และในปีหน้าตั้งเป้าเติบโต 50% อย่างไรก็ตามโจทย์สำคัญสำหรับธุรกิจเดลิเวอรี่ปัจุบันคือผู้บริโภคมองหาความคุ้มค่ามากขึ้น ซึ่งเราพยายามตอกย้ำความคุ้มค่า และส่งอาหารคุณภาพเทียบเท่ากับนั่งทานในร้านอาหาร และการได้รับประสบการณ์ที่ดีในการใช้แอปพลิเคชัน 1112โดย ตอกย้ำ 3 แกนคือ Best Deal ,Best service และ Best experience

 

นอกจากนี้เรายังพัฒนามอเตอร์ไซค์ อีไบค์ เพื่อให้บริการส่งอาหารด้วยรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าภายใต้แบรนด์ เดอะ พิซซ่า คอมปะนี 1112 นำร่องเฟสแรกโซนกรุงเทพฯ เพื่อช่วยเหลือไรเดอร์พาร์ทเนอร์และพนักงานของ  เดอะ พิซซ่า คอมปะนี ลดต้นทุนในการจัดส่ง และเป็นส่วนหนึ่งในการทำให้สิ่งแวดล้อมดีขึ้น หลังจากทำไปแล้วไรเดอร์เข้าร่วมโปรแกรมนี้สามารถทำให้รายได้เพิ่มมากขึ้นและบริหารจัดการการเติมน้ำมันระหว่างวันได้ดีขึ้นเพราะไม่ต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่ระหว่างวัน สะดวกรวดเร็วลดต้นทุนในการทำงาน นี่คือสิ่งที่เราofferให้ เพราะเราอยากให้ไรเดอร์ทำงานกับเราได้นานและต่อเนื่อง ตอนนี้เรามีรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าให้บริการ15คันใน กทม.ชั้นใน ในอนาคตเราตั้งเป้า 80%ของพนักงานต้องใช้อีไบค์ทั้งหมด”