กบร.สั่งกพท.ทำโรดแมปอุ้มสายการบินประสานซอฟท์โลนฟื้นฟูการบินรอดตายโควิด

11 ส.ค. 2564 | 19:13 น.
อัปเดตล่าสุด :12 ส.ค. 2564 | 22:53 น.

กบร.ติดตามผลการดำเนินงานด้านการบิน เน้นย้ำการเตรียมแนวทางฟื้นฟูการบินทั้งในระยะสั้นและแผนพัฒนาระยะยาวสั่งกพท.ทำโรดแมปอุ้มสายการบินประสานซอฟต์โลนผ่านวิกฤตโควิดฟื้นฟูการบินของไทย

ที่ประชุมคณะกรรมการการบินพลเรือน (กบร.) ครั้งที่ 8/2564 นำโดยนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในฐานะประธานกรรมการการบินพลเรือน ติดตามผลการดำเนินงานโดยเฉพาะการเตรียมความพร้อมด้านการบินของประเทศในระยะสั้นเพื่อรองรับการฟื้นตัวกลับเข้าสู่ภาวะปกติและแผนระยะยาวเพื่อพัฒนาระบบการบินของไทยมุ่งสู่ความเป็นศูนย์กลางทางการบิน

 

ประธาน กบร. ได้ติดตามความคืบหน้าแผนงานที่เป็นรูปธรรมสำหรับประเทศไทยในการเตรียมความพร้อมรองรับให้อุตสาหกรรมการบินกลับมาเป็นปกติในช่วง 2 – 4 ปีข้างหน้า

 

ตามข้อมูลการคาดการณ์ของสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) เพื่อวางแผนระยะสั้นและแผนระยะยาวให้ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมการบินสามารถเตรียมพร้อมรับโอกาสทางเศรษฐกิจเมื่อการบินกลับมาเป็นปกติได้ทัน การเดินหน้าพัฒนาระบบการบินทุกมิติเพื่อให้ไทยสามารถรักษาสถานะความเป็นศูนย์กลางการขนส่งทางอากาศของภูมิภาคและพร้อมเป็นศูนย์กลางสำคัญของโลกในระยะยาว

การดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 กบร. ยังคงตรึงนโยบายให้ความช่วยเหลือสายการบินในช่วงวิกฤต COVID-19 ต่อไปอีกจนถึงสิ้นปี 2564 และคาดว่าจะขยายมาตรการช่วยเหลือต่อไปอีกหากสถานการณ์ยังไม่ฟื้นตัวในปี 2565

 

สำหรับการประชุมในวันนี้ ประธาน กบร. ได้สั่งการให้สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (CAAT)หรือ กพท. รวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลผลกระทบต่อโครงสร้างทางเศรษฐกิจของประเทศที่อาจเกิดขึ้น จากกรณีที่สายการบินประสบสภาวะวิกฤตและยังไม่ได้รับความช่วยเหลืออย่างเพียงพอจนบางรายอาจไม่สามารถประคับประคองให้ดำเนินธุรกิจต่อไปได้

 

จึงให้ CAAT เป็นเจ้าภาพดำเนินการโดยร่วมกับสายการบินจัดทำรายงานการวิเคราะห์และความจำเป็นที่สายการบินจะต้องได้รับความช่วยเหลือทางการเงินอย่างเร่งด่วน

 

โดยเฉพาะวงเงินกู้อัตราดอกเบี้ยต่ำ (ซอฟต์โลน) ที่สายการบินร้องขอความช่วยเหลือในขณะนี้ รวมถึงการหารือร่วมกับผู้ประกอบการทุกภาคส่วนเพื่อปรับตัวให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันให้มากที่สุด

 

CAAT รายงานว่าภายในเดือนสิงหาคมนี้จะเป็นเจ้าภาพร่วมกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในอุตสาหกรรมการบินหารือครั้งใหญ่เพื่อรับฟังปัญหา จัดทำแนวทางกำหนด Roadmap และเป้าหมายอย่างเป็นรูปธรรม

 

เพื่อช่วยให้อุตสาหกรรมการบินของไทยผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปได้ และเตรียมความพร้อมด้านการบินของประเทศทั้งระยะสั้นและระยะยาวร่วมกันเพื่อรองรับการฟื้นตัวกลับเข้าสู่ภาวะการบินที่ปกติ

 

