ล้มดีล “แจกเมล็ดพันธุ์ข้าว” ใครเสียผลประโยชน์

01 ก.ค. 2563 | 04:00 น.
อัปเดตล่าสุด :01 ก.ค. 2563 | 13:46 น.
3.3 k

ศูนย์ข้าวชุมชุมชน ปูดเงามืดบีบ ขรก.เซ็นรับรองข้าวสหกรณ์ที่ไอ้โม่งไปซื้อจากชาวบ้าน หวังเขมือบงบกว่า 400 ล้าน แต่ไม่เล่นด้วย ด้าน สมาคมชาวนา-กรรมการ นบข. วอนอย่าใช้ชาวนา เป็นเครื่องมือการเมือง

“ฐานเศรษฐกิจ” ยังแกะรอย ตามที่กรมการข้าวได้ดำเนินโครงการรักษาระดับปริมาณและคุณภาพข้าวปี 2563/64 เพื่อมีเมล็ดพันธุ์ข้าวคุณภาพดีนำไปช่วยเหลือเกษตรกรที่ประสบภัยแล้ง ฝนทิ้งช่วง และอุทกภัย สำหรับนำไปใช้เพาะปลูกในฤดูนาปี 2563/64 ประกอบด้วยเมล็ดพันธุ์ข้าว จำนวน 14,300,000 กิโลกรัม เป็นเมล็ดพันธุ์ข้าวที่มีคุณภาพได้มาตรฐานตามที่กรมการข้าวกำหนด และเป็นไปตามพระราชบัญญัติพันธุ์พืช พ.ศ. 2518 และที่แก้ไขเพิ่มเติม วงเงินกว่า 400 ล้านบาท กรมการข้าวได้ตั้งงบประมาณไว้เพื่อที่จะจัดหาเมล็ดพันธุ์ข้าวขาวดอกมะลิ 105 จำนวน 13,000,000 กิโลกรัม และเมล็ดพันธุ์ข้าว กข6 จำนวน 1,300,000 กิโลกรัม เกิดอะไรขึ้น ทำไมข้าราชการจึงล่ารายชื่อเพื่อให้อธิบดีกรมการข้าวล้มโครงการนี้

ล้มดีล “แจกเมล็ดพันธุ์ข้าว” ใครเสียผลประโยชน์

นายอัษฎางค์ สีหาราช ประธานคณะกรรมการกลางศูนย์ข้าวชุมชนระดับประเทศ เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ความจริงกรมการข้าวมีบางส่วนได้แจกพันธุ์ข้าวไปแล้ว แต่ไม่เพียงพอเนื่องแปลงข้าวชั้นเมล็ดพันธุ์ที่ปลูกไปแล้วกระทบแล้งและเสียหาย ทำให้มีบางสหกรณ์ไปหาซื้อข้าวจากชาวบ้าน ซึ่งไม่ใช่ชั้นเมล็ดพันธุ์มารวบรวมไว้ เพราะรู้ว่ามีเงินกว่า 400 ล้านบาท ที่ยังเหลืออยู่จะให้กรมการข้าวซื้อข้าวจากสหกรณ์นี้

แต่กรมการข้าว มีเจ้าหน้าที่และข้าราชการบางคนได้ไปดูเมล็ดพันธุ์แล้วว่าที่มาของเมล็ดพันธุ์ข้าวไม่ใช่ชั้นเมล็ดพันธุ์แล้วจะมาเพื่อให้กรมการข้าวรับรองข้าราชการหลายคนกังวลมาก จะให้ไปยอมรับได้อย่างไร เพราะข้าวที่เห็นนั้นไม่ใช่ชั้นข้าวเมล็ดพันธุ์ ถ้าแจกเกษตรกรไปแล้วมีปัญหาขึ้นมาใครรับผิดชอบ นี่คือสิ่งที่ตนได้ทราบปัญหาและเป็นประเด็นที่อึดอัดใจมาก ซึ่งจะใช้วิธีการอะไรตนไม่รู้ที่จะบีบบังคับเพื่อให้กรมการข้าวออกใบรับรองข้าวสหกรณ์แห่งนี้ให้เป็นชั้นข้าวเมล็ดพันธุ์

