เคทีซี ยุคไฮบริด ผสาน ESG ดันองค์กรสร้างนิวไฮ

20 พ.ย. 2564 | 08:48 น.

การเปลี่ยนขององค์กรธุรกิจที่เห็นอยู่ในปัจจุบัน ไม่ใช่แค่การถูกเทคโนโลยีดิสรัป หากแต่โควิด-19 ก็เข้ามาดิสรัปซ้ำ ทำให้ทั้งคนและองค์กรต้องเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วหนักขึ้นไปอีก

ระเฑียร ศรีมงคล” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บัตรกรุงไทย (KTC) บอกเลยว่า คนของเคทีซีปรับเปลี่ยนตัวเองมานาน และยังทำต่อเนื่องตลอดเวลา จึงทำให้เคทีซียืนอยู่ได้ในทุกวันนี้

เคทีซี ยุคไฮบริด ผสาน ESG ดันองค์กรสร้างนิวไฮ

“ความก้าวหน้าขององค์กร ไม่ได้ขึ้นอยู่ที่ผู้นำเพียงคนเดียว แต่ขึ้นอยู่กับพนักงานทุกๆ คน ที่ก้าวเดินไปสู่จุดหมายเดียวกัน ด้วยความเข้าใจ”…

โควิดทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงเร็วมาก โดยเฉพาะเทคโนโลยีที่เปลี่ยนเร็วและมีความสมบูรณ์มากกว่าอดีตเยอะการนำเทคโนโลยีมาใช้จึงเกิดเยอะ และทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางด้านกลยุทธ์ของหลายๆ องค์กร โดยเฉพาะการนำ ESG กรอบการดำเนินธุรกิจที่คำนึงถึง สิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (Environmental, Social, and Governance) ภายใต้กรอบเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน SDGs (Sustainable Development Goals) เข้ามาใช้

เคทีซี ยุคไฮบริด ผสาน ESG ดันองค์กรสร้างนิวไฮ

“ระเฑียร” เล่าว่า ในโมเดลของ SDGs เคทีซีทำ Digitalize องค์กรค่อนข้างมาก เราเป็นองค์กรที่ใช้กระดาษน้อยลงไปเรื่อยๆ ทำธุรกรรมหลายๆ อย่างบนแอปพลิเคชั่น เราเป็น Mobile Base เยอะมาก

ส่วนบริหารงานในยุคของการเปลี่ยนแปลง ซีอีโอท่านนี้ ย้ำเลยว่า “คน” คือสิ่งสำคัญที่สุด คนของเคทีซีถูกเทรนด์มาตลอด ทำให้มีความพร้อมที่จะวิเคราะห์ว่า ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น จะมีผลกระทบกับองค์กรอย่างไร เพื่อหาแนวทางแก้ไข ในขณะที่ผู้บริหาร คือผู้กำหนดกลยุทธ์ให้ชัดเจน และสื่อสารให้พนักงานทุกคนรับทราบ เพื่อการทรานส์ฟอร์มรับมือกับผลกระทบที่จะเกิดขึ้น โดยการทรานส์ฟอร์มธุรกิจของเคทีซีมี 2 มิติ

 

เรื่องแรก คือ Performance Based หรือการยึดถือผลงานเป็นหลัก โดยต้องดูว่าประสิทธิภาพของแต่ละคนเป็นอย่างไร และมีพัฒนาต่อยอด ซึ่งดิจิทัลเทคโนโลยีเข้ามาช่วยเสริมเรื่องนี้ได้ดีมาก อีกมิติ คือ Portfolio based ที่มีการทำมากขึ้นเรื่อยๆ เป็นเรื่องของการจัดสรรทรัพยากร (resource allocation) ที่ต้องให้ความสำคัญมากขึ้น ด้วยการดูว่าเราจะปรับเปลี่ยนตัวเองอย่างไร โดยเคทีซีกำลังจะประกาศทิศทางกลยุทธ์ปีหน้าเร็วๆ นี้ 

เคทีซี ยุคไฮบริด ผสาน ESG ดันองค์กรสร้างนิวไฮ

การบริหารคน คือ การสร้างวัฒนธรรมในองค์กร ให้ทุกคนมีสิ่งยึดมั่นแบบเดียวกัน ปฏิบัติตนแบบเดียวกัน เชื่อถือใน core value เดียวกัน เคทีซีให้ความสำคัญกับเรื่องของความเท่าเทียม (equality) ทุกคนทุกเพศสามารถก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่งได้อย่างเท่าเทียม ไม่มีการแบ่งแยก เคทีซีทำเรื่องเหล่านี้มาตลอด และเมื่อองค์กรเดินหน้าสู่โลกยุคใหม่ เคทีซีได้ผนวกเรื่องของ ESG และ SDGs เข้าสู่กระบวนการทำงาน ด้วยการสื่อสาร ปลูกฝังและทำความเข้าใจกับพนักงานอย่างเท่าเทียม เพราะธุรกิจจะเดินหน้าทำกำไรอย่างเดียวไม่ได้ สังคม สิ่งแวดล้อม และธรรมาภิบาล ต้องเดินไปพร้อมๆ กัน 

