Jeans Never Die “แม็คกรุ๊ป” โตสวนแฟชั่น

04 ต.ค. 2563 | 13:19 น.
589

โควิด-19 ฉุด “แฟชั่น” ทรุดหนัก แต่  “Jeans Never Die”  แม็คกรุ๊ป โชว์ยอดไตรมาส 4 โตเกือบ 7%  

คงไม่แปลกใจหาก “ธุรกิจแฟชั่น” จะทรุดหนักด้วยพิษโควิด-19 เพราะเมื่อผู้บริโภคขาดความเชื่อมั่น การจับจ่ายลดลง สภาพเศรษฐกิจซบเซา การลด งด ช้อปปิ้งเสื้อผ้า แฟชั่นเพื่อกำเงินสดในกระเป๋าเป็นทางเลือกหนึ่ง  แต่สำหรับ “MC GROUP” ผลประกอบการในไตรมาส 4 (เม.ย. –มิ.ย. 2563) ที่มีการเติบโต 6.9% เป็นสิ่งยืนยันได้ว่า “Jeans Never Die

 

ชนัญญารักษ์ เพ็ชร์รัตน์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แม็คกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ “MC”  เล่าให้ฟังว่า ภาคธุรกิจกำลังโดนดิสรัปต์อย่างหนัก จาก 2 ปัจจัยคือ เทคโนโลยีดิจิทัล และโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อสังคมและเศรษฐกิจทั้งในไทยและต่างประเทศ และเปลี่ยนวิถีผู้บริโภคสู่ยุค New Normal อย่างฉับพลัน

ชนัญญารักษ์ เพ็ชร์รัตน์

ผลกระทบจากการล็อกดาวน์และมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัส ทำให้หลายธุรกิจต้องปิดตัว และปรับตัว โดยในอุตสาหกรรมเสื้อผ้าแฟชั่นและยีนส์ พบว่า ในตลาดแฟชั่นเสื้อผ้า มีการเติบโตในช่วงเดือนเม.ย. – มิ.ย. 2563 ติดลบ 5.4%  และเมื่อเปรียบเทียบตั้งแต่เดือนก.ค. 2562 – มิ.ย. 2563 พบว่า มีการเติบโตเพียง 0.7%  สวนทางกับตลาดยีนส์ ที่เดือนเม.ย. – มิ.ย. 2563 มีการเติบโต 6.9%  และเมื่อเปรียบเทียบตั้งแต่เดือนก.ค. 2562 – มิ.ย. 2563 พบว่า มีการเติบโตถึง  12.7% 

Jeans Never Die “แม็คกรุ๊ป” โตสวนแฟชั่น

แต่อย่างไรก็ดี จากการศึกษาตลาดพบว่า แฟชั่นที่ได้รับผลกระทบจะเป็นกลุ่ม "ฟาสต์แฟชั่น" ที่พบว่าทั่วโลกมีการปิดสาขาไปจำนวนมาก ขณะที่ "เบสิค แฟชั่น" เช่น ยีนส์  ผู้บริโภคยังมองว่าเป็นสิ่งจำเป็นต่อชีวิตประจำวัน สามารถสวมใส่ได้ในทุกโอกาส อีกทั้งมีความหลากหลายให้เลือก ทำให้เชื่อว่าอุตสาหกรรมเสื้อผ้าแฟชั่นและยีนส์ยังคงมีแนวโน้มการเติบโตที่ดีต่อเนื่องเฉลี่ยปีละ 3 - 5%

 

การยืนอยู่ในตลาดยีนส์มานานกว่า 45 ปี ทำให้ “แม็คกรุ๊ป” เป็นที่รู้จักและยอมรับของผู้บริโภคไทยเป็นอย่างดี อีกทั้งแม็คกรุ๊ป ยังเดินหน้ายุทธศาสตร์ครอบคลุมในทุกด้าน สำหรับแผนการขับเคลื่อนธุรกิจในปี 2564 (ก.ค. 2563-มิ.ย. 2564)  แม็คกรุ๊ปมุ่งสร้าง New S-Curve  ด้วยการขยายฐานกลุ่มเป้าหมายให้กว้างมากขึ้น โฟกัสกลุ่มลูกค้าผู้หญิง, มิลเลนเนียล และคนเมือง

Jeans Never Die “แม็คกรุ๊ป” โตสวนแฟชั่น

“การพัฒนาสินค้าและทำตลาดของแม็คกรุ๊ปเน้น Customer Centric เพื่อให้สามารถเข้าถึงและตอบโจทย์ความต้องการแต่ละกลุ่มได้อย่างลงตัว การสื่อสารการตลาดก็จะทำแบบส่งตรงเฉพาะกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าผู้หญิง ซึ่งปัจจุบันมีสัดส่วน 40-50%  ซึ่งนอกจากการขยายสินค้าและมีดีไซน์ที่หลากหลาย ยังสร้าง “Product Hero” ด้วยการทำ Brand Collaboration  พร้อมกับการเชื่อมต่อออฟไลน์-ออนไลน์ (Seamless O2O) เพื่อสร้าง Customer Experience”  

 

วันนี้นอกจาก Mc Jean จึงมี Mc SELVEDGE Series, กลุ่ม Non-denim Category เช่น Hoodie , Anti UV , Mc SNEAKERS และล่าสุดที่เตรียมปล่อยออกสู่ตลาดอย่าง “Mc LAY

  

ส่วนการเข้าถึงกลุ่มมิลเลนเนียล  บริษัทเตรียม Collaboration กับพันธมิตรที่มิลเลนเนียลชื่นชอบและติดตาม เพื่อพัฒนาสินค้าร่วมกัน เน้นสื่อสารการตลาดผ่านช่องทางโซเซียลมีเดียด้วย Influencer และสำหรับกลุ่มคนเมือง อยู่ระหว่างการเจรจาจับมือพันธมิตรทางธุรกิจ ขยายกลุ่มสินค้าที่ไม่ใช่เครื่องแต่งกาย มีนวัตกรรม รวมทั้งการปรับ New Concept Store  ช้อปปิ้งรูปแบบใหม่อีกกว่า 20 จุดขายทั่วประเทศ ภายในเดือนธันวาคมนี้ เพื่อตอบรับไลฟ์สไตล์ของกลุ่มมิลเลนเนียล

Jeans Never Die “แม็คกรุ๊ป” โตสวนแฟชั่น

“ชนัญญารักษ์” บอกอีกว่า แม็คกรุ๊ปให้ความสำคัญกับ “Supply Chain” มาก ถือเป็นหัวใจของการขับเคลื่อนธุรกิจ เพราะทำให้ “แม็คกรุ๊ป” มีความยืดหยุ่นและคล่องตัว รวมทั้งยังนำ Big Data และ AI เข้ามาปรับใช้ ซึ่งช่วยให้การบริหารจัดการต้นทุนและการกระจายสินค้ามีประสิทธิภาพมากขึ้น มีสภาพคล่องสูงและไม่มีหนี้ รวมถึงมีพื้นฐานการบริหารจัดการองค์กรที่ดี  มีกลยุทธ์ที่ชัดเจน จึงพร้อมลงทุนต่อยอดการเติบโตทันที

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

แม็คกรุ๊ป โชว์กำไร 10.4%

MC คุมเข้มต้นทุน-รุกออนไลน์ สู้ไวรัส

"แม็คกรุ๊ป"เดินเกมรุก ดันกำไรโตสวนกระแสนิวไฮรอบ 3ปี