“เป็นธรรมดา ข้าราชการกลัว แล้วการรับรองมาตรฐานเมล็ดพันธุ์ไม่ใช่อยู่จะไปบังคับให้รับรอง ซึ่งจะต้องรับรองมาจากแปลง มาจากเมล็ดพันธุ์ชั้นขยาย เพื่อมาปลูกเป็นชั้นจำหน่าย คือ เจ้าหน้าที่ของกรมการข้าวจะต้องมาตรวจ มาดูเป็นระยะ ๆ ประเมินแปลง 3-4 ครั้ง ครั้งที่ 1 ตอนปักดำ ครั้งที่ 2 ตอนข้าวแตกกอ ครั้งที่ 3 ตอนข้าวจะออกรวง และครั้งที่ 4 ก่อนเก็บเกี่ยว นี่เฉพาะตรวจแปลง แล้วพอตรวจแปลงเสร็จก็ไม่ได้หมายความแปลงนี้จะผ่านการเป็นแปลงเมล็ดพันธุ์ จะต้องส่งข้าวตัวอย่างที่เก็บเกี่ยวไปเข้าห้องวิเคราะห์ว่ามีเมล็ดแดงปนเกินมาตรฐานหรือไม่ เปอร์เซ็นต์ความงอกเท่าใด นี่คือกระบวนการ ไม่ใช่ไปเอาข้าวจากไหนมาแล้วมาบอกให้เซ็นรับรองให้หน่อยว่าเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นขยาย ซึ่งก่อนหน้านี้ก็เคยมีคดีถึงขั้นติดคุก ได้ยินเพิ่งออกมาไม่นาน คนก็ยังหลอนและเกรงกลัวกันอยู่หวั่นจะซ้ำรอยเดิม"

ล้มดีล “แจกเมล็ดพันธุ์ข้าว” ใครเสียผลประโยชน์

นายปราโมทย์ เจริญศิลป์ นายกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย กล่าวว่า สงสารข้าราชการที่ทำถูกแล้ว ทุกสมาคมเกี่ยวกับข้าวทราบเบื้องหน้าเบื้องหลังกันดี แต่ไม่อยากพูดมาก ในนามสมาคมขอสนับสนุนข้าราชการที่ให้ความสำคัญกับเกษตรกรโดยเฉพาะนาแปลงใหญ่ของสมาคม

ล้มดีล “แจกเมล็ดพันธุ์ข้าว” ใครเสียผลประโยชน์

เช่นเดียวกับนายสุเทพ คงมาก กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) กล่าวว่า จะนำเมล็ดพันธุ์ข้าวไปแจกชาวนาที่ไหน แล้วในช่วงนี้เลยเวลาที่จะมาแจกเมล็ดพันธุ์ข้าวแล้ว ตรงเวลาหรือไม่ เมล็ดพันธุ์มีคุณภาพหรือไม่ แต่ที่ไม่แจกใช่เหตุผลแท้จริงอย่างที่ข้าราชการกล่าวอ้างหรือไม่ ซ่อนอะไรไว้หรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องการเมืองกับข้าราชการ ตนไม่อยากให้ความคิดเห็น เพราะปัญหาโครงการเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าล่าช้า ยังมีเรื่องไม่ตรวจรับ มีปัญหาคณะกรรมการขัดแย้งภายใน เป็นปัญหาอะไร เป็นเรื่องผลประโยชน์ทั้งนั้น

ความจริงในการทำโครงการเพื่อชาวนา ควรจะมีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ ทันเวลา ความต้องการของชาวนาตรงเป้าวัตถุประสงค์หรือไม่ จะต้องชัดเจนไม่ใช่ไปแจกเรื่องภัยแล้งและน้ำท่วมตั้งแต่ต้นปีแล้ว เมล็ดพันธุ์ขาดแคลนไม่มี แล้วจะไปแจกภาคอีสาน วันนี้อีสานหว่านข้าวอายุ 1 เดือนแล้ว จะไปแจกใคร เรื่องชาวนานี่เป็นปลายเหตุ อย่ามาอ้างชาวนาจะได้ประโยชน์หรือเสียประโยชน์ ผมก็บอกมาตลอดว่า “อย่าใช้ชาวนาเป็นเครื่องมือในการหาประโยชน์ทางการเมือง แล้วอย่ามาโยนบาปให้ชาวนา”