เดลิเวอรี่ดันยอดรวม 64 “ซิซซ์เล่อร์” โต 20%

15 ต.ค. 2564 | 16:20 น.
อัปเดตล่าสุด :16 ต.ค. 2564 | 20:50 น.

ซิซซ์เล่อร์ คาดรายได้รวมปี 64 เติบโต 20% จากแรงหนุนเดลิเวอรี่ เชื่อไตรมาส 4 ปี 64 ธุรกิจพลิก ลุยขยายสาขาเพิ่ม พร้อมปรับโมเดล ไดน์อิน-เดลิเวอรี่-พิคอัพ พร้อมจัด “อ็อกโทเบอร์เฟสต์” ดึงกำลังซื้อนักเที่ยวปลายปี

นายกรีฑากร ศิริอัฐ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอสแอลอาร์ที จำกัด ใน เครือ เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการร้านอาหารภายใต้แบรนด์ ซิซซ์เล่อร์ กล่าวว่า ตลอดทั้ง 3 ไตรมาสของปี 2564 ถือเป็นอีกปีที่ธุรกิจร้านอาหารต้องเผชิญกับความท้าทายของการให้บริการท่ามกลางสถานการณ์โควิด-19 ที่ยังดำเนินอยู่อย่างต่อเนื่อง ซิซซ์เล่อร์เป็นหนึ่งในธุรกิจร้านอาหารที่ได้มีการปรับการดำเนินงานให้สอดคล้องกับสถานการณ์และพฤติกรรมของผู้บริโภค โดยตลอดทั้ง 3 ไตรมาสปี 2564 ซิซซ์เล่อร์มียอดเดลิเวอรี่มีการเติบโตสูงขึ้นเป็นอย่างมาก อีกทั้งหลังคลายล็อคดาวน์เมื่อเดือนกันยายนจำนวนผู้บริโภคกลับมาใช้บริการที่ร้านเพิ่มมากขึ้นต่อเนื่อง ประกอบกับการเปิดตัวเมนูใหม่จะทำให้ภาพรวมถึงสิ้นปีจะมีการเติบโตราว 20%

 

ทั้งนี้กลยุทธ์หลักของซิซซ์เล่อร์คือการรังสรรค์เมนูใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี เพื่อมอบความหลากหลายในการรับประทานอาหารของผู้บริโภค ควบคู่ไปกับสลัดบาร์ที่มีคุณภาพอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ ตลอดจนบรรยากาศของร้านที่เหมาะสำหรับผู้บริโภคทุกเพศทุกวัย  รวมทั้งยังคงเดินหน้าขยายสาขาทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด เพื่อรองรับตลาดผู้บริโภคให้ครอบคลุมมากที่สุด โดยภายในสิ้นปี 2564 เตรียมเปิดสาขาเพิ่มเติมไม่ว่าจะเป็น เดอะมอลล์ ท่าพระ เซ็นทรัล ศรีราชา โรบินสัน สระบุรี โรบินสัน ฉะเชิงเทรา และโรบินสัน ศรีสมาน ให้บริการครอบคลุมทั้งการนั่งรับประทานที่ร้าน เดลิเวอรี่ และสั่งกลับบ้าน ในขณะเดียวกันมีสร้าง “ซิซซ์เล่อร์คลาวด์คิทเช่น” (Sizzler Cloud Kitchen) หลายแห่ง อาทิ มหาวิทยาลัยเกษตร ประชาอุทิศ สุขาภิบาล 3 และดอนเมือง เพื่ออำนวยความสะดวกลูกค้าให้สามารถได้รับอาหารได้อย่างรวดเร็วขึ้น

“ปัจจุบันซิซซ์เล่อร์ได้เปิดให้บริการทั้งนั่งรับประทานในร้าน แบบเดลิเวอรี่ และสั่งกลับบ้าน ทั้งหมด 53 สาขาทั่วประเทศ รวมถึงซิซซ์เล่อร์ ทู โก 2 สาขา ได้แก่ เซ็นทรัลเวิลด์ และโรงพยาบาลกรุงเทพ พร้อมกันนี้คาดการ์ณว่าในช่วงระยะเวลาที่เหลือของปี 2564 หากไม่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 รอบใหม่ มั่นใจว่าสถานการณ์ของร้านอาหารจะกลับมาเปิดให้บริการเต็มรูปแบบกันมากขึ้น และมีอัตราการเติบโตดีขึ้นตามลำดับ” 

 

