นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการดำเนินการ โอนย้ายสนามบินในสังกัด กรมท่าอากาศยาน (ทย.) มาอยู่ในความรับผิดชอบของ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) ว่า จากที่กระทรวงคมนาคมได้มีการหาแนวทางร่วมกันกับ กรมท่าอากาศยาน กรมธนารักษ์ (ธร.) และ ทอท.ล่าสุด กระทรวงคมนาคมได้ข้อสรุปการโอนย้ายสนามบินภูมิภาคจำนวน 3 สนามบินประกอบด้วย สนามบินอุดรธานี สนามบินกระบี่ และสนามบินบุรีรัมย์ ให้มาอยู่ในความรับผิดชอบ ทอท. โดยการโอนย้ายดังกล่าวจะมีการดำเนินการตามขั้นตอนและสำเร็จเป็นรูปธรรมภายใน 1 มกราคม 2565 นี้แน่นอน
แนวทางการดำเนินการเพื่อโอนย้ายสนามบินทั้ง 3 แห่งนั้น ทางกรมธนารักษ์ จะคิดค่าผลประโยชน์ตอบแทน ค่าที่ดินในอัตราที่ ทอท. เคยจ่ายให้ในอัตราเดียวกับ 6 สนามบินที่ ทอท.จ่ายอยู่ในปัจจุบันโดยกรมธนารักษ์ จะเข้ามาทำสัญญาโดยตรงกับ ทอท.ในการเข้ามาบริหารทั้ง 3 สนามบิน จากเดิมทาง ทย. เป็นผู้ทำสัญญากับกรมธนารักษ์ และสัญญาที่จะเซ็นเพื่อให้ ทอท.เข้ามาบริหารสนามบินจะเป็นสัญญาระยะยาว คาดว่า 30 ปี จากเดิมเป็นสัญญาต่อทีละ 3 ปี ซึ่งในระยะแรกจะมีการโอนย้ายการดำเนินการใน 2 สนามบินก่อน คือ สนามบินอุดรธานี และสนามบินบุรีรัมย์ ส่วนระยะต่อมาก็จะมีการโอนย้ายสนามบินกระบี่มาอยู่ในความรับผิดชอบของทอท.
ในส่วนของ ทย.ที่จะโอนสนามบินทั้ง 3 แห่งมาอยู่ในความรับผิดชอบ ทอท. นั้น ทอท.จะต้องจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนให้กับ ทย. แม้ผลตอบแทนที่ ทอท. จะจ่ายให้ ทย. จะไม่มีประเด็นใดในเชิงการเงิน แต่เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับ ทย.เนื่องจากสนามบินที่โอนมามีศักยภาพมาก และที่ผ่านมาสร้างรายได้ให้กับ ทย. ดังนั้น ทอท.จึงต้องมีการหารือต่อในประเด็นกระบวนการจ่ายเงิน ว่าจะเป็นไปในรูปแบบใดบ้าง
โดยในเบื้องต้นทอท.ได้กำหนดไว้ 2 รูปแบบคือ 1. มีการทำประมาณการผู้โดยสารตลอดอายุสัญญาและจ่ายผลตอบแทนให้ ทย.เป็นก้อนเดียว และ 2. ทอท.กำหนดจ่ายผลตอบแทนตามจริงต่อรายหัวผู้โดยสาร ให้กับ ทย.ซึ่งในเรื่องนี้ ทาง ทย. จะทำการศึกษาข้อกฎหมายของกองทุนฯ ที่เกี่ยวข้องเพื่อนำมากำหนดรูปแบบการจ่ายที่เหมาะสมให้เข้ามาที่เงินทุนหมุนเวียนกรมท่าอากาศยานต่อไป