 

“ระเฑียร” เน้นว่า ต้องพยายามสื่อสารให้กับพนักงานของเราเข้าใจ เกิดความเชื่อมั่น และนำไปปฏิบัติ ซึ่งนี่คือเรื่องที่ยากและเป็นความท้าทายของผู้นำ รวมถึงการสร้างทาเลนต์ภายในองค์กรให้เพิ่มขึ้น จากปัจจุบันที่มีอยู่ไม่ถึง100 คน ให้เพิ่มเป็น 150 คน จากพนักงานทั้งองค์กร 1,500-2,000 คน

การขับเคลื่อนของเคทีซี ภายใต้การบริหารของ “ระเฑียร” กำลังขับเคลื่อนสู่เป้าหมายที่เขาได้วางไว้ เคทีซีเริ่มต้นจากธุรกิจบัตรเครดิตส่วนเชื่อบุคคลที่ไม่มีหลักประกัน ประมาณ 2 ปีที่ผ่านมา เคทีซีเริ่มเข้าสู่สินเชื่อที่มีหลักประกัน นั่นคือการเปลี่ยนแปลงที่มีนัยยะและมีประสิทธิผลค่อนข้างมาก เพื่อเดินหน้าสู่เป้าหมายของบัตรเครดิต ที่เป็น Default Card คือ คุณนึกอะไรไม่ออก ก็หยิบบัตรเคทีซีขึ้นมา เพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคุณ ส่วนของธุรกิจอื่น ก็ใกล้เคียงกัน คือ ต้องตอบโจทย์ลูกค้า เพื่อตอบสนองกับความต้องการและ pain point ของเขาให้ได้

 

“ระเฑียร” อธิบายอีกว่า เดิมเคทีซีให้ความสำคัญกับกำไรสูงสุดเป็นหลักเพียงอย่างเดียว แต่ปัจจุบันเคทีซีผนวกเรื่อง ESG ผ่าน SDGs สิ่งที่เคทีซีทำ ไม่ได้แค่ประโยชน์ขององค์กรเท่านั้น แต่ต้องเป็นประโยชน์กับลูกค้า และผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นสังคม สิ่งแวดล้อม และธรรมาภิบาล เพื่อนำพาองค์กรสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน 

 

“เราไม่ได้ต้องขับเคลื่อนกำไรให้มันสูงมาก จนทำให้เกิดปัญหา ในอนาคต สิ่งที่เราทำตอนนี้ คือ เราทำให้มันค่อยๆ โต ที่ผ่านมาเราโตทุกปี ยกเว้นปีที่แล้วเราไม่โต แต่ปีนี้เราปรับตัวได้ จากการถูกเทรนด์มาให้รับกับความเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เราจะกลับมาทำนิวไฮอีกครั้ง โดยสปิริตและจิตวิญญาณของ ESG และ SDGs เคทีซีจะเดินไปในทิศทางนั้น”

 

ตลอดระยะเวลา ที่นั่งบริหารงานในเคทีซี ความภูมิใจของซีอีโอท่านนี้ คือ พนักงานเคทีซี ที่มีความเป็นตัวของตัวเองสูง เขาใช้หลักการบริหาร Diversity คือการสื่อสาร พูดคุยทำความเข้าใจ พร้อมกำหนดทิศทางและเป้าหมายที่ชัดเจน โดยให้อิสระในการเดินสู่จุดหมายของทีมงาน ผู้นำมีหน้าที่คอยให้คำแนะนำ หากเห็นว่า ถ้าปล่อยไปแบบนี้เขาจะเดินออกนอนกเส้นทางหรือไม่ถึงจุดหมายแน่นอน 

 

“เราต้องเปิดให้แต่ละคนเลือกวิธีการของเขาเอง โดยต้องบอก วัน ว. เวลา น. เจอกันที่ตรงไหน ใครจะออกก่อนออกหลังไม่เป็นไร แต่สุดท้ายต้องเจอกันที่จุดนี้...อันนี้ต่างหาก คือ วิธีการทำงานที่ถูกต้อง ไม่ใช่มานั่งบอกว่า เดินไปข้างหน้า 7 ก้าว แล้วชิดขวา แล้วเดินไปที่...นั่นไม่ใช่วิธีการทำงานที่ดี และไม่ใช่วิธีการของเคทีซี”

 

หน้า 16-17 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 41 ฉบับที่ 3,732 วันที่ 18 - 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564