ด้านการติดตามผลการประเมินสถานการณ์สำหรับภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ กบร. สั่งการเน้นย้ำการให้ความสำคัญในการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นกับ     ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ และให้ CAAT วางแผนจัดทำมาตรการด้านการบินที่รัดกุมไปพร้อมกับการอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยว เพื่อรองรับหากเกิดการขยายโครงการแซนด์บ็อกซ์ไปยังจังหวัดอื่น ๆ

 

โดยให้ถอดบทเรียนที่เกิดขึ้นจากภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ทั้งนี้ CAAT ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผู้ประกอบการและจังหวัดต่าง ๆ จะประชุมหารือในเดือนสิงหาคมนี้เพื่อประเมินผลการดำเนินงานและการจัดการด้านการบินที่เกี่ยวข้องอีกครั้ง หลังมีการขยายพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (พื้นที่สีแดงเข้ม) ครอบคลุม 29 จังหวัด

การติดตามงานด้านอื่น ๆ ที่สำคัญ ดังนี้

 

(1) สำหรับความคืบหน้าการเปิดใช้สนามบินเบตง ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบมาตรฐานการรักษาความปลอดภัยและการจัดตั้งเครื่องอำนวยความสะดวกสำหรับสนามบิน

 

หากตรวจสอบแล้วพบว่าไม่มีข้อบกพร่องที่มีนัยสำคัญและสนามบินได้รับอนุมัติ/อนุญาตในเรื่องที่เกี่ยวข้องสมบูรณ์แล้ว คาดว่า CAAT จะพิจารณาออกใบรับรองสนามบินสาธารณะให้สนามบินเบตงได้ในเดือนกันยายน 2564

 

เบื้องต้นมีสายการบินนกแอร์ที่เสนอแผนทำการบินแบบเช่าเหมาลำแล้วและอาจจะเริ่มทำการบินเมื่อสนามบินเปิดใช้งาน โดยเป็นเที่ยวบินเชื่อมต่อจากสนามบินหาดใหญ่และเที่ยวบินตรงจากกรุงเทพมหานคร

 

ทั้งนี้ กบร. ได้เน้นย้ำให้ CAAT และสายการบินที่สนใจ ศึกษา วางแผนความต้องการเดินทางของผู้โดยสารในเส้นทางที่จะใช้สนามบินเบตงอย่างรัดกุม เพื่อให้สนามบินสามารถมีจำนวนผู้ใช้บริการตามเป้าหมายและประกอบกิจการได้ในระยะยาว  

 

(2) กบร. ยังได้ติดตามและเร่งรัดให้ CAAT เร่งดำเนินการเพื่อจัดทำหลักเกณฑ์การอนุญาตโดรนขนาดใหญ่ (น้ำหนักเกิน 25 กิโลกรัมขึ้นไป) ที่มีวัตถุประสงค์การใช้งานเพื่อการเกษตรซึ่งเริ่มมีผู้ยื่นขออนุญาตเข้ามาเป็นจำนวนมาก

 

ได้รับรายงานว่าขณะนี้ได้ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้วและเตรียมนำเสนอตามขั้นตอน คาดว่า กบร. จะสามารถพิจารณาให้ความเห็นชอบได้ภายในการประชุมครั้งหน้า (เดือนกันยายน 2564)  

 

(3) CAAT ได้รายงานความคืบหน้าในการพัฒนางานด้านการบริหารข่าวสารการบินของประเทศเพื่อก้าวเข้าสู่ระบบการบริหารข่าวสารการบินที่เชื่อมโยงกับระบบข้อมูลข่าวสารการบินได้ทั้งระบบทั่วโลก (SWIM หรือ System-Wide Information Management) ซึ่งจะทำให้ระบบการเดินอากาศของประเทศไทยพัฒนาไปอีกขั้นตามแผนการเดินอากาศสากลของ ICAO และของภูมิภาค

 

ทั้งนี้ อยู่ระหว่างการเปิดให้นิติบุคคลเข้ายื่นขอรับการรับรองเป็นผู้ให้บริการข่าวสารการบิน (Aeronautical Information Service Provider) แทน CAAT พร้อมการเตรียมการด้านอื่น ๆ เพื่อยกระดับงานข่าวสารการบินของไทยให้เป็นระบบดิจิทัลทั้งหมดสำหรับรองรับการพัฒนาระบบการเดินอากาศของประเทศในอนาคตอันใกล้