“ทีเส็บ”บูมตลาดไมซ์กลุ่มประเทศ GMS 

08 ต.ค. 2562 | 14:13 น.

 “ทีเส็บ” บูมการค้าการลงทุนกับประเทศลุ่มน้ำโขง ผ่านการประชุม 4 ระเบียงเศรษฐกิจจับคู่ธุรกิจไทยกับเพื่อนบ้าน สร้างมูลค่าซื้อขายแล้ว 307 ล้านบาท 
 
นางนิชาภา ยศวีร์ รองผู้อำนวยการ สายงานธุรกิจ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือทีเส็บ กล่าวว่า ทีเส็บมีนโยบายใช้การประชุมหรืองานแสดงสินค้าเป็นเครื่องมือขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยร่วมกับประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการค้าการลงทุนและโลจิสติกส์ของภูมิภาค รวมทั้งส่งเสริมเมืองรองให้เป็นจุดหมายของการเดินทาง 

จึงได้สนับสนุนให้มีการจัดประชุม 4 ระเบียงเศรษฐกิจกลุ่มอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง (Greater Mekong Sub-region หรือ GMS) ในหัวเมืองภูมิภาคต่างๆ ของไทย เพื่อเป็นเวทีเชื่อมโยงให้เกิดการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว การร่วมมือแลกเปลี่ยนด้านโลจิสติกส์ระหว่างผู้ประกอบการของไทยกับผู้ประกอบการของประเทศกัมพูชา เวียดนาม สปป.ลาว เมียนมา และจีนตอนใต้ โดยเป็นการ่วมมือกับกลุ่มองค์กรธุรกิจและอุตสาหกรรมภาคเอกชนในจังหวัดต่างๆ ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ระเบียง

“ทีเส็บ”บูมตลาดไมซ์กลุ่มประเทศ GMS 

 

โดยในรอบ 2 ปีที่ผ่านมา D-MICE  ได้สนับสนุนงบประมาณ เป็นเจ้าภาพร่วมของงานประชุมระเบียงเศรษฐกิจ 4 งาน ได้แก่ งานประชุมนานาชาติ ระเบียงเศรษฐกิจ หลวงพระบาง อินโดจีน เมาะลำไย โดยร่วมมือกับสภาอุตสาหกรรมจังหวัด หอการค้าจังหวัดต่างๆ ที่อยู่ในเส้นทางระเบียงเศรษฐกิจ  งานจัดขึ้นในปี 2561 ที่พิษณุโลก มีการจับคู่เจรจาธุรกิจไทย-สปป.ลาว 15 ราย ไทย-เมียนมา 5 ราย มูลค่าธุรกิจรวม 226 ล้านบาทผู้เข้าร่วมประชุมราว 400 คนจาก 3 ประเทศ

 

งานประชุม Cambodia-Vietnam-Thailand Economic Corridor Cooperation Conference (CVTEC) โดยร่วมมือกับหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาธุรกิจไทย-กัมพูชา สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวฯ เพื่อผลักดันการเปิดเส้นทางเดินเรือเชื่อมโยงชายฝั่งทะเล 3 ประเทศ รวมทั้งพื้นที่ East Economic Corridor (EEC) ครอบคลุมเมืองกาเมาและเกียนยางของเวียดนาม เมืองพระสีหนุ เกาะกง แกบ กัมปอต และตาแกวของกัมพูชา และจังหวัดตราด จันทบุรี ระยองและชลบุรี 

“ทีเส็บ”บูมตลาดไมซ์กลุ่มประเทศ GMS 

มีการจัดประชุมในพัทยาในปี 2561 และระยองในปี 2562 ผู้เข้าร่วมประชุม 200 คนจาก 3 ประเทศและได้มีการลงนามบันทึกความเข้าใจ 3 ฝ่ายเพื่อเปิดเส้นทางเดินเรือส่งเสริมการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว โดยมีกำหนดทดลองเปิดเดินเรือในปี 2563 

 

นอกจากนี้ยังมีงานประชุม GMS Logistic Forum จัดในปี 2561 ที่กรุงเทพฯ และขอนแก่นในปี 2562 เป็นการจัดประชุมนานาชาติด้านโลจิสติกส์ของกลุ่ม GMS 6 ประเทศเป็นครั้งแรก โดยร่วมมือกับสมาคมผู้ขนส่งในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง และหน่วยงานเกี่ยวข้อง เพื่อผลักดันความร่วมมือ แลกเปลี่ยนทางธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการโลจิสติกส์ 6 ประเทศ อนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง ในปี 2562 มีการจับคู่เจรจาทางการค้า 112 คู่ มูลค่า 12 ล้านบาท มีผู้เข้าร่วมประชุม 450 คนจาก  6 ประเทศ 

“ทีเส็บ”บูมตลาดไมซ์กลุ่มประเทศ GMS 

ส่วนงาน GMS Logistic Forum 2019 & Mekong Forum  ที่เพิ่งผ่านมาจัดจังหวัดขอนเเก่นมีการยกระดับงานให้เป็นสากลมายิ่งขึ้นมีกิจกรรม Business Matching มีผู้เข้าร่วมสูงสุดกว่า 450 คนและคาดว่าจะมีการเจรจาจับคู่ทางการค้าเกิดขึ้นในงานไม่น้อยกว่า 100 ล้านบาท

การจัดประชุมครั่้งนี้ ยังมีงานประชุมสัมมนานาชาติ เชื่อมโยงระเบียงเศรษฐกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์  GMS ครั้งที่1  (1st GMS – Thailand E-Commerce Economic Corridor หรือ GTEC) จัดในปีนี้ที่เชียงราย เพื่อส่งเสริมการเชื่อมโยงผู้ประกอบการไทยในพื้นที่ภาคเหนือ 17 จังหวัดกับผู้ดำเนินการ E-Commerce Platform เป่ยเตี้ยน ของจีน เพื่อให้เป็นช่องทางจำหน่ายสินค้าไทยเจาะตลาดจีนผ่าน platform ดังกล่าว ผู้เข้าประชุมและจับคู่ธุรกิจ 120 ราย และผู้ค้า 30 ราย ผ่านระบบ E-Commerce Platform เป่ยเตี๋ยน ของจีน มีการจับคู่เจรจาธุรกิจสร้างยอดขายสินค้าไทยเข้าตลาดจีนรวมมูลค่า 69.5 ล้านบาท

“ในปีหน้าทีเส็บจะยังคงสนับสนุนการประชุมระเบียงเศรษฐกิจต่อไป หลังจากในรอบ 2 ปีที่ผลักดันให้มีการเจรจาซื้อขายทางธุรกิจ รวมมูลค่าเริ่มต้นได้ 307 ล้านบาท  โดยในส่วนของระเบียบเศรษฐกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จะขยายไปยังพื้นที่ภาคใต้และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทั้งหมดนี้ เพื่อช่วยสร้างรายได้ ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของภูมิภาคและท้องถิ่นผ่านงานประชุม และตอบสนองนโยบายภาครัฐ”นางนิชาภากล่าว