"SME D Bank" พักชำระหนี้เงินต้นยาวถึงสิ้นปี-สินเชื่อรายเล็กวงเงิน 3 ล.ช่วยเอสเอ็มอี

10 พ.ค. 2564 | 10:50 น.
อัปเดตล่าสุด :10 พ.ค. 2564 | 17:55 น.
1.1 k

SME D Bank พักชำระหนี้เงินต้นยาวถึงสิ้นปี-สินเชื่อรายเล็กวงเงิน 3 ล.ช่วยเอสเอ็มอีสู้วิกฤติโควิด-19

นางสาวนารถนารี รัฐปัตย์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank เปิดเผยว่า ธนาคารจะดำเนินการให้สิทธิลูกค้า สามารถแจ้งความประสงค์ขอพักชำระหนี้เงินต้นได้อีกไปจนถึง 31 ธันวาคม 2564  โดยพิจารณาแนวทางช่วยเหลือตามผลกระทบของลูกค้าแต่ละราย  ซึ่งจะช่วยลดภาระทางการเงินให้กับผู้ประกอบการเอสเอ็มอี (SMEs) สามารถรักษาการจ้างงาน  และประคับประคองธุรกิจให้ผ่านปี 2564 ไปได้  เมื่อสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 (Covid-19) คลี่คลาย กิจการพร้อมกลับมาฟื้นตัวในอนาคต

ขณะที่ ภาระหนี้ที่พักชำระไว้จะนำยอดดังกล่าว ไปรวมให้ชำระในช่วงท้ายของสัญญา และในช่วงที่ผ่อนปรนนี้ ไม่ถือว่าเสียประวัติข้อมูลเครดิต ควบคู่กับ SME D Bank จัดเตรียมสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยพิเศษไว้รองรับเอสเอ็มอีทุกกลุ่ม ทั้งลูกค้าเดิม และลูกค้าใหม่ เพื่อใช้เสริมสภาพคล่อง เช่น  สินเชื่อรายเล็ก Extra Cash กู้ได้ทั้งบุคคลธรรมดา และนิติบุคคล วงเงินกู้สูงสุด 3 ล้านบาทต่อราย อัตราดอกเบี้ยเริ่มต้น 3% ต่อปีใน 2 ปีแรก

ระยะผ่อนชำระนานสูงสุด 5 ปี ปลอดชำระคืนเงินต้นสูงสุดไม่เกิน 12 เดือน ไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน กำหนดระยะเวลายื่นกู้ถึงสิ้นเดือนมิถุนายน 2564 นี้   และ “สินเชื่อเพื่อยกระดับเศรษฐกิจชุมชน”   อัตราดอกเบี้ย นิติบุคคล  2.875%ต่อปี นาน 3 ปีแรก วงเงินกู้สูงสุด 5 ล้านบาท และบุคคลธรรมดา 4.875%ต่อปี นาน 3 ปีแรก วงเงินกู้สูงสุด 2 ล้านบาท  ผ่อนนานสูงสุด  7 ปี   เป็นต้น

“ลูกค้าที่ต้องการเข้าสู่มาตรการพักชำระหนี้เงินต้น และแจ้งความประสงค์ขอสินเชื่อเสริมสภาพคล่อง สามารถติดต่อได้ที่สาขาของ SME D Bank ทั่วประเทศ รวมถึง เพื่อความสะดวก และลดความเสี่ยงจากการเดินทาง  สามารถแจ้งผ่านช่องทางออนไลน์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง เช่น เว็บไซต์ของธนาคาร  https://www.smebank.co.th/  , แอปพลิเคชัน SME D Bank”

มาตรการจาก SME D Bank ช่วยเอสเอ็มอี
              นางสาวนารถนารี กล่าวต่ออีกว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19   ธนาคารดำเนินการเชิงรุกช่วยเหลือลูกค้าด้านลดภาระชำระหนี้ต่อเนื่อง โดยตั้งแต่ก่อนกลางปีที่แล้ว (2563)  ได้ส่งเจ้าหน้าที่สาขา ติดต่อสอบถาม และตรวจเยี่ยมกิจการลูกค้าทุกกลุ่มทั่วประเทศ  ทั้งรายที่ยังมีศักยภาพชำระหนี้ได้ตามปกติ และรายที่ได้รับผลกระทบแล้ว เพื่อแนะนำและพาเข้าสู่มาตรการช่วยเหลือได้เหมาะสม รวมถึง นำเทคโนโลยีการรับส่งเอกสารผ่านออนไลน์มาใช้ ช่วยลดการเดินทาง สร้างความสะดวกปลอดภัยแก่ลูกค้าและพนักงาน   

ทั้งนี้  ตั้งแต่หลังครบมาตรการพักชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ยอัตโนมัติ 6 เดือน เมื่อปลายปี 2563 ธนาคารได้ให้สิทธิลูกค้า พักชำระหนี้เงินต้น ได้อีก 6 เดือน หลังจากนั้น เมื่อเกิดการแพร่ระบาดระลอกใหม่ เมื่อต้นปี 2564  จึงได้ขยายสิทธิขยายระยะพักชำระหนี้เงินต้นให้อีก 6 เดือน  โดยนับเฉพาะช่วงเดือนมกราคม 2564 ถึงสิ้นเดือนเมษายน 2564 ที่ผ่านมา ช่วยเหลือลูกค้าไปแล้วประมาณ 10,000 ราย วงเงินประมาณ 17,000  ล้านบาท เมื่อรวมตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นมา ช่วยเหลือลูกค้าไปแล้วประมาณ 27,000 ราย วงเงินประมาณ 44,000  ล้านบาท

“เมื่อเกิดการแพร่ระบาดขึ้นอีกเป็นระลอกที่ 3 ธนาคารตระหนักดีถึงความเดือดร้อนของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่กำลังได้รับ  รวมถึงเป็นไปตามมติที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบมาตรการด้านการเงินเพื่อช่วยเหลือและบรรเทาผลกระทบของการแพร่ระบาดโควิด-19  ที่มอบหมายให้สถาบันการเงินเฉพาะกิจขยายระยะเวลาพักชำระเงินต้นให้แก่ลูกหนี้ตามความสมัครใจ ธนาคารจึงมีมาตรการช่วยเหลือต่อเนื่อง”  

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :