ไทยยูเนี่ยนโชว์กำไรสุทธิ Q1 กว่า 1.8 พันล้าน

10 พ.ค. 2564 | 13:21 น.

ไทยยูเนี่ยนโชว์ผลงานไตรมาสแรกทำกำไรสุทธิ 1,803 ล้านบาท โตกว่า 77% จากการขยายตัวของธุรกิจอาหารทะเลแช่แข็งและธุรกิจผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยงและผลิตภัณฑ์เพิ่มมูลค่า

บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TU รายงานผลประกอบการในไตรมาสแรกของปี 2564 มีผลกำไรสุทธิ 1,803 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้น 77% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวของปีก่อน ขณะที่มียอดขายคงที่อยู่ที่ระดับ 31,125 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเพียง 0.1% ทั้งนี้ผลกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นจากธุรกิจอาหารทะเลแช่แข็งฟื้นตัว โดยเฉพาะในตลาดสหรัฐอเมริกา และธุรกิจผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยงและผลิตภัณฑ์เพิ่มมูลค่า ประกอบกับการบริหารจัดการต้นทุนที่ดีและได้รับผลดีจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา

นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า สิ่งที่สำคัญที่ทำให้บริษัทสามารถฟันฝ่าสถานการณ์การแพร่ระบาดที่เกิดขึ้นทั่วโลกมาได้คือความสามารถในการยืนหยัดและปรับตัว โดยผู้บริหารและพนักงานของไทยยูเนี่ยนทุกคนทำงานหนักเพื่อดูแลให้ธุรกิจดำเนินได้อย่างต่อเนื่อง โดยมี 15 แบรนด์สินค้า จากฐานการผลิต 14 แห่ง สำนักงานอีก 10 แห่ง ใน 16 ประเทศทั่วโลก

ดังนั้นหัวใจสำคัญคือความสามารถที่จะปรับตัวได้อย่างทันท่วงทีเมื่อสถานการณ์เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว  และไม่ใช่เพื่อให้ธุรกิจดำเนินได้อย่างต่อเนื่องเท่านั้น แต่จะต้องสามารถเติบโตได้อีกด้วย  และสิ่งเหล่านี้ทำให้ทุกคนเกิดความเชื่อมั่น ตั้งแต่พนักงานของบริษัทฯ คู่ค้า ไปจนถึงผู้บริโภคว่าไทยยูเนี่ยนมีความสามารถที่จะตอบโจทย์ทุกฝ่ายได้ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใดก็ตาม

ไทยยูเนี่ยนโชว์กำไรสุทธิ Q1 กว่า 1.8 พันล้าน

ทั้งนี้ในไตรมาสแรกปี 2564 ธุรกิจอาหารแช่แข็งฟื้นตัว โดยยอดขายอยู่ที่ 12,076 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.3% และทำผลงานได้ดีในตลาดสหรัฐอเมริกา ซึ่งภาคธุรกิจบริการอาหารมีการปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้นมาก โดยสหรัฐอเมริกายังเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดในธุรกิจของไทยยูเนี่ยน

ขณะที่ธุรกิจผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยงและผลิตภัณฑ์เพิ่มมูลค่าคืออีกหนึ่งปัจจัยสำคัญในไตรมาสแรก โดยมียอดขายอยู่ที่ 5,469 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้นถึง 20.8% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า  และถึงแม้ว่าธุรกิจอาหารทะเลบรรจุกระป๋องจะมียอดขายอยู่ที่ 13,580 ล้านบาท ลดลง 13.1%  เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกของปี 2563 ที่ผู้บริโภคมีการจับจ่ายอาหารกระป๋องในช่วงเริ่มแรกของการแพร่ระบาด แต่ถ้าหากเทียบกับไตรมาสแรกของปี 2562 ซึ่งเป็นปีก่อนจะเกิดการแพร่ระบาดโควิด-19 จะเห็นได้ว่ายอดขายไตรมาสแรกของปีนี้ยังเพิ่มขึ้นถึง 0.9%เ

ไทยยูเนี่ยนยังคงเดินหน้าธุรกิจด้วยนวัตกรรมอย่างต่อเนื่องเพื่อตอบโจทย์เป้าหมายของบริษัทในการสร้างสุขภาพที่ดีให้กับผู้คนควบคู่ไปกับการดูแลความอุดมสมบูรณ์ของท้องทะเล ในไตรมาสแรกของปีบริษัทได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์โปรตีนทางเลือกภายใต้แบรนด์ OMG Meat ในประเทศไทย รวมถึงผลิตภัณฑ์ส่วนประกอบอาหารภายใต้แบรนด์ ยูนีกโบน ผงแคลเซียมจากกระดูกปลาทูน่า

