แฉ “ไอ้โม่ง” ทุบราคายาง ตัวป่วนโลก

16 พ.ย. 2563 | 13:00 น.
34.4 k

สมาคมน้ำยางข้นฯ ทัวร์ลง โวยตกเป็นแพะทุบราคายางดิ่งเหว แจงถูกใส่ร้ายโบ้ยนักเก็งกำไรตลาดล่วงหน้าตัวป่วน  สร้างดีมานด์เทียมลวงโลก ระบุโรงงานกระเป๋าแห้ง หลังแบงก์เข้มปล่อยกู้ ดิ้นขอซอฟต์โลน 4 หมื่นล้าน จาก กยท.

จากราคายางพาราในรอบ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ได้พุ่งสูงสุดในรอบ 3 ปี ไม่ว่าจะเป็นน้ำยางสดขยับสูงสุด ที่ 74.50 บาทต่อกิโลกรัม (กก.) ยางแผ่นดิบ  76.55 บาทต่อ กก. และยางแผ่นรมควัน 82.80 บาทต่อ กก. แล้วจู่ๆ ราคาก็ลดลงอย่างพรวดพราด โดยเฉลี่ยราคายางแต่ละชนิดปรับลดลงถึงปัจจุบัน 20-30 บาทต่อ กก. ทั้งเกษตรกร และราชการ ต่างฟันธงว่าเป็นพ่อค้าที่มากดและทุบราคาชาวสวนยาง โดยเฉพาะสมาคมน้ำยางข้นไทย ได้ตกเป็น “จำเลยสังคม” เพียงชั่วข้ามคืน

 

วรเทพ วงศาสุทธิกุล

 

นายวรเทพ วงศาสุทธิกุล นายกกิตติมศักดิ์ สมาคมน้ำยางข้นไทย เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า วันนี้ต้องยอมรับว่า ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงพาณิชย์ โดยอธิบดีกรมการค้าภายใน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกลุ่มผู้นำเกษตรกร ทัวร์ลงที่บริษัทน้ำยางข้นทั้งหมด ซึ่งตนอยากจะชี้แจงเรื่องราคายางพาราที่ขึ้นลงว่า ผู้ประกอบการไม่มีพลัง ไม่มีอำนาจเงิน และไม่สามารถจะรวมกลุ่มทำอะไรแบบนี้ได้ เพราะต่างคนต่างทำธุรกิจ และการซื้อขายก็ปรับขึ้น-ลงตามราคาตลาดโลก

 

 

ทั้งนี้ได้มีการพูดคุยกับนายประพันธ์ บุณยเกียรติ ประธานกรรมการการยางแห่งประเทศไทย (ประธานบอร์ด กยท.) ว่า ราคายางที่ขึ้นคาดจะเป็นช่วงระยะสั้นๆ จากความต้องการน้ำยางเพื่อใช้ในการผลิตถุงมือยางมีสูงช่วงโควิด ประกอบกับที่ผ่านมามีพายุเป็น 10 ลูก ติดต่อกัน ประเทศผู้ผลิตยางรายใหญ่ของโลกโดยเฉพาะไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย และเวียดนาม ต่างก็ได้รับผลกระทบจากพายุกันหมด ทำให้ผลผลิตยางออกมาน้อย นอกจากเจอพายุแล้ว ในส่วนของไทยยังมีปัญหาขาดแคลนแรงงานในการกรีดยาง จากแรงงานต่างด้าวกลับประเทศช่วงโควิด ดังนั้นความต้องการมีมาก ผลผลิตมีน้อยเป็นเหตุผลทำให้ราคายางพุ่งสูงขึ้น

 

 

แฉ “ไอ้โม่ง” ทุบราคายาง ตัวป่วนโลก

 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เตือน “รง.น้ำยางข้น” อย่าบีบลงถนน (มีคลิป)

ราคายางพาราดิ่งนรก "สหกรณ์" ตายเรียบ

เปิดเล่ห์ 5 เสือ ทุบราคา “ยางก้อนถ้วย” ร่วง

 

ประกอบกับเวลานี้นักเก็งกำไรมีเงินมหาศาล สหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรป พิมพ์ธนบัตรออกมาไม่มีที่ไป ก็นำไปเก็งกำไรในตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าทำให้ตลาดปั่นป่วน จากการสร้างดีมานด์เทียม พอทำกำไรได้แล้วก็ปล่อยราคาลงมา ถึงปัจจุบันคำนวณเป็นเงิน ราคายางตลาดล่วงหน้าปรับลดลงมา 20-30 บาทต่อกก. นี่คือ ข้อเท็จจริงที่ต้องยอมรับ ไทยประเทศเดียวคงไม่สามารถที่จะทำให้ราคายางขึ้นลงได้

 

“เมื่อราคากระชากขึ้นไป ผู้ผลิตถุงมือยาง ก็รับราคาและซื้อไม่ไหว ขณะที่เวลานี้การกู้เงินจากธนาคารก็ยังไม่ให้กู้เลย จะเอาเงินที่ไหนไปทำ ถ้าทำได้ทำไมจะต้องไปขอซอฟต์โลน จาก กยท.  เป็นเงินประมาณ 4 หมื่นล้าน เพื่อเสริมสภาพคล่องในการซื้อยางทั้งระบบ”

 

แฉ “ไอ้โม่ง” ทุบราคายาง ตัวป่วนโลก

 

ล่าสุดกรณีที่กระทรวงพาณิชย์ได้สั่งเช็กสต๊อกยางของผู้ประกอบการก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่การมาควบคุมราคาสินค้า เพื่อไม่ให้ผู้บริโภคใช้ของแพงเกินไป และให้โรงงานช่วยซื้อวัตถุดิบจากเกษตรกรในราคาแพงๆ โรงงานจะทำอย่างไร เพราะต้นทุนวัตถุดิบขึ้น-ลงตามกลไกตลาด จะบังคับให้ซื้อแพงขายถูก มีที่ไหนในโลก ขณะที่กลไกตลาดเป็นระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายที่ยินยอมในราคาที่ตกลงกันได้ และไทยก็ไม่ใช่เป็นประเทศที่สามารถประกาศราคายางเองได้

 

“ถ้าทำแบบนี้จะทำลายระบบการค้าของยางพาราไป ทำให้ประเทศไทยตอนนี้ซึ่งเรามีโอกาสมากจากที่เราเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ สุดท้ายอาจจะเสียตลาดให้กับประเทศเกิดใหม่ไม่ว่าจะเป็นกัมพูชา เมียนมา ลาว และเวียดนาม ที่มีการปลูกยางเพิ่มขึ้น เป็นการทำลายอุตสาหกรรมภายในของเราเอง ปัจจุบันไทยเป็นผู้ผลิตน้ำยางข้นใหญ่อันดับ 1 คิดเป็น 80% ของโลก การทุบราคายางก็เหมือนทุบหม้อข้าวตัวเอง เราไม่ทำอยู่แล้ว ขออย่าให้โรงงานน้ำยางข้นกลายเป็นแพะเลย”

 

 

หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจหน้า 9 ฉบับ 3627 วันที่ 15-18 พฤศจิกายน 2563