ด้าน นางนงชนก สถานานนท์ ผู้ช่วยรองประธานบริหาร กลุ่มการตลาด บริษัท เอสแอลอาร์ที จำกัด ใน เครือ เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการร้านอาหารภายใต้แบรนด์ ซิซซ์เล่อร์ กล่าวว่า หลังจากภาครัฐได้คลายล็อคดาวน์ทำให้ร้านอาหารกลับมาเปิดบริการได้เป็นปกติ อีกทั้งเป็นช่วงปลายปีที่ถือเป็นเทศกาลแห่งความสุขของใครหลาย ๆ คน ซิซซ์เล่อร์ในฐานะร้านอาหารที่มีจุดเด่นด้านการนั่งรับประทานที่ร้าน รวมถึงบริการและอาหารที่มีคุณภาพ จึงได้เปิดตัวเมนู “อ็อกโทเบอร์เฟสต์” (Oktoberfest) ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเทศกาลอาหารและเครื่องดื่มที่มีชื่อเสียงที่สุดของประเทศเยอรมนีและเป็นเทศกาลที่ใหญ่ที่สุดของโลกที่มักจะจัดขึ้นในระหว่างช่วงเดือนกันยายนถึงตุลาคมของทุกปี โดยซิซซ์เล่อร์ได้รังสรรค์เมนูดังกล่าวขึ้นเพื่อมอบประสบการณ์ในการรับประทานอาหารที่ดีที่สุดแก่ผู้บริโภคทุกกลุ่มในทุกสถานการณ์ โดยไม่ต้องบินไปไกลถึงต้นกำเนิดก็สามารถลิ้มลองรสชาติของอาหารสไตล์เยอรมันแท้ ๆ และร่วมเป็นส่วนหนึ่งในบรรยากาศแห่งการเฉลิมฉลองความสุขของเทศกาลดังกล่าวได้ โดยตั้งเป้าเมนูอ็อกโทเบอร์เฟสต์จะสามารถกระตุ้นยอดขายได้ 20% และเสริมการเติบโตภาพรวมยอดขายในไตรมาสสุดท้ายของปีได้เป็นอย่างดี

สำหรับ “อ็อกโทเบอร์เฟสต์” (Oktoberfest) ประกอบไปด้วยอาหาร 5 เมนู 5 สไตล์ด้วยกัน เริ่มต้นที่อาหารจานหลักขึ้นชื่อของเยอรมนีที่ทุกคนรู้จักกันดี ได้แก่ “ขาหมูทอดและไส้กรอกสไตล์เยอรมัน” (Pork Knuckle & Mixed Sausages) ขาหมูชิ้นใหญ่ทอดกรอบมาพร้อมไส้กรอกเยอรมัน สามารถแบ่งทานได้ เสิร์ฟพร้อมสลัดบาร์ 2 ท่านในราคา 799 บาท ตามมาด้วยเมนู “ฟิชแอนด์ชิปส์ ผสมเบียร์ สไตล์เยอรมัน” (Beer Battered Fish & Chips) เนื้อปลาชุบแป้งผสมเบียร์ทอดสไตล์เยอรมัน เสิร์ฟความอร่อยคู่กับเฟรนช์ฟรายส์ในราคา 299 บาท ส่วนใครชื่นชอบทานไส้กรอกอย่างเดียวต้องไม่พลาดเมนู “ไส้กรอกรวม สไตล์เยอรมัน” (Mixed Sausages & Roasted Potatoes with Bacon) ไส้กรอกเยอรมันนำเข้าชิ้นโตหลากหลายรสชาติ เสิร์ฟพร้อมสลัดมันฝรั่งสุดอร่อยที่เพิ่มความกรุบกรอบด้วยเบคอนกรอบ ในราคา 459 บาท หากใครที่อยากทานสเต๊กก็มีเมนู “สเต๊กหมูทอด สไตล์เยอรมัน” (Pork Schnitzel) สเต๊กหมูชิ้นใหญ่สุดชุ่มฉ่ำที่ถูกนำไปทอดกรอบ เพิ่มรสชาติด้วยซอสสูตรเฉพาะซิซซ์เล่อร์และเห็ด ในราคา 369 บาท และเมนูทานเล่น “ยำไส้กรอกเยอรมัน” (Mixed Sausages Spicy Salad) ไส้กรอกเยอรมันที่ถูกนำมาผสมผสานกับยำในสไตล์ไทย ๆ ให้รสชาติเข้มข้นถึงใจให้ได้ทานรองท้องระหว่างรออาหารจานหลักมาเสิร์ฟในราคา 199 บาท