ในไตรมาสเดียวกันนี้ บริษัทฯ ยังได้จับมือกับองค์กรอนุรักษ์ธรรมชาติระดับโลก The Nature Conservancy ในการทำงานด้านความโปร่งใสของห่วงโซ่อุปทานในการจัดหาปลาทูน่าทั่วโลก เพื่อตรวจสอบการทำประมงที่ผิดกฎหมาย ขาดการรายงานและไร้การควบคุม นอกจากนี้บริษัทฯ ยังได้เข้าร่วมในโครงการ Ocean Disclosure ที่ส่งเสริมด้านความโปร่งใสในอุตสาหกรรมอาหารทะเลโลก โดยบริษัทเอกชนที่ประกอบธุรกิจอาหารทะเลสามารถแสดงข้อมูลการจัดหาอาหารทะเลต่อสาธารณชนได้เพื่อความโปร่งใส

บริษัทฯ ยังได้จัดหาแหล่งเงินกู้ที่เชื่อมโยงกับการดำเนินงานด้านความยั่งยืนเป็นครั้งแรก ทั้งในประเทศไทยและประเทศญี่ปุ่น ซึ่งนับเป็นอีกก้าวสำคัญสู่การเป็น Blue Finance หรือการบริหารการเงินที่เกี่ยวข้องกับโครงการอนุรักษ์มหาสมุทร

เมื่อต้นปี 2564 บริษัทฯ ยังได้ประกาศลงทุนในบริษัท บลูนาลู สตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีอาหารจากแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นผู้นำในการพัฒนาโปรตีนอาหารทะเลจากเซลล์เพาะเลี้ยงที่ได้รสชาติ เนื้อสัมผัสและมีคุณค่าทางโภชนาการเทียบเท่าอาหารทะเล

นอกจากนี้บริษัทฯ ยังเดินหน้าให้ความช่วยเหลือชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง ในไตรมาสแรกนี้ไทยยูเนี่ยนได้บริจาคอาหารแมวมากกว่า 40,000 ชุดให้กับองค์กรต่างๆ ในประเทศไทย และยังดูแลพื้นที่สมุทรสาคร โดยบริจาคอาหารมากกว่า 30,000 ชุด ตลอดจนพัดลม 500 เครื่องและชุดปลั๊กพ่วงอีก 250 ชุดให้กับโรงพยาบาลเพื่อดูแลผู้ป่วยโควิด-19

“บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายในการสร้างสุขภาพที่ดีให้กับผู้คนควบคู่ไปกับการดูแลความอุดมสมบูรณ์ของท้องทะเล  เราจึงให้ความสำคัญกับการผลิตสินค้าที่มีคุณภาพ ถูกต้องตามหลักโภชนาการ และในขณะเดียวกับเราก็ยังดูแลในเรื่องของสิ่งแวดล้อมเพื่อให้คนรุ่นต่อไปยังมีทรัพยากรทางทะเลที่อุดมสมบูรณ์  เราเชื่อว่านี่คือวิถีทางในการสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค คู่ค้าและทุกฝ่ายในห่วงโซ่อุปทาน และไทยยูเนี่ยนจะยังเดินหน้าธุรกิจต่อไปอย่างมั่นคง” นายธีรพงศ์ กล่าวทิ้งท้าย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

“ไทยยูเนี่ยน”เปิดตัวกลุ่มน้ำมันปลาทูน่า พร้อมลุยตลาดทั่วโลก

“ไทยยูเนี่ยน”รับสมัครคนรุ่นใหม่ ปั้นเป็นผู้บริหารในอนาคต

‘ไทยยูเนี่ยน’อัด6.5พันล้านลุยอาหาร

แบงก์ไทย-ญี่ปุ่นรุมปล่อยกู้ “ไทยยูเนี่ยน” รับสินเชื่อ 1.2 หมื่นล้าน

ไทยยูเนี่ยนลงทุนในสตาร์ตอัพอเมริกา ลุยโปรตีนอาหารทะเลจากเซลล์เพาะเลี้ยง